สมชาย แสวงการ เปิดแผลฮั้ว ส.ว.–ทักษิณชั้น 14–งบผิดรัฐธรรมนูญ ย้ำระเบิดเวลารอระเบิดรัฐบาล
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
⸻
“ระเบิดลูกแรกคือ ส.ว.ที่ได้มาโดยทุจริต”
สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดฉากอย่างตรงไปตรงมา ถึงคดีฮั้ว ส.ว.ที่กำลังเข้าสู่ช่วงตัดสินใจสำคัญในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่ กกต.เร่งประกาศรับรองผลเมื่อ 10 ก.ค. 67 ทั้งที่มีข้อร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติไม่ครบและพฤติกรรมทุจริตในระดับอำเภอ–จังหวัด–ประเทศ ซึ่งโยงถึงพรรคการเมืองบางพรรค
“ดีเอสไอมีข้อมูลขบวนการตั้งแต่ต้นทาง กกต.ก็รู้ แต่ปล่อยให้คาราคาซังมาเกือบปี ถ้าไม่กล้าสรุปก่อนครบปี 10 ก.ค.นี้ ก็ต้องมีคนไปดำเนินคดีกับ กกต. เอง เหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว”
สมชายเตือนว่า ส.ว.ที่ได้มาโดยไม่สุจริต ได้ใช้ตำแหน่งไปลงคะแนนเลือกกรรมการองค์กรอิสระ เช่น ป.ป.ช., คตง., ผู้ตรวจการแผ่นดิน และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่ง สร้างผลกระทบระยะยาวต่อระบบถ่วงดุลในประเทศ เขาบอกด้วยว่ามีข่าวลือตลอดว่าการลงคะแนนของสว.เป็นไปตามใบสั่งของพรรคการเมืองบางพรรค
⸻
20 รายชื่อของ “นันทนา” จะพอไหม?
สำหรับความพยายามของ รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส ที่รวบรวมรายชื่อ ส.ว. 20 คนเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ ส.ว. หยุดทำหน้าที่เฉพาะในเรื่องเลือกกรรมการองค์กรอิสระ สมชายมองว่า “ยากมาก”
“การรวบรวมชื่อเพื่อประโยชน์ส่วนตัวส.ว. เช่น ถอดถอนนักการเมืองบางคนที่เกี่ยวกับการผลักดันคดีฮั้วสว.คือ ภูมิธรรมและ พ.ต.อ. ทวี แต่เมื่อถึงเวลาที่จะตรวจสอบตัวเองคงไม่ง่าย เพราะคดีนี้เกี่ยวพันกับสว.เกือบทั้งหมด”
เขาตั้งข้อสังเกตด้วยว่าที่ผ่านมาสว.ไม่ได้ใช้ช่องทางนี้ในการตรวจสอบอย่างที่ควรจะทำ ทั้งที่ใช้ชื่อเพียง 20 คน ก็สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบนายกฯ กรณีผิดจริยธรรม จากการครอบครองที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ และ ตั๋วPN 4 พันล้านเลี่ยงภาษี เป็นต้น
⸻
“ชั้น 14” จุดเดือดก่อนการเมืองลุกพรึ่บ
สมชายพาเข้าสู่ระเบิดเวลาลูกถัดไป นั่นคือ คดีชั้น 14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนครั้งแรก 13 มิ.ย.นี้ โดยมีประเด็นหลักว่า ทักษิณได้รับการบังคับโทษตามกฎหมายจริงหรือไม่
“การนำตัวไปรพ.ตำรวจ ทั้งที่มีรพ.รัฐใกล้เรือนจำ และเวชระเบียนก็ไม่มีข้อบ่งชี้อาการวิกฤต แพทยสภาก็ลงมติเกือบเอกฉันท์ว่าไม่วิกฤต ผิดปกติวิสัยทุกอย่าง และศาลน่าจะไต่สวนละเอียด”
สมชายยังตั้งข้อสังเกตถึง รมว.สาธารณสุขที่ตั้งกรรมการตรวจสอบคำร้องขอความเป็นธรรมแพทย์ 2 คนที่ถูกพักใบอนุญาตว่า ไม่ชัดเจนว่ามีแพทย์ร่วมในคณะกรรมการหรือไม่ และจะ “วีโต้” มติแพทยสภาได้อย่างไร ทั้งที่เป็นเสียงข้างมาก
⸻
“ดิจิทัลวอลเล็ต” อาจล้มทั้งกระดานอำนาจ
อีกหนึ่งระเบิดลูกใหญ่ที่สมชายมองว่ารอปะทุคือ การโยกงบชำระหนี้ธนาคารรัฐ 3.5 หมื่นล้านบาท ไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญ ม.144 ทั้งในส่วนรัฐบาล ส.ส., ส.ว., และ กมธ.งบประมาณที่ให้ความเห็นชอบ
“ถ้าป.ป.ช.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ แล้วศาลชี้ว่าผิด มันไม่ใช่แค่รัฐบาลเศรษฐา แต่รวมถึงรัฐบาลแพทองธาร และอาจรีเซ็ตกระดานทั้งระบบ”
เขายังชี้ว่ามีการแปรญัตติเพิ่มงบกลาง 1,256 ล้านบาทให้กองทุนของอดีตสมาชิกรัฐสภา ซึ่งอาจเข้าข่ายให้ ส.ส.–ส.ว.–กมธ.มีส่วนเกี่ยวข้องกับงบรายจ่ายทางอ้อม ก็ขัดรัฐธรรมนูญโดยชัดเจน
⸻
สมชายปิดท้ายว่า บางคนกลัวว่าศาลจะชี้ให้ผิดแล้วจะเกิดสุญญากาศ แต่ตนกลับมองว่า หากศาลวินิจฉัยเช่นนั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ที่ทำให้ ส.ส., ส.ว., และ กมธ.รู้ว่าการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องลอย ๆ และไม่ควรทำเพียงเพื่อความนิยม หรือเอื้ออำนาจใด ๆ