คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ กสทช. ที่มีศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ประชุมเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เพื่อตอบคำถามใหญ่สองข้อ
ว่า ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ควรถอนตัวจากการพิจารณาวาระที่เกี่ยวข้องกับ “กลุ่มทรู” หรือไม่
ที่ประชุมอภิปรายกันอย่างเคร่งเครียดกว่า 2 ชั่วโมงเต็ม ก่อนจะได้ข้อสรุปร่วมกันในประเด็นหลักว่า:
• ยังไม่มี “ผู้ร้องคัดค้าน” ที่เป็นคู่กรณีโดยตรงในวาระที่กำลังพิจารณาอยู่
• จะชี้ว่ากรรมการมี “สภาพร้ายแรง” ตามมาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้ ต้องมีข้อเท็จจริงจำเพาะ ไม่ใช่การประเมินลอย ๆ
• การโต้แย้งหรือคัดค้าน ต้องเกิดในวาระจำเพาะ ที่คู่กรณีเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง
ในทางกลับกัน
แม้ “ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป” เป็นผู้ฟ้องร้องพิรงรองในคดีอาญาคดีทุจริตฯ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว
แต่ ก็ไม่เคยยื่นคำร้องหลังคำพิพากษา เพื่อคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของพิรงรองในวาระใด ๆ
และบริษัทแม่อย่าง “ทรู คอร์ปอเรชั่น” ที่เคยยื่นหนังสือก่อนหน้านั้น ก็ ไม่ใช่คู่กรณีในคดีโดยตรง
คำถามที่สอง ว่า หากไม่มีใครร้อง “กรรมการ กสทช. คนอื่นจะยกเรื่องขึ้นมาคัดค้านแทนได้หรือไม่” ยังไม่มีข้อยุติในที่ประชุม เนื่องจากเห็นไม่ตรงกัน
จึงมีมติให้ นัดหารือต่อในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ โดยอาจต้องใช้การลงมติภายในอนุกรรมการฯ
⸻
ย้อนเบื้องหลังเกมเอกสาร – ใครเป็นคนเดินเรื่อง?
แม้อนุกรรมการฯ จะยังไม่ชี้ว่าพิรงรองต้องถอนตัวจากวาระของทรู
แต่ขณะเดียวกัน “เกมการเดินเอกสาร” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เกิดคำถามว่ากำลังสะท้อน ทิศทางที่มีแรงผลักอย่างเงียบ ๆ หรือไม่
2 เม.ย. 2567 – หนังสือคัดค้านฉบับแรกจากทรู คอร์ปอเรชั่น
บริษัท True Corporation ยื่นหนังสือคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของพิรงรอง
โดยอ้างความไม่เป็นกลางจากการที่ “ทรู ดิจิทัล” ฟ้องพิรงรองในศาลอาญาคดีทุจริตฯ แต่ บอร์ด กสทช. เสียงข้างมากมีมติไม่รับพิจารณา ด้วยเหตุผลว่า
• มีปัญหาเรื่องหนังสือมอบอำนาจ
• ไม่มีเหตุแห่งการคัดค้านที่จำเพาะในวาระใดวาระหนึ่ง
ที่สำคัญคือในการยื่นร้องครั้งนั้น ทรูได้คัดค้านไปที่ศาลฯ ด้วย แต่ศาลฯ ยกคำร้อง
6 ก.พ. 2568 – ศาลพิพากษาคดีทรูไอดี
ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุกพิรงรอง 2 ปีโดยไม่รอลงอาญา (คดียังไม่ถึงที่สุด)
แม้คำพิพากษาจะไม่มีผลต่อสถานะโดยตรงใน กสทช.
แต่ ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช.
กลับเริ่มตั้งข้อสังเกตต่อบทบาทของพิรงรองอย่างต่อเนื่องในที่ประชุมบอร์ดเมื่อมีวาระเกี่ยวกับทรู
29 เม.ย. 2568 – หนังสือลับฉบับใหม่จากทรู
กลุ่มทรูส่งหนังสือใหม่ คัดค้านไม่ให้พิรงรองพิจารณาวาระ “การปรับมาตรการหลังควบรวมกิจการ”
ซึ่งเป็นวาระสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างตลาดสื่อสาร
หนังสือนี้ ตีตรา “ลับ” พร้อมคำเตือนจากทรู ว่าจะดำเนินคดีหากมีการเปิดเผย โดยหนังสือดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุมของ กสทช. แต่ศ.คลินิก นพ.สรณ เป็นผู้เกษียณหนังสือเข้าที่ประชุมอนุกรรมการกฎหมายโดยตรง ทำให้อนุกรรมการฯ ตีกลับให้บอร์ดไปพิจารณาก่อน
⸻
ลุ้น 7 พ.ค.68 เข้าบอร์ด กสทช.
เมื่ออนุกรรมการฯ ตีเรื่องกลับมา คาดว่าในการประชุม บอร์ด กสทช. วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 หนังสือฉบับ “ลับ” จากทรู จะถูกหยิบยกขึ้นพิจารณา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ กลุ่มทุนโทรคมนาคมกำลังรวมศูนย์อำนาจตลาด และ กรรมการที่ตรวจสอบการควบรวมกลับกำลังถูกสกัดไม่ให้ร่วมพิจารณา
คำถามสำคัญจึงไม่ใช่แค่ว่า พิรงรองจะพิจารณาวาระทรูได้หรือไม่
แต่คือ “ใครกำลังขับเคลื่อนสกัดเธอ?“
หากกรรมการที่เข้มงวดในการกำกับดูแล
ไม่ปล่อยผ่านปัญหาเอาเปรียบผู้บริโภค กลับถูกไล่บี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยกลเกมทางกฎหมาย…ไล่ต้อนเป็นขั้นเป็นตอน
…มันก็ไม่ต่างอะไรกับนิทาน ”หมาป่ากับลูกแกะ”
ที่อ้างสารพัดเหตุผล…เพื่อ “ขย้ำ” เท่านั้น
⸻