เป็นการตั้งโต๊ะแถลงของนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรณีที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวหาว่าไทยวางรั้วลวดหนาม ในพื้นที่บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ละเมิดพื้นที่อธิปไตยของฝ่ายกัมพูชา
โดยนายนิกรเดชยืนยันเดิมเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของชาวกัมพูชาที่หนีภัยการสู้รบในอดีต ต่อมาได้ขยายพื้นที่ชุมชน ละเมิดข้อตกลง MOU 2543 ซึ่งฝ่ายไทยได้คัดค้านและประท้วงมาโดยตลอด ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบสนองใดๆ ส่วนการวางรั้วลวดหนามในเขตไทยเพื่อปกป้องอธิปไตย และคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนไทย
พร้อมย้ำการดำเนินการดังกล่าวไม่ขัดต่อข้อตกลงในการประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซีย ที่ละเว้นการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หรือการเสริมความมั่นคงของที่ตั้งทางทหารที่ล้ำออกมานอกเขตของฝ่ายตน
ด้านนายเบญจมินทร์ ระบุเมื่อสงครามยุติลงชาวกัมพูชาที่หนีภัยสู้รบเข้ามาก่อสร้างที่อาศัยขยายที่ดินทำกินจนออกมานอกแนวรั้ว ซึ่งฝ่ายไทยพยายามแก้ไขปัญหาไม่ให้ขยายพื้นที่ เร่งสำรวจและทำหลักเขตแดน รวมถึงขอให้ฝ่ายกัมพูชาย้ายออกไป กระทั่งเดือนกันยายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศมีหนังสือประท้วงกรณีการขยายตัวของชุมชนบ้านหนองจาน มีการชักธงชาติกัมพูชาและจัดตั้งหน่วยงานทางการกัมพูชาในพื้นที่ เป็นการละเมิดอธิปไตยไทยและละเมิด MOU 43 จึงขอให้ปลดธงชาติและย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ แต่ฝ่ายกัมพูชานิ่งเงียบ ไม่ชี้แจงหรือโต้แย้งแต่อย่างใด
เมื่อถามว่ามีการประท้วงไปแล้วฝั่งกัมพูชาตอบกลับอย่างไร นายเบญจมินทร์ระบุมีหลายจุดมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีและนิ่งเฉย ดังนั้นไทยต้องปฏิบัติตามหลักการอันเป็นสากล คือแสดงจุดยืนและท่าทีของให้ชัดเจน ว่าจุดใดที่ล่วงล้ำเข้ามา ก็ต้องทำการประท้วง
“การประท้วงของเราก็มีฐานทางกฎหมายรองรับ เพราะใน MOU 43 ก็พูดชัดเจนว่าไม่ควรจะมาทำให้พื้นที่ที่ยังไม่ชัดเจน ไปเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ ซึ่งเป็นข้อห้ามที่ชัดเจนอยู่แล้วในข้อตกลง” นายเบญจมินทร์ ระบุ
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #mou43 #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #ทุ่นระเบิดผิดสนธิสัญญา #อนุสัญญาออตตาวา

