ถาวรชี้ อุ๊งอิ๊งส่อ “ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง” ปมที่ดินอัลไพน์

กรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ อดีต รมช.มหาดไทยเซ็นเพิกถอนกรรมสิทธิ์ปมที่ดินอัลไพน์ ถูกจุดพลุให้สาธารณชนกลับมาสนใจประเด็นนี้อีกครั้ง เพราะมันกลายเป็นความเชื่อมโยงไปถึงนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัทดังกล่าว นำไปสู่คำถามว่า การครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิ์หรือไม่? เพราะสุดท้ายต้องกลายเป็นที่ธรณีสงฆ์หรือเปล่า และถ้าใช่ ใครคือผู้รับผิดชอบ?

The Publisher พูดคุยกับ คุณถาวร เสนเนียม อดีต รมช.มหาดไทย ผ่านรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง ดำเนินรายการโดย คุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร ไปตรวจสอบกันว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะจบอย่างไร

The Publisher: ชาดาลงนามให้มหาดไทยเพิกถอน มันยากตรงไหน?
คุณถาวร: ที่ดินของยายเนื่อม ทำที่ดินให้เป็นมรดกของวัดธรรมนิการาม หากยายเนื่อมเสียชีวิตจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดฯ แต่ปรากฎว่ามีคนไปฉ้อฉลที่ของวัด จัดทำเป็นนู่นนี่ แต่งตั้งผู้จัดการมรดก และมีนักการเมืองในยุคนั้น ถูกแจ้งข้อหารวยเละ
ป.ป.ช.ทำให้คดีขาดอายุความ หลังจากนั้นเอาไปทำสนามกอล์ฟ ทำหมู่บ้านจัดสรร ที่ดินที่ตกเป็นของวัด ให้ถือเป็นธรณีสงฆ์ ซึ่งถ้าจะให้ตกเป็นของผู้อื่นต้องออกเป็น พรบ.เท่านั้น ไปจดทะเบียนทางธุรการ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ได้

อย่างไรก็ตาม ที่ดินทั้งหมดนั้น ก็ยังเป็นของวัดฯ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ผู้มีอำนาจในการเพิกถอนเอกสาร คือ อธบ.กรมที่ดิน รมว.มีอำนาจสั่งให้เป็นไปตามหน้าที่ ถ้าไม่ทำถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

The Publisher: ทำไมคดีถึงยาวนาน?
คุณถาวร: เนื่องจากที่ดินอยู่ในมือนักการเมืองที่เป็นรมว.กระทรวงมหาดไทยผู้มีอำนาจท่านหนึ่ง
นำมาขายให้คนที่มีตน.สูงทางการเมือง แล้วตอนนี้ไปอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งที่ชื่ออุ๊งอิ๊ง คือมีอุ๊งอิ๊งถือหุ้นอยู่ ก็ยิ่งทำให้ขรก.กลัวไม่กล้าการดำเนินการกับนักการเมือง ก็เอาขรก.คนนั้นไปเข้าคุกก็จบ ก็จัดการเสีย

The Publisher: หน้าที่ขรก.ประจำควรปฏิบัติการนโยบายนี้?
คุณถาวร: ไม่ใช่นโยบายแต่ต้องปฏิบัติตามกม. เป็นหน้าที่ตามกม. ที่ต้องปฏิบัติตาม

The Publisher: ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับคนสุจริตที่ไปซื้อบ้านหรือไม่?
คุณถาวร: อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ให้ไปไล่เบี้ยเอา กับคนที่ไปหลอกให้ชาวบ้านมาซื้อ ใครเป็นต้นเหตุก็ต้องไปชดใช้ ฃค่าสินไหมทดแทน ก็ไล่เบี้ยกันไป

The Publisher: กรมที่ดินกลัวว่าจะมีการฟ้องร้อง?
คุณถาวร: แล้วตนเองทำผิดมาตั้งแต่ต้น ต้องดำเนินการกับลูกน้องของตนก่อน ไปอ้างไม่ได้ ถ้างั้นลาออกจากอธบ.กรมที่ดิน แล้วเอาอธบ.คนที่ปฏิเสธไปเข้าคุก แล้วแต่งตั้งคนใหม่เข้าไป

