.
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมเอเชีย กทม. องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ร่วมกับสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) สำนักข่าวเด็กและเยาวชนจังหวัดพะเยา (PYNA) ภายใต้การสนับสนุนของสหภาพยุโรป (EU) จัดกิจกรรมยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายจากเด็กและเยาวชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม ภายใต้โครงการ “เสียงของเรา ทางเลือกของเรา : พลังสตรีและเยาวชนสำหรับพื้นที่พลเมืองประชาธิปไตย” หรือ OVOC ประเทศไทย โดยมีผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกรมกิจการเด็กและเยาวชนร่วมรับข้อเสนอ พร้อมเครือข่ายเยาวชนจากทั่วประเทศไทยกว่า 100 คน ร่วมเป็นสักขีพยาน
.

.
นางสาววนัชพร แพสุขชื่น ผู้จัดการโครงการประจำประเทศไทย องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า “องค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่สนับสนุนเรื่องสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ มุ่งเน้นส่งเสริมด้านความรอบรู้ของเด็กและเยาวชนเป็นหลัก เพื่อให้เยาวชนสามารถเข้าถึงสิทธิ์ต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม

โดยร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) และหน่วยงานที่ขับเคลื่อนประเด็นเด็กและเยาวชนในประเทศไทย ได้แก่ สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) และสำนักข่าวเด็กและเยาวชนจังหวัดพะเยา (PYNA) ดำเนินโครงการเสียงของเรา ทางเลือกของเรา พลังสตรีและเยาวชนสำหรับพื้นที่พลเมืองประชาธิปไตย หรือ Our Voices Our Choices (OVOC) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงเดือนกันยายน 2567 รวม 33 เดือน โดยมีเป้าหมายหนุนเสริมศักยภาพขององค์กรภาคประชาสังคมสำหรับปกป้องและส่งเสริมกลไกประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยโครงการฯ มีพื้นที่ดำเนินงานครอบคลุม 4 ภาคของประเทศไทย รวม 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น มหาสารคาม อุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช ยะลาและปัตตานี”
.
“ที่ผ่านมาโครงการเสียงของเรา ทางเลือกของเรา (OVOC) ได้ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมความรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนผ่านกระบวนการต่าง ๆ เช่น การผลิตรายการโทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ ให้ความรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนแบบเข้าใจง่ายโดยร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดนิทรรศการให้ความรู้ทั่วประเทศไทย จัดเวทีเสวนาทางวิชาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ผลิตนักสื่อสารคนรุ่นใหม่ในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ส่งผลทำให้เด็กและเยาวชนในประเทศไทย มีส่วนร่วมต่อการขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองเป็นจำนวนมาก” ดร.รังสิมา กล่าว
.

.
ด้านนายอนวัช แจ่มจันทร์ ผู้ช่วยเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นจากการรับฟังเด็กและเยาวชนทั่วประเทศไทย มี 5 ประเด็น ประกอบไปด้วย
1.ยกระดับหลักสูตรการศึกษาให้มีการเรียนการสอนเรื่องเพศวิถีศึกษาและอนามัยเจริญพันธุ์อย่างครบถ้วน เช่น การป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การรับบริการทางสาธารณสุขที่ครบถ้วน
2.ผลักดันการแต่งกายตามเพศสภาพ และโอกาสทางการศึกษาผ่านกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และปัญหาของการศึกษาที่ไม่ได้ครอบคลุมสำหรับเด็กและเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์
3.ปัญหาด้านกฎเกณฑ์ในการให้สัญชาติแก่นักเรียน ที่จำเป็นต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี การขอยกเลิกการออกนอกพื้นที่ควบคุมของกลุ่มบุคคลต่างด้าว และสวัสดิการทางสังคมที่ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นบุคคลชายขอบ
4.ส่งเสริมการให้ความรู้ด้านการเคารพสิทธิ และอัตลักษณ์ของผู้อื่น และการยกระดับการคุ้มครองเยาวชนจากความรุนแรงทุกรูปแบบ
และ 5.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมือง เพื่อพัฒนาสร้างสังคมอย่างสร้างสรรค์
.

.
“สถาบันยุวทัศน์ ฯ คาดหวังว่าข้อเสนอทั้ง 5 ข้อในวันนี้ ที่มีผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มารับข้อเสนอนั้น จะถูกนำไปผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก เยาวชน และการพัฒนาอนาคตของชาติให้มีความสมบูรณ์รอบด้าน ตามนโยบายของรัฐบาล”
.