รัฐนาวาแบบนี้ไปไม่รอดหรอก…”
— รศ.ดร.เจษฏ์ โทณวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
กติกาซักฟอกยังคลุมเครือ แต่ต้องชนให้สุดทาง
รศ.ดร.เจษฏ์ เริ่มต้นด้วยการแยกแยะกติกาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 และ 154 ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยตั้งข้อสังเกตว่า การตีความ “หนึ่งปี” อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ครั้งเดียวนั้นยังไม่มีคำตอบที่ชัด เพราะถ้าคิดตามตัวอักษรคือปีปฏิทิน หมายความว่าจะยื่นได้อีกครั้งคือมีนาคมปีหน้า แต่มีคนตีความว่าเป็นปีสมัยประชุม ซึ่งก็ไม่รู้ว่านับอย่างไร
“จริง ๆ ผมก็ยังงง เพราะไม่เคยเห็นรัฐสภาที่ไหนในโลกมี ‘สมัยประชุมหนึ่งปี’ เลย”
แต่ที่สำคัญกว่าคำจำกัดความทางกฎหมายคือ “ความกล้าหาญทางการเมือง” ที่ภูมิใจไทยต้องรวบรวมเสียงให้ได้ 99 เสียงเพื่อยื่นญัตติฯ ต่อประธานสภาฯ
“ยื่นญัตติไปเลย ให้ครบเสียง แล้วให้ประธานสภาฯ เพื่อมีเหตุส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และศาลก็ควรรับไว้ เพื่อให้ได้ข้อสรุป”
⸻
อธิปไตยคือของประชาชน ไม่ใช่แค่แผนที่
เมื่อถูกถามถึงการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม “รวมพลังปกป้องอธิปไตย” รศ.ดร.เจษฏ์ ยืนยันว่าไม่ใช่การปั่นกระแสชาตินิยม หากแต่เป็นการแสดงพลังเพื่อปกป้องอธิปไตย
“อธิปไตยไม่ได้หมายถึงแค่เขตแดน มันคือ ‘อำนาจของประชาชน’ ที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 พระราชทานไว้… ผู้ใช้อำนาจแทนจะใช้อำนาจโดยสิทธิขาดไม่ฟังเสียงประชาชนไม่ได้”
เขายืนยันว่าแม้จะมีข้อถกเถียงว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้อาจ “เข้าทางศัตรูภายนอก” แต่ก็ไม่อาจใช้ข้ออ้างนั้นเพื่อปิดปากประชาชน
“ศึกภายในกับศึกภายนอกมันคนละเรื่องกัน… จะเห็นต่างในบ้านได้ แต่เมื่อศึกภายนอกมา ยังไงเราต้องสู้ร่วมกัน”
⸻
เมื่อเสียงในหอคอยไม่พอ ต้องลงมาเหงื่อไหล
รศ.ดร.เจษฏ์ เล่าว่าการตัดสินใจยืนแถวหน้ากับมวลชนในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของบทบาทนักเคลื่อนไหว หากแต่เป็น “วิถีที่อาจเกิดประโยชน์อีกแบบหนึ่ง”
“นั่งอยู่บนหอคอยบอกให้คนนั้นทำอย่างนี้ คนนั้นทำอย่างนั้น… แต่ไม่เคยเสียเหงื่อเหมือนคนที่ทำงานจริง มันไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอก”
เขาย้ำว่าไม่ใช่ทุกเรื่องจะพูดละมุนละม่อมได้ โดยเฉพาะเมื่อเจอการใช้อำนาจโดยไม่ฟังเสียงประชาชน
⸻
“เราไม่ควรทนอีกต่อไป”
เมื่อถามถึงจุดที่คนไทยไม่ควรอดทนอีกต่อไป รศ.ดร.เจษฏ์ ตอบตรง ๆ ว่า
“เมื่ออธิปไตยของเราถูกย่ำยี เมื่อผู้แทนไม่เห็นหัวประชาชน… คิดแต่จะแย่งตำแหน่ง แย่งยศ ไม่คิดแก้ปัญหาจริง คนที่อ้างว่าจะแก้ให้เรากลับขาดความซื่อสัตย์สุจริต เราทนเรื่องแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว”
⸻
เมื่อรัฐนาวาไร้เข็มทิศ แล้ว “ชัยเกษม” จะเป็นคำตอบ?
ในช่วงท้าย สมจิตต์ถามถึงกรณีที่มีการพูดถึงชื่อของ “ชัยเกษม นิติสิริ” เป็นอะไหล่นายกรัฐมนตรี หากคุณแพทองธารไปต่อไม่ไหว รศ.ดร.เจษฏ์ เตือนว่า
“อย่าลืมว่าคุณชัยเกษมเคยเสนอแก้ ม.112 หนักยิ่งกว่าก้าวไกลอีกนะ แล้วจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้อย่างไร?”
ส่วนเรื่องการปรับ ครม. และท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลเขาสะกิดไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า
“วันนี้พรรคที่กล้าถอนตัวคือภูมิใจไทย ที่เหลือยังค้ำยันรัฐบาลอยู่ ก็ถือว่าขาดความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งแล้ว แต่นี่ยังมาแย่งเก้าอี้รมต.ใช้วาทศิลป์ต้องดูพลังงาน เป็นกัปตันเรือ ถามว่ามันใช่ไหม? ให้ไปส่องกระจกดูเงาตัวเอง ถ้าตอบว่าทำดีแล้ว ก็เชื่อแบบนั้นไปเถอะ แต่ประชาชนเขาไม่เชื่อแบบนั้น รัฐนาวาแบบนี้ไปไม่รอดหรอก“
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ฮุนเซน #แพทองธาร #ทักษิณ #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #การเมืองไทย #ประเด็นชายแดน #วิกฤตชาติบ้านเมือง #ชัยเกษมนิติสิริ #เจษฏ์โทณวนิก #28มิถุนายน #กลุ่มรวมพลังเพื่อแผ่นดิน

