รสนา โตสิตระกูล ประธานอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม เรียบเรียงจากรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
——————
“กล้าไหม?” รสนาท้าตรงถึงภูมิธรรมถือตำแหน่งเต็มไม้เต็มมือ แต่ยังไร้การขยับลดภาระค่าไฟ
ทันทีที่ภูมิธรรม เวชยชัย เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมนั่งเก้าอี้รองนายกฯ รักษาการนายกรัฐมนตรีในคราวเดียวกัน พร้อมคำประกาศ “อะไรที่ทำให้ดีขึ้นจะทำด้วยความเด็ดเดี่ยว” — รสนา โตสิตระกูล หยิบคำพูดนี้ขึ้นมาท้าทายให้ลงมือจริง ไม่ใช่แค่ “พ่นน้ำลาย”
“ในฐานะรักษาการนายกฯ คุณคือประธาน กพช. (คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ) มีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเรื่องพลังงาน… แล้วทำไมยังไม่จัดการภาระค่าไฟที่ประชาชนต้องแบก?”
—————-
“เด็ดเดี่ยว” จริงต้องกล้าทำ 4 สิ่งนี้
1 | ตัด “ไขมันค่าไฟ” จาก PE ทันที ลดได้ 17 สตางค์ต่อหน่วย
รสนาชี้ชัดว่า ค่าใช้จ่ายที่เรียกว่า PE (ค่าใช้จ่ายตามนโยบายภาครัฐ) คือภาระส่วนเกินที่ประชาชนต้องจ่ายเพื่อสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนมาตั้งแต่ปี 2550
“วันนี้พลังงานหมุนเวียนแข่งขันได้แล้ว จะให้ประชาชนจ่ายเพิ่ม 8–9 บาทต่อหน่วยเพื่ออะไร? มันคือไขมัน ไม่ใช่กล้ามเนื้อ”
เธอย้ำว่า หากภูมิธรรม “กล้า” จริง ก็สามารถสั่งการ กกพ. ให้ตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ สภาองค์กรผู้บริโภค ไปฟ้องศาลปกครอง แต่ถ้าไม่ทำสภาฯ ก็จะไปฟ้องต่อศาลปกครอง
——————
2 | พลังงานหมุนเวียน: จะซื้อจากประชาชน หรือให้กลุ่มทุนกินรวบ?
รสนาเปิดประเด็นร้อนต่อเนื่องว่า ขณะนี้รัฐบาลเตรียมเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 2,454.5 เมกะวัตต์ ในราคาถึง 2.17 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 25 ปี — ทั้งที่ราคานี้สูงกว่าเยอรมัน (1.83 บาท) และอินเดีย (1.09 บาท)
“กฟผ.เสนอขายที่ 1.50 บาท ยังไม่ให้เข้าแข่ง แล้วไปให้เอกชนเจ้าใหญ่ขายในราคาสูง? ห้ามกฟผ.แข่งแบบนี้ มันน่าสงสัยว่า มีใต้โต๊ะกันหรือเปล่า”
รสนาชี้ว่า ถ้า “เด็ดเดี่ยวจริง” รัฐบาลควรเปิดโควตาให้ ประชาชนผลิตไฟฟ้าขายได้เอง แทนให้กลุ่มทุนได้ประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว
—————
3 | ข้อเสนอ: เปิดโควต้า 1,000 เมกะวัตต์ให้ประชาชนติดโซลาร์รูฟ
เธอเสนอว่าหากรัฐยอมรับซื้อไฟจากประชาชน 1,000 เมกะวัตต์ (บ้านละ 5–10 กิโลวัตต์) จะทำให้ ประชาชนกว่า 200,000–400,000 ครัวเรือนมีรายได้เพิ่มทันที
หรือหากรัฐยังไม่พร้อมรับซื้อ ก็สามารถเปิดระบบ Net Metering ให้ประชาชนฝากไฟไว้กับระบบสายส่ง แลกกับการลดค่าไฟฟ้าลงครึ่งหนึ่งได้ทันที
“4 เม.ย.67 กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือให้ผู้ว่าฯ ส่งเสริมราชการติดโซลาร์รูฟแล้ว แล้วทำไมไม่ส่งเสริมให้ประชาชนทำบ้าง?”
“แดดเราดีขนาดนี้ แล้วจะปล่อยให้กลุ่มทุนรวยอยู่คนเดียว?”
รสนาย้ำว่า หากรัฐส่งเสริมประชาชนติดโซลาร์ได้จริง ไม่เพียงลดค่าใช้จ่าย ยังช่วยกระจายรายได้ บรรลุเป้าหมาย Net Zero ลดก๊าซเรือนกระจก และลดความสูญเสียในระบบไฟฟ้าได้ด้วย
——————
4 | อย่าแค่เล่นเกมการเมือง ต้องทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริง
เธอเห็นด้วยกับการจัดการที่ดินเขากระโดงและสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่เตือนว่าอย่าใช้แค่เพื่อ “ต่อรองทางการเมือง”
“นักการเมืองเลือกตั้งมองแค่เลือกตั้งครั้งหน้า แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำอะไรที่ยั่งยืนต่อชีวิตประชาชนบ้าง”
—————-
ทุนพลังงาน=ทุนรัฐบาล? ต้องเจรจาช่วยประชาชน
รสนาตั้งคำถามด้วยว่า ในขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากภาษีทรัมป์ เศรษฐกิจกำลังมีปัญหา รัฐบาลไม่มีน้ำยาในการสร้างรายได้ให้ประชาชนก็ต้องช่วยลดรายจ่าย “ในเมื่อคุณภูมิธรรมประกาศจะแก้ปัญหาอย่างเด็ดเดี่ยว ไปคุยทุนพลังงานได้ไหมว่าประชาชนแย่อยู่ กลุ่มทุนพลังงานไม่สะดุ้งสะเทือน ก็ช่วยลดการหากิน การล้วงเงินจากกระเป๋าประชาชนลงหน่อยจะได้ไหม เปิดโอกาสให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม ขอให้ทำสิ่งเหล่านี้คุณจะได้เรตติงเพิ่มด้วย
รสนาทิ้งท้าย: กล้าดัน “บ่อนกาสิNO” ได้ ก็ทำเรื่องนี้ได้เหมือนกัน
เรื่องกาสิNO ดันเต็มสูบ แม้ตอนนี้จะถอนร่างไปแล้ว แต่มีความเอาจริงเอาจังมาก หากใช้ความเอาจริงเอาจังแบบนั้นแค่ 50% ก็น่าจะทำเรื่องพลังงานสำเร็จ
“กล้าไหม? หรือจะให้ประชาชนตราหน้าว่าเพื่อไทยก็เหมือนที่เคยพูด — ว่าการหาเสียงเป็นแค่เทคนิค? ถ้าไม่ทำ ก็ให้รู้ไว้เลยว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยพูดอะไรที่ดูเป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป… อย่าไปเชื่อ เพราะมันอาจเป็นแค่ ‘เทคนิคหาเสียง’ เท่านั้น”