The Publisher: จุดจบจะนำไปสู่การเพิกถอนได้ไหม?
คุณถาวร: ไม่ใช่เป็นการเพิกถอน เพราะกรรมสิทธิ์ยังเป็นของวัดอยู่ 900 กว่าไร่ที่ดินยังเป็นของธรณีสงฆ์อยู่ ไปเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน ไม่อยากใช้คำว่าเพิกถอน เพราะกรรมสิทธิ์ยังเป็นของวัด

The Publisher: ถ้าต้องการดำเนินการควรทำอย่างไร?
คุณถาวร: คุณชาดา รมช.กระทรวงมหาดไทยสั่งไว้แล้ว เป็นการสั่งของรมว. ขรก.ที่รับผิดชอบในกรมที่ดิน อธบ.กรมที่ดินต้องไปดำเนินการ ส่วนจะแก้โกงจะว่ามีคนรับซื้อมาโดยสุจริตก็ไปไล่เบี้ยเอา ที่กรมที่ดินไปก่อให้เกิดความเสียหาย หรือบริษัทใด ก็ต้องไปไล่เบี้ยเอา

The Publisher: มองว่ามีการเมืองเกี่ยวข้อง?
คุณถาวร: แน่นอน ตั้งแต่ อดีตรมว.กระทรวงมหาดไทย ป.ป.ช.ทำให้คดีขาดอายุความ คนนั้นก็ควรจะดำเนินคดีกับคนนั้นด้วย น่าจะทำให้คดีขาดอายุความไม่เกิน 20 ปี ผมเจอเมื่อวันก่อนก็ทำท่าจะตายอยู่ ไปดูสำนวน แล้วส่งไปให้อัยการ อัยการบอกฟ้องไม่ได้ เพราะขาดอายุความ แล้วไปฟ้องเองทั้งที่รู้ว่าขาดอายุความก็ยังดันทุรังฟ้อง ให้เห็นว่าตนเองสุจริต แล้วป.ป.ช.คนนั้นเป็นนักกม.ด้วย เรื่องที่หนึ่ง
ส่วนหลังจากนั้นเห็นได้ว่ามีการติดคุกมาแล้ว สองปี อดีตอธบ.กรมที่ดิน มารับหน้าที่ก็ติดคุกกันไป เพราะฉะนั้นใครก็แล้วแต่ที่โกงที่ดินวัด ตกนรก ไปอยู่ในคุกแน่นอน ไปดูว่าใครยังมีชีวิตอยู่แล้วคดีไม่ขาดอายุความไปดำเนินการเสีย ส่วนเรื่องการเอาชื่อออกจากโฉนดทุกแปลงสามารถทำได้เลย เนื่องจากยังไม่มีการออกพรบ.เปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ใดๆ

The Publisher: ตอนนี้ไม่มีการออกพรบ. = ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของวัด?
คุณถาวร: ยังเป็นอยู่นับตั้งแต่ยายเนื่องตาย หลายคนบอกว่าไม่ให้วัดถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเกิน 50 ไร่ ก็ดำเนินการเสีย แต่ตามหลักกม.ที่ดินตรงนี้เป็นของธรณีสงฆ์

The Publisher: ขรก.ไม่กล้าดำเนินการ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับนายกฯ?
คุณถาวร: ถูกต้อง เพราะฉะนั้นให้ฝ่ายค้าน และคนที่ดำเนินการทุกท่าน คือ ป.ป.ช. กรมที่ดิน ว่าผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงมั้ย ครอบครองโดยผิดกม.ไหม ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเพียงแต่ว่าขรก.ไม่กล้า ฝ่ายค้านไม่เข้มแข็ง ไม่รู้ว่ากลัว หรือมีอะไรเกี่ยวข้องหรือเปล่า

The Publisher: จะมีบทสรุปจบหรือไม่?
คุณถาวร: สรุปจบแล้ว ฟันธงแล้ว มันคือที่ของกรณีสงฆ์ ก็ต้องให้จนท.เข้าไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตนเองเท่านั้น ไม่ต้องแต่งตั้งกรรมการอะไรมากมาย ดำเนินการได้เลย

The Publisher: ที่พูดว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง จะกลายเป็นปัญหาของนายกฯ หรือไม่?
คุณถาวร: ถ้าไปร้องก็เป็นหน้าที่ของป.ป.ช. หรือศาลรธน. ที่เข้าไปตรวจสอบ ก็มาวินิจฉัย ว่าผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงไหม ในความเห็นผมคิดว่า “ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง”

