พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวบรรยายกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดตอนหนึ่งว่า การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา หนักกว่าปี 2554 ทหารกัมพูชามีความสูญเสียจำนวนมาก และหลายประเทศติดต่อมาขอให้เราหยุดยิง ตอนนี้เขาก็ใช้สูตรเดิม วางระเบิดบอกไม่ได้วาง เจรจาอย่าง ไปพูดอย่าง ทำอย่าง พร้อมยืนยันพื้นที่ภูมะเขือ ที่ควบคุมได้อยู่ในอธิปไตยของไทย ไม่ได้รุกล้ำใคร แม้จะมีผู้ใหญ่ถามว่า ได้รุกประเทศเขาหรือไม่ ตนไม่สนใจ อดีตไม่สำคัญแต่ปัจจุบันต้องเอาออก
พล.ท.บุญสิน กล่าวด้วยว่าการวางรั้วลวดหนาม ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ อย่างพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 มีพื้นที่ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม วางรั้วลวดหนามไว้ทั้งหมด
“หากมาแตะรั้วผม ต้องทำใจ ผมถือว่าแตะอธิปไตยไทย ถ้าอยากรู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ลองมาแตะดู และยืนยันรั้วพื้นที่ทัพภาค 2 อยู่ชั่วกัลปาวสาน สำหรับปราสาทตาเมือนธม ปิดตาย รั้วลาดหนามขึงแล้วขึงเลยไม่เอาออก จะขึ้นมาต้องใช้วีซ่า ใช้พาสปอร์ต” พล.ท.บุญสิน กล่าว
ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมา พล.ท.บุญสินมองว่าเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเป็นนโยบายตามห้วงเวลา ยอมให้กัมพูชาขึ้นมาปราสาทตาเมือนธม หรือมองเป็นเพื่อนสนิทกัน กลายเป็นประเพณี ทำให้ปิดไม่ได้
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #ทุ่นระเบิดผิดสนธิสัญญา #อนุสัญญาออตตาวาอนุสัญญาออตตาวา #พลโทบุญสินพาดกลาง #แม่ทัพภาคที่2

