จากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” โดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร
พิชิต เล่าถึงยื่นหนังสือทวงถามจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวกับ “กาสิNO” ว่า ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ ต้องแสดงออกให้ประชาชนเห็นว่าจะเลือกทางไหน เพราะครั้งหนึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยเข้าร่วมกับประชาชนชูธงปฏิรูปการเมืองไทย
“กาสิNO ไม่ใช่แนวทางปฏิรูปแน่ แต่จะยิ่งทำให้การเมืองไทยดิ่งเหวเพราะเป็นบ่อเกิดการคอร์รัปชัน ถ้าประชาธิปัตย์ยังคงอุดมการณ์ที่เคยมี ก็จะมีโอกาสฟื้นฟูพรรคได้” พิชิต ขยายให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวต่อจากนี้ว่าจะไปพรรคภูมิใจไทยในวันพุธหน้า (7เม.ย.68) แม้จะไม่มีความคาดหวังมากนักจากพรรคการเมืองก็ตาม แต่จะเป็นจุดมัดทางประวัติศาสตร์ในอนาคตว่าประชาชนได้เรียกร้องผ่านพรรคการเมืองเหล่านี้แล้ว เป็นการใช้มาตรการทางสังคม
ทักษิณ ไม่ฟังเสียงประชาชน
พิชิตยังวิเคราะห์ท่าทีของทักษิณ ชินวัตร และนายกฯ ที่แสดงอาการผลักดันกาสิNO เต็มที่ว่า เป็นการส่งสัญญาณจากทักษิณว่าต้องเดินหน้าก่อนรัฐบาลจะเดินตาม แสดงว่าทักษิณไม่ได้คำนึงถึงเสียงคัดค้านของประชาชนเลยไม่เข้าใจสิ่งที่ประชาชน ผู้นำศาสนา ราชบัณฑิต ภาคประชาสังคมจำนวนมากสื่อสาร
“มีการอ้างประเทศญี่ปุ่นทั้งที่มีความแตกต่างอย่างมาก กว่าญี่ปุ่นจะออกกฎหมายใช้เวลาศึกษาผลกระทบ ทำความเข้าใจกับสังคมเกือบสิบปี แต่ไทยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีจากการแสดงวิสัยทัศน์ทักษิณ รัฐบาลก็มาเดินหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการหาเสียงไว้ จะเปรียบเฉพาะว่าประเทศนั้นก็ทำ ประเทศนี้ก็ทำไม่ได้ เพราะบริบทต่างกัน ญี่ปุ่นใช้เวลาเกือบสิบปีออกกฎหมายสองฉบับ มีกาสิNO แค่ 3% และให้น้ำหนักกับอย่างอื่นมากกว่า ทักษิณต้องเข้าใจบริบทสังคมไทยและประชาชนให้มากกว่านี้ อย่าดื้อดึงเดินหน้าโดยไม่ฟังเสียงประชาชน”
ทักษิณอาจ “กลับเข้าคุก”…ก่อนคนคัดค้าน “ติดเตียง”
เขาสวนกลับคำพูดทักษิณที่บอกว่า “คนคัดค้านระวังเครียดจนป่วยติดเตียง” ว่า “ทักษิณเองตอนนี้สีหน้าท่าทางหมองมาก ไม่รู้ว่าระหว่างพี่น้องประชาชนที่คัดค้านจะติดเตียงกับทักษิณกลับไปติดคุก ไม่แน่ใจอันไหนจะเกิดก่อนกัน ทักษิณอย่าเบี่ยงประเด็นว่าคนคัดค้านเป็นคนหน้าเดิม แก่ ระวังป่วยติดเตียง เพราะคนคัดค้านมีประชาชนที่ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมและการเมืองเลยจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย อย่าเอาแต่บอกให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาล รัฐบาลต้องเข้าใจประชาชนด้วย”
ผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ หรือหายนะระดับประเทศ?
ส่วนที่นายกฯ บอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศนั้น พิชิต ถึงกับหัวเราะพร้อมถามกลับว่า “เป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ หรือจะเป็นหายนะของประเทศ ไม่เข้าใจว่านายกฯ ไปเอาความคิดนี้มาจากไหน จะเอาเรื่องนี้มากระตุ้นเศรษฐกิจในขณะนี้ได้อย่างไร เพราะแม้จะผ่านสภาฯ เดินหน้าได้ก็ต้องใช้เวลา ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจเกิดแล้ว นายกฯ คิดอะไรอยู่ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะประสบความสำเร็จ การสร้างคอนเสิร์ตฮอลล์ ก็ไม่ได้หมายความว่าศิลปินระดับโลกจะเดินทางมา ในทางตรงกันข้ามถ้ามีกาสิNO มีธุรกิจสีเทามากไทยบังคับใช้กฎหมายไม่ได้จริง แถมเป็นพื้นที่ที่จีนมองเป็นทางผ่านกระบวนการค้ามนุษย์ ศิลปินระดับโลกจะกล้ามาหรือไม่”
หวังศาลฯ เปลี่ยนผิดให้เป็นถูก
พิชิต ยังตั้งความหวังหลังศาลฯ มีมติไต่สวนปมการบังคับโทษทักษิณ อาจไม่เป็นไปตามหมายจำคุก 1 ปี เพราะไปรักษาตัวที่ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ซึ่งจะเริ่มไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ว่า จะช่วยเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกได้ เพราะข้อเท็จจริงทางสังคมชัดเจนแล้วว่าทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว “หวังว่าศาลฯ จะช่วยเปลี่ยนสิ่งที่ผิด…ให้กลับมาอยู่ในครรลองของความถูกต้องได้”