การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ยังคงเถียงกันวุ่นหนัก หลังมีการเสนอเลื่อนญัตติการเลือกนายกรัฐมนตรีขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่ สส.พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไม่เห็นด้วย อ้างว่าจำเป็นต้องตรวจสอบข้อกฎหมายและรัฐธรรมนูญก่อน เพราะมีการทำข้อตกลง 5 ข้อ ระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน ที่ไม่เคยมีมาในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า มีโหวตสนับสนุนรัฐบาล แต่ไม่ขอเป็นรัฐบาล เช่นนี้ ขณะที่ สส.อีกปีกยืนยันการลงนามข้อตกลงไม่ได้ทำผิด เพราะมองว่าการเมืองเกิดวิกฤตต้องสรรหานายกฯ ขึ้นมาผ่าทางตัน
โดยพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง จากพรรคประชาชาติ 1 ในพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเห็นว่ายังไม่ควรเลือกนายกฯ ในขณะนี้ เพราะข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการเซาะกร่อน บ่อนทำลายประชาธิปไตย โดยเฉพาะข้อ 4 คือยุบสภาใน 4 เดือน เป็นการครอบงำ หรือแลกผลประโยชน์ระหว่างพรรคหนึ่งได้เป็นรัฐบาล พรรคหนึ่งได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก่อน เพราะมีความผิดถึงขั้นยุบพรรค เป็นการเริ่มต้นที่ผิดรัฐธรรมนูญ และทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
“เป็นการทำลายประชาธิปไตยอย่างรุนแรง จากพรรคที่ประกาศตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย”
เรื่องนี้ทำให้นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชนลุกขึ้นชี้แจง โดยระบุการลงนามข้อตกลงไม่ได้เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ หรือผิดหลักประชาธิปไตย ไม่มีข้อไหนห้ามฝ่ายค้านยกมือสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นการลงนามข้อตกลงไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ และหลังจากนี้จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไปไม่ว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล
“ที่บอกข้อตกลงผิดกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อวานยังมีคนลดแลกแจกแถมเหมือนกัน แบบนี้ไม่ผิดกฎหมายหรือขัดรัฐธรรมนูญหรือ เพียงแต่พวกคุณไม่ได้ถูกเลือกเท่านั้น”
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ยืนยันปฏิบัติตามข้อบังคับ ใช้เวลาในการบรรจุวาระ 7 วันเช่นเดียวกันกับกรณีการเลือกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมตรี จึงไม่ใช่การเร่งรีบตามที่ถูกพาดพิงก่อนหน้านี้
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พรรคภูมิใจไทย #รัฐบาลเสียงข้างน้อย #พรรคประชาชน #พรรคเพื่อไทย #อนุทินชาญวีรกูล #ประชุมสภาเลือกนายกฯ #นายกฯคนที่32 #กระดานการเมือง #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ยุบสภา #ชัยเกษมนิติสิริ