“ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา รีโพสต์แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาที่ออกมาตอบโต้ทางการไทย และชี้แจงกรณีถูกกล่าวหาว่าชาวบ้านปรีย์จันบุกรุกดินแดนไทย (บ้านหนองหญ้าแก้ว) เพื่อประท้วง ทำให้ไทยต้องบังคับใช้กฎหมาย
โดยกัมพูชาอ้างว่าประเทศไทยไม่สามารถอ้างสิทธิอธิปไตยหรือใช้กฎหมายกับชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดเขตแดน พร้อมย้ำชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านปรีย์จัน ตำบลโอเบยโจน จังหวัดบันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา มาเป็นเวลานานก่อนลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชาและไทยในปี พ.ศ. 2543 (ปี 2000) และการประท้วงเป็นการตอบโต้ต่อการละเมิดทรัพย์สินและบ้านเรือน จากลวดหนามเครื่องกีดขวางที่ปิดกั้นหมู่บ้านและไร่นา
ฝ่ายกัมพูชาระบุว่าทั้งสองประเทศตกลงตำแหน่งเสาหลักชายแดนหมายเลข 43 แล้ว แต่ยังไม่ได้ตกลงเสาหลักชายแดนหมายเลข 42 ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านปรีย์จัน ดังนั้นการเสนอภาพกราฟิกแสดงเส้นแบ่งเขตแดนของไทยจึงถือเป็นการเข้าใจผิด และในความเป็นจริงคนไทยได้ครอบครองและทำการเกษตรบนพื้นที่พรมแดนฝั่งกัมพูชามาเป็นเวลานาน ดังนั้นกัมพูชาจึงเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาพื้นที่พิพาทนี้ผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) แทนการบังคับด้วยกำลังขับไล่ชาวกัมพูชาออกไป
พร้อมบอกว่าความตึงเครียดในปัจจุบันเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ทั้งสองฝ่ายต้องสนับสนุนให้ JBC เร่งรัดการปักปันเขตแดนในส่วนนี้ให้แล้วเสร็จ และว่ากัมพูชายังมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อเงื่อนไขการหยุดยิง และหวังว่าประเทศไทยจะยึดมั่นตามเงื่อนไข โดยการยุติแผนการขับไล่ชาวกัมพูชาหลายร้อยครัวเรือนออกจากบ้านเรือนและที่ดินที่พวกเขาอาศัยอยู่มานานหลายทศวรรษ และรอคอยอย่างอดทนให้ JBC ดำเนินการแบ่งเขตเสร็จสิ้น
“รัฐบาลกัมพูชามุ่งมั่นแก้ไขข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับไทยโดยสันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันก็ยังคงยืนหยัดในจุดยืนตามหลักการที่ว่าจะต้องไม่เปลี่ยนแปลงเขตแดนด้วยกำลัง”
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่2#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม#ปกป้องชายแดน