SET พุ่งแตะ 1,109 จุดทันทีหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นักวิเคราะห์ชี้เป็นสัญญาณจากตลาดว่า ความไม่แน่นอนคลี่คลาย–แต่ยังไร้เสถียรภาพที่แท้จริง
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ตลาดหุ้นไทยตอบสนองอย่างรวดเร็วหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” ที่ ส.ว. เข้ายื่นคำร้องถอดถอน และศาลมีมติเอกฉันท์รับคำร้องไว้พิจารณา พร้อมสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เวลา 14.00 น. หลังเปิดตลาดภาคบ่าย ดัชนี SET ปรับขึ้นอย่างฉับพลันและแตะจุดสูงสุดที่ 1,109.12 จุด ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที
ก่อนปิดที่ 1,110.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.45 จุดหรือ 1.88% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 41,712.08 ล้านบาท
คำถามสำคัญคือ: ทำไมข่าวนายกฯ หยุดหน้าที่ ถึงกลายเป็น “ข่าวดี” สำหรับตลาดทุน?
⸻
ตลาดมองว่าความไม่แน่นอนคลี่คลาย
การฟื้นตัวทันทีหลังข่าวสะท้อนว่า นักลงทุนบางส่วนตีความว่า คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ คือจุดเริ่มต้นของ “การจัดระเบียบทางการเมือง” ที่อาจทำให้ความขัดแย้งและแรงกดดันในระบบคลายลง
ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การเมืองไทยตกอยู่ในภาวะอึมครึมจากกรณีคลิปเสียง และแรงกดดันที่มีต่อนายกฯ-รัฐบาล ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุนของต่างชาติอย่างชัดเจน
“ตลาดเกลียดความไม่แน่นอน” คือหลักการพื้นฐานของตลาดทุน และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญทำให้คนอาจคาดหวังไปถึงความเปลี่ยนแปลงใสนตัวผู้นำที่ไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นให้ตลาดทุนได้อยู่แล้ว ในช่วงตลอดเวลาที่บริหารประเทศ
⸻
สะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อผู้นำเดิม
ปรากฏการณ์ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นหลังข่าวให้นายกรัฐมนตรีหยุดหน้าที่ ยังอาจตีความในอีกแง่หนึ่งว่า นักลงทุนไม่ได้เชื่อมั่นต่อการนำของรัฐบาลชุดนี้ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ
แม้จะดำรงตำแหน่งได้เพียง 10 เดือน แต่รัฐบาลของน.ส.แพทองธารเผชิญกับกระแสวิจารณ์เรื่องนโยบายประชานิยมที่ไม่สามารถขับเคลื่อนได้จริง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจยังเผชิญแรงกดดัน ทั้งจากภายนอก
เมื่อมีสัญญาณการเปลี่ยนผ่านอำนาจ นักลงทุนจึงอาจมองว่าเป็น “โอกาสในการรีเซ็ต” ทิศทางนโยบายและการบริหารเศรษฐกิจ
⸻
แต่ยังเร็วเกินไปจะบอกว่าตลาดฟื้น
แม้ดัชนีจะดีดขึ้นแรง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเตือนว่า การปรับขึ้นในวันนี้อาจเป็นเพียง ภาวะ “รีบาวด์จากข่าว” (news-driven rebound) ซึ่งอาจไม่ยั่งยืน หากสถานการณ์การเมืองยังไร้ความชัดเจน
สิ่งที่ตลาดต้องการเห็นมากกว่า คือ
• โครงสร้างอำนาจที่เสถียร
• ทีมเศรษฐกิจใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือ
• ทิศทางนโยบายที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้จริง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนตัวบุคคล
แต่น่าเสียดายที่ครม.อิ๊งค์ 2 ไม่ได้ตอบโจทย์เหล่านี้เลย
⸻
การดีดตัวของ SET ในวันนี้จึงไม่ใช่สัญญาณของ “ข่าวดี” ในความหมายทั่วไป แต่คือการสะท้อนว่า ตลาดทุนได้ประเมิน “ความเสี่ยงของผู้นำ” ไว้แล้ว และกำลังเดิมพันว่า ความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่บางสิ่งที่ดีกว่าเดิม
หากการเปลี่ยนผ่านไม่ราบรื่น หรือหากกระแสความขัดแย้งยิ่งปะทุขึ้นจนเกิดสุญญากาศทางการเมือง ตลาดอาจเปลี่ยนทิศอีกครั้งได้ทันที
เพราะสุดท้าย ตลาดหุ้นไม่ได้สนว่าจะ “คนดี” หรือ “คนร้าย” — ตลาดแค่ต้องการ “เสถียรภาพ” และ “ความแน่นอน”
แต่ประเทศไทยต้องการมากกว่านั้น
เพราะชาติจะรอดได้ ไม่ใช่แค่ตลาดหุ้นพุ่ง
แต่ต้องมีผู้นำที่ดี มีวิสัยทัศน์
ไม่กอบโกย กล้าชนทุกปัญหา
พร้อมสู้กับศัตรูของแผ่นดิน
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พรรคเพื่อไทย #ควบเก้าอี้รมววัฒนธรรม #หยุดปฏิบัติหน้าที่นายก #ศาลรัฐธรรมนูญ #ครมแพทองธาร2 #รัฐบาลแพทองธาร #แพทองธาร #คลิปเสียงแพทองธาร #ฮุนเซน #ตลาดหุ้น

