บ้านคือที่พักของคนธรรมดา
แต่สำหรับเศรษฐี…บ้านอาจหมายถึง “เครื่องมือเลี่ยงภาษี” ที่ถูกกฎหมาย
⸻
ทำไมถึงพูดแบบนั้น เราเห็นรัฐบาลพยายามออกกลไกลลดความเหลื่อมล้ำ สร้างเครื่องมือที่เรียกว่า “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” มาตั้งแต่ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” เริ่มใช้จริงใน “รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์” แต่เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ผลที่ได้ลัพธ์ “ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด”
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง: เก็บจริง แต่ไม่แตะคนรวย
ประเทศไทยเริ่มใช้ พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 อย่างเป็นทางการในปี 2563
โดยมีเป้าหมายเพื่อ:
- กระตุ้นการใช้ประโยชน์ที่ดิน
- ลดการกักตุนทรัพย์สิน
- กระจายฐานภาษีจาก “คนมีทรัพย์” มากกว่าการเก็บ VAT จากคนจน
แต่ในทางปฏิบัติ…
ระบบกลับเต็มไปด้วย ช่องว่าง เช่น
- ยกเว้น บ้านหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท 【1】
- ยกเว้น “วัด โรงเรียน มูลนิธิ” ที่ใช้ในกิจกรรมเพื่อสาธารณะ
- มีอัตราภาษีต่ำมากสำหรับบ้านอยู่อาศัยที่จดทะเบียนชื่อบุคคลธรรมดา
ผลคือ เศรษฐีไทยแทบไม่ต้องจ่ายภาษีที่ดินเลย แม้จะครอบครองอสังหาฯ หลายหลัง เพราะสามารถหลบเลี่ยงซอยราคาบ้านให้ต่ำกว่าเกณฑ์ คงเหลือเพียงคฤหาสน์ที่อาจเข้าช่องทางนี้
เลี่ยงภาษีได้อย่างไร…ในแบบคนมีบ้านหลายหลัง
ตัวอย่างวิธีการเลี่ยงภาษีที่ดินแบบถูกกฎหมายที่มักใช้กัน
- แบ่งบ้านให้คนในครอบครัวคนละหลัง (ถือชื่อคนละคน)
- ตั้งบริษัทครอบครัวเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์
- โอนบ้านเข้า “มูลนิธิ” ที่ไม่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย 【2】
- จดทะเบียนบ้านร้างว่า “อยู่อาศัย” เพื่อลดอัตราภาษีจาก “ที่รกร้าง”
ทั้งหมดนี้…ทำได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
แต่ทำไม่ได้เลยถ้าคุณไม่มีที่ปรึกษา–ไม่มีมูลนิธิ–ไม่มีโครงสร้างบริษัท
และเอาจริง ๆ …มันอาจไม่เกิดขึ้นเลย ถ้ามีสำนึกต่อส่วนรวม ซึ่งน่าเสียดายว่า “หายากเต็มที”
ตัวอย่างบ้านในนามมูลนิธิ: ความเป็นเจ้าของที่มองไม่เห็น
มีรายงานจากอดีตนักข่าว–สื่อออนไลน์บางแห่ง เปิดเผยว่า
“บ้านพักของตระกูลชินวัตร” หลังหนึ่งในเขตจตุจักร เคยอยู่ในชื่อของมูลนิธิชินวัตร 【3】
แม้ไม่อาจยืนยันเจตนา
แต่กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่า การใช้มูลนิธิในการถือครองทรัพย์สิน
คือหนึ่งในวิธีที่ “อยู่เหนือระบบภาษี” อย่างถูกกฎหมาย
กรณีนี้นอกจากสะท้อนให้เห็นกลวิธีในการเลี่ยงภาษีผ่องถ่ายระหว่างบ้านกับมูลนิธิแล้ว…ยังเห็นอะไรคุ้น ๆ อีกมั้ย… “ชินวัตร” อีกแล้ว
นั่นอาจหมายถึงว่า พวกเขามองวิธีการแบบนี้เป็นเรื่องปกติ “ใคร ๆ ก็ทำกัน” ไม่ได้โกงเพราะถูกกฎหมาย แต่ถือเป็นความชาญฉลาดในการจัดการภาษีต่างหาก
ถามว่า…ถ้ามีความชาญฉลาดแบบนี้มาก ๆ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?
