.
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา, รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, รองประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ วังวรดิศ ว่า…
.
“#ปัญญาต้องนำหน้าการบริหาร เป็นข่าวสำคัญ เรียกว่า “Top of the Newsline” ทางการเมืองเวลานี้ คงไม่พ้นจากการที่สมาชิกวุฒิสภารวมเข้าชื่อกันได้ 40 คน แม้จะเป็นในช่วงปิดสมัยการประชุม ประเด็นที่มีการนำเสนอชื่อบุคคลที่หลายฝ่ายมองว่า ไม่ชอบมาพากลด้วยประการทั้งปวงอีกทั้งเป็นการมิบังควร ขึ้นเป็นฝ่ายบริหาร แม้จะมีการทักท้วงจากบุคคลผู้มีความหวังดีต่อระบบการบริหารราชการแผ่นดินและเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติ ซึ่งถึงแม้บุคคลผู้เป็นชนวนเหตุจะได้ถอนตัวออกไปแล้วก็ตาม”
.
“เรื่องเช่นนี้ ว่าด้วยหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีของประเทศไทย ต้องถือเป็นคราวโชคไม่ดีของบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งสำหรับเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นได้เลย หากใช้ปัญญาว่าด้วยความรับผิดชอบต่ออำนาจหน้าที่นำหน้าการบริหาร หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นคราวเคราะห์ทางการเมือง คือ ความเอาแต่ใจหรือเรียกว่าการกระทำตามอำเภอใจของฝ่ายการเมืองที่ไม่มองถึงระเบียบแบบแผนและการธำรงไว้ซึ่งการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุข”
.
“การตัดสินใจกระทำอะไรเช่นนี้ ผลลัพธ์กลายเป็นสิ่งที่ทำลายความเชื่อมั่นและเกียรติภูมิของประเทศ อันจะก่อให้เกิดการท้าทาย การดูหมิ่นดูแคลน พูดแบบภาษาชาวบ้านอย่างเรา ๆ ก็คือ อวดดี อวดเบ่ง ไม่เกรงใจประชาชน และท้าทายกับระบบคุณธรรมอันเป็นเสาหลักของประเทศว่าด้วยการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุขและความเป็นจริยธรรมรัฐ หากประเทศชาติขาดไปซึ่งผู้บริหารที่ใช้ปัญญา ความสุขุมรอบคอบ ความรู้ความสามารถ ความสุจริตใจในการพิทักษ์รักษาประเทศชาติและประชาชน”
.
“คนดีมีความสัตย์ซื่อสุจริตไม่ลบหลู่ดูหมิ่นแผ่นดินบริหารประเทศ ผลลัพธ์ทางการปกครองย่อมเป็นไปตามคุณลักษณะของผู้บริหาร และเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามอีกเช่นกัน”
.