The Publisher: มองว่า “ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง” อย่างไร?
คุณถาวร: ครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิ์ แต่เขาอาจจะอ้างว่าเพียงแต่ถือหุ้นบริษัท เพราะบริษัทเป็นแค่กระดาษเป็นนามธรรม หรือกรรมการบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ

The Publisher: จะอ้างได้หรือไม่ว่า ตอนได้ที่ดินมาไม่ทราบว่ามันเป็นปัญหา?
คุณถาวร: โถ่ จบปริญญาโท จบตรีจากจุฬาฯ คณะรัฐศาสตร์ ทำธุรกิจมีเงินสี่พันกว่าล้าน บอกว่าไม่รู้ อมพระไปพูดสักสิบวัด ก็ไม่มีใครเชื่อ

The Publisher: เรื่องนี้ถือว่าเป็นกับดัก?
คุณถาวร: ไม่ใช่กับดักครับ อันนี้อยู่ที่การกระทำของเขาเอง

The Publisher: จะส่งผลต่อตำแหน่งที่เป็นอยู่หรือไม่?
คุณถาวร: อยู่ที่องค์กรตรวจสอบ ศาลรธน. กับ ป.ป.ช. ครับ

The Publisher: พรรคปชธป.ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง?
คุณถาวร: ก็สั่งการมาเป็นระยะๆ จนดำเนินคดีกับอดีตผบ.กระทรวงมหาดไทย ก็ติดคุกไปแล้ว 2 ปี แล้วก็พอผมไปเป็นฝ่ายค้าน ผู้ดำเนินการก็ไม่กล้าสั่งการกันไปอีกเลย นี่จึงเป็นต้นเหตุของ “การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศไทย” ว่าคนที่เป็นขรก. หรือนักการเมืองไม่กล้า ดำเนินการ อ้างว่ากลัวกระทบต่อปชช. ในที่ดินแปลงนี้

The Publisher: กรณีของอัลไพน์สะท้อนให้เห็นปัญหาใดบ้าง?
คุณถาวร:

• ขรก.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เลือกปฏิบัติ

• กระบวนการยุติธรรมอ่อนแอ
• ทุจริตแม้กระทั่งที่ดินวัด
• เมื่อทราบแล้ว องค์กรที่รับผิดชอบสามารถดำเนินการได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครร้องเรียน นั่นคือการบังคับใช้กม.หย่อนยานมาก
  หลังจากนี้หากฝ่ายค้าน องค์กรอิสระ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผมเชื่อว่าปีเดียวก็จบครับ

The Publisher: สุดท้ายจะมีอำนาจการเมืองแทรกแซงหรือไม่?
คุณถาวร: หากอำนาจการเมืองแทรกแซง แล้วองค์กรอิสระนำนักการเมืองอิสระไปติดคุกล่ะ มีรมว.ติดคุกแล้วนับ 10 คน มีนายกฯ ที่ศาลตัดสินให้ติดคุกแล้วแต่ยังลอยนวลอยู่ตั้ง 2 คน คสช.ปฏิวัติมีอำนาจอยู่ในประเทศนี้อยู่ตั้ง 10 ปี มีอำนาจทั้ง 3 อำนาจ และยังมีมาตรา 44 อยู่ ผมยังขอตำหนิด้วยซ้ำไปว่าพวกคุณเพิกเฉย เวลารัฐประหารบอกว่าต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาทุจริตโดยมิชอบ แต่เมื่อมีอำนาจในมือแล้ว ปรากฏว่ามีองค์กรตรวจสอบว่าในยุคคุณปลายๆ ทุจริตมากกว่ายุคของเขา ได้แค่ 3-6 คะแนนจาก 100 คะแนน จากลำดับที่ 88 จากประเทศที่ทุจริต กลับกลายไปเป็นลำดับที่ 101 อย่างนี้คุณจะภูมิใจว่าคุณเข้าไปแก้ปัญหาทุจริตแบบนี้คุณโม้ไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เปิดขึ้นกับประเทศไทยคือ “ไม่ใช้อำนาจให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” จะไปใช้อำนาจให้เกิดประโยชน์กับคนรอบข้าง งั้นก็ขอ

“ฝากอนาคตของประเทศชาติไว้ให้พี่น้องประชาชนและคนรุ่นใหม่”