เป็นรายงานล่าสุดที่ระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามคำสั่งกำหนดภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ทั่วโลกกับไทยอัตรา 19 % จากเดิม 36 % จะมีผลในอีก 7 วันหลังจากวันลงนามคำสั่ง นับว่าเลื่อนจากเดิมที่กำหนดมีผล 1 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ทีมไทยแลนด์เจรจากับทีมการค้าสหรัฐฯมาต่อเนื่อง รวมถึงเป็นผลจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์กดดัน หลังเตือนว่าอาจไม่ทำข้อตกลงการค้ากับทั้งไทยและกัมพูชา หากทั้งสองประเทศยังคงสู้รบกัน และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะกำแพงภาษีที่สหรัฐฯให้กับกัมพูชาก็เหลือ 19% เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้พบว่าอัตราภาษีชาติอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งบรรลุข้อตกลงการค้ากับรัฐบาลทรัมป์แล้ว นอกจากไทย กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ที่ได้ 19% แล้วเวียดนาม 20 % บรูไน 25 % สิงคโปร์ 10 % (ภาษีอัตราฐาน) ลาว 40 % และ เมียนมา 40 % ส่วนอัตราภาษีสวมสิทธิ์ เวียดนาม 40 % อินโดนีเซียบวกเพิ่มภาษีต่างตอบโต้ของประเทศนั้นๆ
สำหรับ Tariff rate ที่ 19% ที่ประเทศไทยได้รับ ทำให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ว่าสะท้อนถึงมิตรภาพและความเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นระหว่างไทย–สหรัฐฯ ช่วยให้ไทยยังคงแข่งขันได้ในเวทีโลก และเปิดประตูสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ รายได้ และโอกาสใหม่ ๆ และเป็นสัญญาณให้ประเทศไทยต้องเร่งปรับตัว เดินหน้าสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับความท้าทายของโลกในอนาคต
ส่วนผลกระทบต่อผู้ประกอบการและพี่น้องเกษตรกร รัฐบาลจัดเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งงบประมาณ Soft Loan เงินอุดหนุน มาตรการภาษี และการปฏิรูปกฎระเบียบที่จำเป็น เพื่อยกระดับให้ไทยสามารถปรับตัวและก้าวสู่โลกเศรษฐกิจในอนาคตได้อย่างมั่นใจ
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกการปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง win-win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ภาษีทรัมป์#โดนัลทรัมป์#สหรัฐฯ#ข้อตกลงไทยสหรัฐ#ไทย19เปอร์เซ็นต์