ปัญหาเชิงโครงสร้าง: คนถือครองที่ดินรวยเพราะรัฐ แต่รัฐไม่ได้เงินคืน
ที่ดินในเมืองใหญ่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี
ส่วนหนึ่งเพราะรัฐลงทุนสร้างถนน รถไฟฟ้า ระบบขนส่งสาธารณะ
แต่คนที่ได้กำไร คือเจ้าของที่ดิน — ไม่ใช่รัฐ
นี่คือหัวใจของความเหลื่อมล้ำ
ที่ดินกลายเป็น “กำไรทับซ้อน” ของคนมีทุน
แต่รัฐไม่มีอำนาจเก็บภาษีสะท้อนความมั่งคั่งนั้นอย่างจริงจัง
“ภาษีลาภลอย” แนวคิดที่ยังเป็นได้แค่ “ความคิด”
ถ้าราคาที่ดินพุ่งเพราะรัฐลงทุน
เจ้าของที่ดินก็ควร “คืนบางส่วน” ให้สังคม
แบบนี้ถึงจะแฟร์…ใช่ไหม?
นั่นคือที่มาของ “ภาษีลาภลอย” (Land Windfall Tax) ซึ่งหลายประเทศใช้เก็บเจ้าของที่ดินที่ได้กำไรจากการพัฒนาโดยรัฐ 【4】
เช่น :
- ญี่ปุ่นใช้เก็บกรณีโซนรถไฟฟ้าขยาย
- อังกฤษ-เกาหลีใต้ใช้ในเขตเมืองพัฒนาใหม่
- ไทยเคยเสนอแนวคิดในยุทธศาสตร์ชาติ แต่ไม่กล้าออกกฎหมาย
เพราะมันแตะ ”ทุนที่ดิน“ ที่ทรงอิทธิพลในโครงสร้างอำนาจใช่หรือไม่?
ถ้าเราต้องจ่าย VAT ทุกมื้อ…แล้วคนรวยไม่ควรจ่ายภาษีที่ดินบ้างหรือ?
- ซื้อของ 35 บาท เสีย VAT ทุกวัน
- ซื้อบ้าน 35 ล้าน กลับเสียภาษี “ไม่ถึง 0.1% ต่อปี” หรืออาจ “ไม่เสียเลย”
นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ
แต่มันสะท้อนว่า
“ภาษีที่ดิน” คือภาษีที่คนรวยกลัว…แต่น่าเสียดายที่รัฐไทยไม่กล้าแตะจริง
บ้านคือเครื่องมือของใครกันแน่?
ถ้าเราจะพูดเรื่องความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี
อย่ามองแค่ใครจ่ายภาษีเยอะ
แต่ต้องมองว่า “ใครจ่ายตามความสามารถ และใครจ่ายเพราะไม่มีทางเลือก”
เพราะคนที่จ่าย VAT ทุกวัน ไม่มีทางเลี่ยง
แต่คนที่ครอบครองบ้านหลังใหญ่–ที่รกร้างหลายแปลง
กลับสามารถ “วางแผน–โยกทรัพย์–โอนให้มูลนิธิ” แล้วรอดได้อย่างถูกกฎหมาย
และถ้ามี “ผู้นำประเทศ” คนใด ยังใช้ช่องทางเหล่านี้อยู่เอง
จะเหลือความหวังอะไรในระบบภาษีที่เป็นธรรม?
หมายเหตุ:
งานชิ้นนี้คือบทสนทนาระหว่าง “คนเขียน” และ “เครื่องมือ”
ที่ช่วยกันร่างคำถาม กลั่นความจริง และจัดวางเรื่องราว
เพราะเรายังเชื่อว่า…เครื่องมืออาจช่วย “มอง” ได้ไกล
แต่ “ความหมาย” ต้องมาจากคนเขียนเสมอ
⸻
เชิงอรรถ:
【1】สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง, คู่มือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566
【2】พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562, มาตรา 8 (กิจการเพื่อสาธารณประโยชน์ได้รับการยกเว้น)
【3】ฐานข้อมูลมูลนิธิและการถือครองที่ดิน: รายงานจาก ThaiPublica และหนังสือพิมพ์มติชน, 2565
【4】ADB Report: “Land Value Capture in Asia” , Asian Development Bank, 2021