นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมหารือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค และนายสมดุลย์ อุตเจริญ สส. เชียงใหม่ พรรคประชาชน ที่ยื่นหนังสือต่อกรมการปกครองกรณีพบการเรียกรับผลประโยชน์จากการขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบ (มีใบถิ่นที่อยู่ถาวร) และการขอมีสัญชาติไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 หลังพบว่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีการเรียกรับเงินตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท สำหรับออกใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ถาวรให้กับผู้ที่อพยพอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ฯ
โดยอธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่าการขอลงรายการสัญชาติไทยและการขอสถานะบุคคล ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายเท่านั้น หากตรวจสอบพบการเรียกรับผลประโยชน์ จะดำเนินการตามกฎหมายทันทีโดยไม่ละเว้น ทั้งนี้กรมการปกครองได้ติดตามกรณีที่ร้องเรียนแล้ว และส่งให้ส่วนปราบปรามการทุจริตลงไปในพื้นที่ และเร่งดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้การแอบอ้างหาผลประโยชน์ดำเนินการขอสัญชาติ กรมการปกครองเฝ้าระวังมาตลอด ทำให้มีข้าราชการถูกจับกุม ไล่ออก และปลดออกในทุกๆปี รวมถึงผู้นำท้องถิ่นก็ถูกดำเนินการทางอาญา
ขณะที่นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พบประชาชนจำนวนมากถูกเรียกเงินหลักหมื่นบาท เพื่อทำบัตรประชาชนและขอสัญชาติ ทั้งที่ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 160 บาท และมติ ครม.ปรับปรุงขั้นตอนให้รวดเร็วสำหรับประชาชนกว่า 483,626 คน ที่มีสิทธิได้รับสัญชาติไทยอยู่แล้ว
ทั้งนี้ 2 สส.ให้ข้อมูลว่า หากประชาชน 25% ของกลุ่มเป้าหมาย 483,626 คน ต้องจ่ายส่วยสัญชาติ คนละ 20,000 บาท จะมีมูลค่าการคอร์รัปชันสูงถึง 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าเคยเกิดกรณีลักษณะเดียวกันใน จ.ระนอง ที่เรียกเก็บเงินหลายหมื่นบาท แม้ผู้ยื่นขอพิสูจน์หลักฐานและตรวจ DNA ยืนยันว่าเป็นคนไทยโดยชัดเจนแล้ว
ทั้งนี้ ขอให้ผู้เสียหายเก็บหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย แชท คลิปเสียง หรือวิดีโอ แล้วส่งมายังเพจของ สส.สมดุลย์ เพื่อประสานกรมการปกครองดำเนินคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้องถึงที่สุด
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#กรมการปกครอง#ส่วยสัญชาติ#พรรคประชาชน#เรียกรับผลประโยชน์#เรียกเงินหมื่นทำบัตรปชช