อภิสิทธิ์เตือน! กดดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย อาจเสียมากกว่าได้ – เศรษฐกิจไทยต้องแก้ที่โครงสร้าง ไม่ใช่แค่ระยะสั้น
“การแก้เศรษฐกิจอย่ามองแค่ระยะสั้น” นี่คือคำเตือนของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” กับ The Publisher ภายใต้การดำเนินรายการของ สมจิตต์ นวเครือสุนทร โดยพูดถึงประเด็นที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กดดันให้แบงก์ชาติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อหวังดันตัวเลข GDP ปี 2568 ให้ถึง 3% หลังจากปี 2567 โตเพียง 2.5% และแนวโน้มปีหน้าถูกคาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าความคาดหวังของรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์ เห็นด้วยว่าสามารถถกเถียงกันได้ว่าควรลดดอกเบี้ยหรือไม่ แต่เขา “ไม่เห็นด้วยกับวิธีที่รัฐบาลเลือกใช้ แม้คิดต่างกัน ก็ไม่ควรใช้วิธีพูดกับสาธารณะ รัฐบาล แบงก์ชาติ หรือผู้เกี่ยวข้องควรพูดคุยกันเป็นการภายใน”
เขาเตือนว่าการกดดันผ่านสื่อเช่นนี้ “ยิ่งทำให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ยยากขึ้น” เพราะสถาบันการเงินจำเป็นต้องรักษาความน่าเชื่อถือ เมื่อใดที่ถูกมองว่าถูกสั่งการโดยรัฐบาล ความน่าเชื่อถือในสายตานานาชาติก็จะลดลง
“ถ้าโลกมองว่าแบงก์ชาติไทยลดดอกเบี้ยเพราะรัฐบาลสั่งได้ มันจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของแบงก์ชาติทันที”
ลดดอกเบี้ยไม่ใช่คำตอบเดียว – หนี้ครัวเรือนคือปัญหาใหญ่
นายอภิสิทธิ์ ชี้ว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นเพียง “เครื่องมือหนึ่ง” ไม่ใช่ “ทางรอดเดียว” ของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะการกำหนดนโยบายของสหรัฐฯ ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจโลก ที่สำคัญกว่านั้นคือ “ปัญหาหนี้สิน” และการเข้าถึงสินเชื่อ “ถ้าดอกเบี้ยลด แต่ธนาคารยังไม่ปล่อยกู้เพิ่ม เศรษฐกิจก็ไม่กระเตื้องขึ้น ปัญหาไม่ได้อยู่แค่การลดดอกเบี้ย แต่อยู่ที่ “จะทำอย่างไรให้ธนาคารกล้าปล่อยสินเชื่อ” มากกว่า”
อดีตนายกฯ แนะนำว่ารัฐบาลควรเน้นมาตรการเชิงโครงสร้าง เช่น ปรับปรุงกฎระเบียบ ลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ และเพิ่มทักษะแรงงานไทย หรือแม้แต่การ เปิดโอกาสให้แรงงานมีฝีมือจากต่างประเทศเข้ามาทำงานหรือลงทุน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศได้ในระยะยาว
“แจกเงินหมื่น-เปิดกาสิโน” นโยบายเศรษฐกิจที่แก้ไม่ตรงจุด
อภิสิทธิ์ยังไม่เห็นด้วยกับแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล โดยเฉพาะ “การแจกเงิน 10,000 บาท ถ้าเงินหมื่นบาทตกอยู่กับคนที่ไม่ได้ลำบากจริง ๆ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงหรือ?”
นอกจากนี้ เขายังเตือนถึงแนวคิดที่ว่า “เปิดกาสิโนแล้วท่องเที่ยวจะเพิ่ม” หรือ “ใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเพิ่มเงินในระบบ” โดยไม่ต้องผ่านแบงก์ชาติ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อาจสร้างปัญหาตามมาในอนาคต
“ปัญหาเศรษฐกิจไทยลึกกว่านั้น อยากให้ใช้มาตรการที่ตรงกับสภาพปัญหาจริง ๆ มากกว่า”
อย่ามองเศรษฐกิจแค่ตัวเลข – ต้องแก้ที่รากฐาน
นายอภิสิทธิ์ย้ำว่า “วันนี้เศรษฐกิจไทยไม่ได้แค่โตต่ำ แต่โตต่ำกว่าศักยภาพของตัวเองมานับสิบปี” การแก้ปัญหาจึงต้องคิดไกลกว่าการหวังให้ตัวเลข GDP ขยับขึ้นเพียงปีสองปี “เศรษฐกิจไทยต้องการการแก้ไขเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่แค่มาตรการเฉพาะหน้า”
เขาทิ้งท้ายว่า รัฐบาลไม่ควรคิดว่ามีคำตอบง่าย ๆ ให้กับปัญหาเศรษฐกิจ เพราะถ้าหวังแค่ลดดอกเบี้ยแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น มันอาจไม่ได้ผลอย่างที่คิด
