• Original
  • Urban Culture
  • Writer
  • About us
  • คุยกับสส
  • The Persona
  • Brief
  • Thai Treasure
  • Urban life
  • On this day
  • News
  • Home
  • Editir pick
  • Good
  • Persona
  • Persona
  • Urban
  • Business
  • Politics
  • Playlist
  • Home
  • People Voice
  • Culture
  • นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
  • Urban Wealth
  • Law
  • Update
  • I’m Youth Ranger
  • Urban History
  • Issues
  • Check

Subscribe to Updates

Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.

What's Hot

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025

กัมพูชาโต้ลั่น ! เคลื่อนย้ายกำลังพล-อาวุธ เป็นภาพเก่า ชี้ไม่มีพฤติกรรมยั่วยุ 

26/09/2025

เปิดหลักเกณฑ์ “คนละครึ่ง” 16 ปีขึ้นไป 33 ล้านสิทธิ เริ่มใช้ พ.ย.-ธ.ค.นี้

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram
Facebook Twitter Instagram
The PublisherThe Publisher
  • P
    • Persona
    • Politics
    • People Voice
    • Playlist
  • U
    • Update
    • Urban
    • Urban Culture
    • Urban History
    • Urban life
    • Urban Wealth
  • B
    • Business
    • Brief
  • L
    • Law
    • I’m Youth Ranger
  • I
    • Issues
  • C
    • Check
  • About us
The PublisherThe Publisher
You are at:Home»หุ้นร่วง-หนี้พุ่ง-ทุนไหลออก บลูมเบิร์กชี้ ตลาดหุ้นไทย “แย่ที่สุดในโลก” รัฐบาลแพทองธารแก้วิกฤตทันหรือไม่?

หุ้นร่วง-หนี้พุ่ง-ทุนไหลออก บลูมเบิร์กชี้ ตลาดหุ้นไทย “แย่ที่สุดในโลก” รัฐบาลแพทองธารแก้วิกฤตทันหรือไม่?

20/03/20251 Min Read
Facebook Twitter

ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายหนัก ดัชนี SET ดิ่ง 16% ตั้งแต่ต้นปี 2025 จนสำนักข่าว บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่าตลาดหุ้นไทยมีผลการดำเนินงาน แย่ที่สุดในโลก จาก 92 ดัชนีที่ติดตาม นักวิเคราะห์ระบุว่าการไหลออกของทุนต่างชาติกว่า 1.4 แสนล้านบาท เป็นตัวสะท้อนความเชื่อมั่นที่ถดถอยของนักลงทุน

การร่วงลงของตลาดทุนไม่ได้เป็นแค่ปัญหาระยะสั้น แต่มันคือสัญญาณของ “ความล้มเหลวทางโครงสร้าง” ที่รัฐบาลแพทองธารต้องเร่งแก้ไข แต่คำถามคือ… รัฐบาลตอบสนองได้เท่าทันหรือยัง?

บลูมเบิร์กชี้ไทยแย่สุดในโลก – นักลงทุนเทขายไม่หยุด

จากข้อมูลของ บลูมเบิร์ก ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ได้แก่

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ – นโยบายที่ยังไร้ทิศทางทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น

หนี้ภาคครัวเรือนสูงลิ่ว – คนไทยเผชิญภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

การไหลออกของทุนต่างชาติ – นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพคล่องของตลาดลดลง

การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก – ทำให้ความน่าสนใจของตลาดไทยลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย

สถานการณ์นี้บ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยไม่เพียงขาดเสถียรภาพ แต่ยังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาคด้วย

รัฐบาลแพทองธารขยับ – แต่เท่าทันหรือไม่?

เมื่อเผชิญกับกระแสเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เพิ่งขยับ เรียกประชุมหน่วยงานสำคัญ เมื่อไม่นานมานี้ ประกอบด้วย

ก.ล.ต. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำชับให้ใช้กฎหมายเด็ดขาด ปราบปรามพฤติกรรมปั่นหุ้นและสร้างเสถียรภาพให้ตลาด ผลักดันกองทุน Thai ESG Extra เพื่อดึงเม็ดเงินกลับเข้าตลาด พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน

แต่… นโยบายเหล่านี้เพียงพอหรือไม่? เพราะดูเหมือนจะเป็นเพียงมาตรการแก้ปัญหาชั่วคราว โดยยังไม่แตะโครงสร้างสำคัญที่เป็นปัญหาของตลาดทุนไทย

ดร.นณริฏ เตือน: แจกเพลิน ระวัง “ตายเพราะหนี้บัตรเครดิต”

ก่อนหน้านี้ ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจาก TDRI ให้สัมภาษณ์ผ่าน The Publisher ระบุว่า การที่รัฐบาลไทยพยายามใช้มาตรการระยะสั้น เช่น การให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีกับนักลงทุนใน กองทุน Thai ESG Extra อาจช่วยกระตุ้นตลาดได้เพียง 1-2 วัน ก่อนที่หุ้นจะร่วงลงอีก

