ไตรมาสแรกปี 68 เศรษฐกิจไทยโต 3.1%
วันนี้ (19 พ.ค. 2568) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงว่า GDP ไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ขยายตัว 3.1%
เกิดจากการส่งออกสินค้าโต 13.8%, ส่งออกบริการโต 12.3% และการลงทุนภาครัฐโตถึง 26.3%
⸻
เสถียรภาพเศรษฐกิจยังดี – เงินเฟ้อต่ำ ว่างงานน้อย
• อัตราว่างงาน: 0.89% (ต่ำกว่าปีก่อนที่ 1.01%)
• เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย: 1.1%
• เงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ย: 0.9%
• ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล: 10.5 พันล้านดอลลาร์
• เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (สิ้นมี.ค.): 245,300 ล้านดอลลาร์
• หนี้สาธารณะ: 12.08 ล้านล้านบาท หรือ 64.4% ของ GDP
⸻
เศรษฐกิจเริ่มสะดุด เม.ย. – ยังผันผวนจากนโยบายการค้าต่างประเทศ
แม้ไตรมาสแรกจะโตดีจากการเร่งนำเข้าสินค้าก่อนเมษายน
แต่ตั้งแต่เดือนเม.ย. เริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว
โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่ยังไม่แน่นอน
แม้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ เริ่มผ่อนคลายลงบางส่วน
⸻
ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 68 เหลือโตแค่ 1.8%
สศช. ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 จากเดิม 2.3 – 3.3% เหลือเพียง 1.3 – 2.3% (ค่ากลาง 1.8%)
คาดการณ์ภาพรวมปีนี้:
• การบริโภคภาคเอกชน: ขยายตัว 2.4%
• การลงทุนภาคเอกชน: ลดลง 0.7%
• การส่งออกรวม (รูปดอลลาร์): โต 1.8%
• เงินเฟ้อเฉลี่ย: 0.0 – 1.0%
• ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล: 2.5% ของ GDP
⸻
จุดแข็งยังมี แต่ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า
นายดนุชา ระบุว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งจาก:
• การใช้จ่ายภาครัฐ
• การบริโภคภาคเอกชน
• การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
แต่ยังมีข้อจำกัดจาก:
• หนี้ครัวเรือน-หนี้ภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง
• การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก
• ความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้า
• ความเสี่ยงจากภาคเกษตร
⸻
“สามเครื่องยนต์หลักต้องเร่งเดินหน้า”
“เครื่องยนต์สำคัญที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในปีนี้ คือ การใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องเร่งเบิกจ่ายให้มากขึ้น การบริโภคภาคเอกชน และการท่องเที่ยว… ส่วนปัจจัยเสี่ยงคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และหนี้ครัวเรือนในประเทศ” – นายดนุชา พิชยนันท์