เป็นแถลงการณ์กองทัพบกที่ประกาศชัดเจนในเรื่องนี้ โดยพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีกัมพูชาอ้างถึงเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยเปิดฉากยิงก่อนนั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมากองทัพบก โดย ผบ.ทบ.เน้นย้ำหน่วยและกำลังพลให้เคร่งครัดในเรื่องกฎการปะทะ และการปะทะครั้งนั้นเป็นไปในลักษณะของการป้องกันตัวระดับบุคคล เนื่องจากขณะนั้น หน่วยได้รับข่าวสารว่ามีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธได้รุกล้ำเข้ามาวางกำลังในพื้นที่ประเทศไทย ฝ่ายไทยจัดกำลังขนาดเล็กเข้าไปเพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ แต่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธตอบโต้จึงเกิดการปะทะ ซึ่งเรื่องนี้ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว
ยืนยันเหตุข้อพิพาทในพื้นที่ ฝ่ายไทยพยายามดำเนินการผ่านกลไกเจรจาระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่ ตามที่ทั้งสองประเทศตกลงไว้ แต่กลับเป็นฝ่ายกัมพูชาที่ไม่มีท่าทีให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในระยะหลัง
โฆษกกองทัพบกยังเผยว่า กองทัพบกมีความพร้อมต่อปฏิบัติการทางทหารในระดับสูง เพื่อรองรับกรณีที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางทหารตอบโต้ปัญหาการรุกล้ำอธิปไตย หลังจากติดตามรวบรวมข่าวสารจากฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาดำเนินการเตรียมความพร้อมทางทหารอย่างเข้มขัน ควบคู่กับมาตรการด้านการต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ากังวลในแง่มุมทางทหาร
ทำให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบกมีคำสั่งทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในระดับสูงเพียงพอในการตอบสนองต่อภารกิจในขั้นของการใช้กำลังทางทหาร ตามแผนป้องกันประเทศ เพื่อตอบโต้กรณีการรุกล้ำอธิปไตยในขอบเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อใช้ความพยายามแก้ปัญหาตามแนวทางแห่งสันติที่ทุกฝ่ายปราถนาแล้ว แต่ไม่บรรลุผล
นอกจากนี้พลตรีวินธัย ยังโพสต์ข้อความล่าสุดอีกด้วยว่า กองทัพบกขอยืนยันว่า การปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังในพื้นที่ชายแดน ดำเนินการด้วยความรอบคอบ สุขุม และตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจสถานการณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกับทุกฝ่าย ขณะเดียวกัน ก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ อย่างเต็มขีดความสามมรถ หากสถานการณ์จำเป็น #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#เที่ยงเปรี้ยงปร้าง#รัฐบาลแพทองธาร#รัฐบาล#ครม#ชายแดน#ทหารไทย#ไทยกัมพูชา#รัฐบาล#JBC#ICJ#ชายแดนไทยกัมพูชา#กองทัพบก