“ตลาดหุ้นไม่ได้แย่เพราะปัจจัยระยะสั้น แต่มันคือปัญหาเชิงโครงสร้าง”

เขาชี้ว่า ไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อันตราย โดยเฉพาะหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ตัวเลขที่น่ากังวล คือหนี้ครัวเรือนไทยแตะ 90% ของ GDP และ คนไทยจำนวนมากเริ่มผิดนัดชำระหนี้ จากสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง แต่รัฐบาลยังคงเน้นนโยบายแจกเงิน เอาเงินในอนาคตมาใช้ เหมือนเป็นหนี้บัตรเครดิตเพิ่มขึ้นไม่พอ ก็เพิ่มวงเงิน “สุดท้ายจะตายเพราะหนี้บัตรเครดิต หากรัฐบาลยังคงใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน โดยไม่มีการแก้ปัญหาโครงสร้าง อีกไม่นานเราอาจซ้ำรอย “อาร์เจนตินา” ที่เศรษฐกิจล่มสลายเพราะนโยบายประชานิยม”

ตลาดหุ้นไทยสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้

นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยไม่ใช่แค่เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เพราะ ตลาดหุ้นไทยไม่สามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้ เช่น เวียดนาม – ตลาดหุ้นโตต่อเนื่องจากการลงทุนภาคอุตสาหกรรม และเงินทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อินโดนีเซีย – ตลาดหุ้นแข็งแกร่งจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และนิกเกิล ทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพและสามารถดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ

ขณะที่ไทยยังไม่มีความเย้ายวนใด ที่จะดึงดูดนักลงทุน นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยังขาดความชัดเจน พึ่งพาการท่องเที่ยวมากเกินไปทำให้การเติบโตไม่มั่นคง ไม่มีการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรองรับการลงทุนระยะยาว นักลงทุนจึงเลือกลงทุนในประเทศที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า เพราะตลาดหุ้นไทยไม่เพียงไม่มีแรงจูงใจเพียงพอที่จะให้เงินทุนต่างชาติกลับมาเท่านั้น แต่ทุนไทยยังมีแนวโน้มไหลออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วย

ไทยกำลังเผชิญวิกฤตที่ลึกกว่าที่คิด

บลูมเบิร์กชี้ ตลาดหุ้นไทยแย่ที่สุดในโลก – นักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายหุ้น

ดร.นณริฏ เตือนว่า หนี้ครัวเรือนกำลังเป็น “ระเบิดเวลา” ของเศรษฐกิจ

แพทองธารขยับแล้ว แต่ยังเป็นแค่การแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่แตะปัญหาโครงสร้าง

หากไทยยังไม่มีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและตลาดทุนให้แข่งขันได้ ประเทศจะติดอยู่ในกับดักของความล้าหลังในภูมิภาค

ทางเดินที่ต้องเลือก “ปรับโครงสร้าง” ไม่ใช่ “แก้ปัญหาวันต่อวัน”

คำถามสำคัญที่รัฐบาลต้องตอบ ไทยจะแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในตลาดทุนได้อย่างไร? จะจัดการปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างไร ก่อนที่มันจะกลายเป็นวิกฤติเต็มรูปแบบ? จะเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจากการพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตระยะยาวได้หรือไม่?

หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าแบบ “แก้ปัญหาวันต่อวัน” โดยไม่มีวิสัยทัศน์ในระยะยาว อย่าว่าแต่ทำให้เศรษฐกิจโต 5 % เลย…แค่ดึงตลาดหุ้นไทยออกจากตำแหน่ง “แย่ที่สุดในโลก” ก็นับว่ายากแล้ว

รัฐบาลต้องรีบคิด รีบแก้เกม และต้องคิดให้ไกลกว่าการเอาตัวรอดรายวัน!

Writer Publisher

Leave A Reply Cancel Reply

Demo
Editor Choices
Trendy

“จรวดBM-21” สัญญาณบอกเหตุ แม่ทัพกุ้งขอให้มั่นใจไร้รอยต่อ เปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 2

26/09/2025
Facebook Twitter Instagram TikTok

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

The publisher ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ทําความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านเพิ่มเติม
ปฎิเสธ ตั้งค่าคุกกี้ ยอมรับ
Manage consent

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ที่จําเป็น
Always Enabled
คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
CookieDescription
cookielawinfo-checkbox-analyticsThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics".
cookielawinfo-checkbox-functionalThe cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional".
cookielawinfo-checkbox-necessaryThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary".
cookielawinfo-checkbox-othersThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other.
cookielawinfo-checkbox-performanceThis cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance".
viewed_cookie_policyThe cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data.
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo