นายเชาว์ มีขวด ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนางสาวอรัญญา จันทดี ทนายความของนายนเรศ วงศ์เศรษฐกุล ผู้เสียหาย ที่ถูกนายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช กับพวก รุมทำร้ายกลางงานบวช ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ขอให้สอบสวนพฤติกรรม ว่าฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีรุมทำร้ายนักธุรกิจท้องถิ่นกลางงานบวช และพยายามใช้ตำแหน่งกดดันให้ถอนแจ้งความ โดยเหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 23 พ.ค. 2568 ที่งานบวช อบต.ควนพัง จ.นครศรีฯ ผู้เสียหายคือนายนเรศ วงศ์เศรษฐกุล นักธุรกิจวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ ถูกส.ส.ชัยชนะใช้กำลังและวาจาข่มขู่ ห้ามลงสมัคร อบต.ร่อนพิบูลย์ ก่อนจะรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และมีการชักปืนข่มขู่กลางงานบวช
“เหตุการณ์นี้มีทั้งบันทึกประจำวัน คลิปเสียง และพยานแวดล้อมครบถ้วน แต่ผู้เสียหายถูกกดดันอย่างหนักให้ถอนแจ้งความ ทั้งจากครอบครัวของผู้ก่อเหตุ และจากการใช้อิทธิพลในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น นี่ ไม่ใช่ครั้งแรก ที่นายชัยชนะตกเป็นข่าวข่มขู่คู่แข่งทางการเมืองในช่วงเลือกตั้ง มีหลักฐานอีกคดีที่ถูกแจ้งแล้วถอนในลักษณะคล้ายกันเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เช่นกรณีวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายชัยชนะได้ข่มขู่นายณัฐวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ถ้าเจอที่ไหนจะทำร้ายถึงแก่ชีวิต ซึ่งได้มีการแจ้งความเป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช ต่อมามีการถอนแจ้งความอ้างว่าเป็นการเข้าใจผิด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการที่นายชัยชนะไปพูดคุยให้ถอนแจ้งความด้วยเช่นกัน”
นายเชาว์ระบุว่า พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเฉพาะบุคคลอีกต่อไป แต่สะท้อน ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่นักการเมืองบางคนใช้ตำแหน่งและอิทธิพลคุกคามคู่แข่งและปิดปากเหยื่อ เพื่อรักษาฐานอำนาจของตนเองจึงขอให้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินการตามมาตรา 234(1) และตรวจสอบว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามข้อ 12 และ 17 หรือไม่
“ประชาชนควรได้เห็นว่าสภาฯ คือที่รวมของ “ผู้แทนราษฎร” ไม่ใช่ “ผู้มีอิทธิพล” และตำแหน่งประธานกรรมาธิการตำรวจ ต้องไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือกันคดีให้ใคร”
นอกจากนี้ยังได้ร่วมเดินทางไปสตช.กับนางสาวอรัญญา จันทดี ทนายความของนายนเรศ เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรพล.ต.ต. จารุต ศรุตยาพร ผบก.ตำรวจนครีธรรมราช ฐานข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย เพื่อช่วยเหลือนายชัยชนะ และให้โอนคดีจากพื้นที่มาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบฯ ด้วย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#นักการเมืองกร่าง#สสเมืองคอน#ชัยชนะเดชเดโช#สจทอ