วันที่ 29 เมษายน 2568 — มูดี้ส์ (Moody’s Ratings) ประกาศลดแนวโน้มเครดิตประเทศไทยจาก “คงที่” เป็น “เชิงลบ” (Negative Outlook)
ข่าวนี้คือ “สัญญาณเตือนใหญ่” ว่าในสายตาของนักลงทุนโลก ประเทศไทยกำลังอยู่บนเส้นทางที่อันตรายกว่าที่รัฐบาลยอมรับ
เพราะไม่ใช่แค่มูดี้ส์เท่านั้นที่มองลบ…
แต่ทั้งกองทัพสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ก็พร้อมใจกันกดไทยลง อย่างน่าเป็นห่วง
⸻
ฟ้าครึ้มจากทุกสถาบันใหญ่
• IMF (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 จะเติบโตเพียง 1.8%
(ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 4.6% อย่างน่าอับอาย)
• World Bank (เวิลด์แบงก์) กดตัวเลขลงต่ำกว่านั้นอีก เหลือเพียง 1.6%
(ต่ำสุดในอาเซียน และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศรายได้ปานกลางเกือบครึ่งหนึ่ง)
• Moody’s ลดแนวโน้มเครดิตเป็น “เชิงลบ” พร้อมเตือนตรง ๆ ว่า
“เสถียรภาพการคลังของไทยอ่อนแอลง
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเปราะบาง
และภาระหนี้สาธารณะสูงขึ้นจนน่ากังวล”
ไม่ต้องรอให้คะแนนร่วงระดับ Investment Grade — แค่เสียงเตือนจาก 3 ยักษ์ใหญ่นี้ ก็ควรทำให้รัฐบาลสะดุ้งสุดตัว
แต่…รัฐบาลไทยกำลังตอบสนองด้วยอะไร?
ด้วยการกู้เงินเพิ่มอีก 5 แสนล้านบาท โดยไม่มีแผนชัดเจนว่าจะฟื้นเศรษฐกิจระยะกลาง-ยาวอย่างไร
⸻
จาก “เจรจาไม่เป็น” ถึง “สร้างหนี้เก่ง”
บทความก่อนหน้านี้ เราเคยตั้งข้อสังเกตแล้วว่า
รัฐบาลไทยขาดศักยภาพการเจรจาต่อรองระหว่างประเทศ — ไม่ว่าจะเป็นดีลการค้า หรือการต่อรองผลกระทบจากภาษีสหรัฐฯ
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคสงครามการค้าเต็มรูปแบบ ไทยกลับไม่ได้เร่งสร้างพันธมิตรใหม่
ไม่ได้ยกเครื่องการส่งออก ไม่ได้กระจายฐานเศรษฐกิจ
กลับเลือก “ทุ่มเงิน” หวังพยุงเศรษฐกิจด้วยมาตรการกระตุ้นระยะสั้นที่ไม่แก้โครงสร้าง
ผลลัพธ์คือ:
• หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นสู่ 64.1% ของ GDP (11.3 ล้านล้านบาท ณ มีนาคม 2568)
• และมีแนวโน้มแตะ 70% ในปี 2569 นั่นหมายความว่าจะต้องขยายเพด้านหนี้อีกรอบ เพื่อกู้ต่อ!
• แต่รายได้จากภาษียังไม่กระเตื้อง
• โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ก็ยังไม่มี
เรียกได้ว่า… “สร้างหนี้เก่ง แต่สร้างอนาคตไม่เป็น”
⸻
ไม่ใช่แค่ตัวเลข…แต่นี่คือ “เครดิต” ที่หายไป
สิ่งที่น่ากลัวกว่าหนี้ คือ “ศรัทธา” ที่ลดลงอย่างเงียบ ๆ
เพราะอันดับเครดิต หมายถึงสายตาของโลกที่กำลังวัดว่า “ประเทศนี้ยังน่าลงทุนอยู่ไหม”
การถูกลดแนวโน้มเป็น “เชิงลบ” คือการส่งสัญญาณว่า
• เงินลงทุนใหม่จะหายากขึ้น
• ต้นทุนการกู้ยืมจะสูงขึ้น
• ประเทศไทยจะเริ่มถูกมองว่า “เสี่ยง” กว่าที่ผ่านมา
และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับ “รัฐบาลเพื่อไทย”
ที่ “แพองธาร” เคยประกาศนำคนไทย
“มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไปพร้อม ๆ กัน”
แต่สิ่งที่กำลังจะเป็นคือ…
ไม่มีกิน ไม่มีใช้ ไร้เกียรติ หมดศักดิ์ศรี
ในขณะที่รัฐบาลไทยกำลังหวังพึ่งการกู้เงิน…มากกว่าการกู้ศรัทธา
⸻
นานาชาติมองลบแบบครบมือ — โปรดติดตามตอนต่อไป
โลกไม่ได้มองไทยด้วยความอิจฉา
โลกไม่ได้มองไทยด้วยความอาฆาต
โลกกำลังมองไทยด้วย “ความกังวล”
วันนี้คือ Moody’s
พรุ่งนี้อาจเป็น S&P หรือ Fitch
มะรืนนี้อาจเป็นการหลุดจากรายชื่อประเทศเป้าหมายการลงทุนหลัก
ถ้าผู้มีอำนาจยังมัวแต่ปลอบใจตัวเอง…
“ตอนจบ” อาจมาเร็วกว่าที่คิด
“รัฐบาลที่ยังโลกสวย
ควรหันไปดูรายงานเหล่านี้บ้าง
เพราะโลกกำลังบอกว่าเขา ‘เป็นห่วง’ และสุดท้ายอาจจบที่ “หันหลัง” ให้
⸻
