“เพราะโรคที่ทักษิณเป็น ต้องใช้ยาต่างประเทศซึ่งนำเข้ามาจากต่างประเทศโดยแพทย์ที่ดูแลตั้งแต่อยู่ต่างประเทศ ไม่มีข้อกฎหมายห้าม และยาดังกล่าวไม่ได้เบิกผ่านระบบราชการ”
คำชี้แจงนี้สร้างคำถามในวงการแพทย์ทันทีว่า “หากเป็นยาที่ใช้จริงในการรักษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลราชการ จะไม่มีการลงบันทึกไว้เลยหรือ?”
⸻
ความเห็นจากแพทย์: “ไม่มีค่ายา = ไม่ใช่เหตุผลว่าป่วยจริง”
The Publisher ได้ข้อมูลจากแพทย์หลายรายที่ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุตรงกันว่า การอ้างว่าไม่มีค่ายาเพราะใช้ยานอกระบบ ถือเป็น คำอธิบายที่ขัดกับหลักการแพทย์และระเบียบราชการ
“แม้จะใช้ยาที่คนไข้จัดหามาเอง แพทย์ต้องลงบันทึกไว้ใน OPD card หรือประวัติการรักษา และต้องแสดงให้ได้ว่า ยานั้นมีการใช้จริง ปริมาณเท่าใด ใครเป็นผู้ดูแลการให้ยา เพราะผู้ป่วยอยู่ในการควบคุมของโรงพยาบาลและเรือนจำ ถ้าไม่มีแม้แต่ค่ายา ไม่มีเอกสารการใช้ยา ไม่มีชื่อแพทย์ผู้สั่งยา แล้วจะยืนยันได้อย่างไรว่ามีการรักษาจริง?”
นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่า หากเป็นการรักษาโดยใช้ยาต่างประเทศ แต่ไม่มีการออกใบเสร็จ ไม่มีชื่อผู้สั่ง และไม่มีเอกสารประกอบ ก็ยิ่งเป็นเหตุให้ต้อง ตรวจสอบมาตรฐานทางการแพทย์ มากกว่า เพราะข้อแก้ตัวนี้ไม่สมเหตุสมผล
⸻
คำถามทางกฎหมาย: “ไม่มีเอกสาร แล้วจะเป็นพยานหลักฐานได้อย่างไร?”
แม้วิญญัติจะระบุว่า เอกสารดังกล่าวถูกยื่นให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ตรวจร่างกายไปแล้ว และเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” ที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ แต่ในทางกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องใช้ พยานเอกสารและหลักฐานที่ตรวจสอบได้ เท่านั้น
แพทย์คนหนึ่งให้ความเห็นว่า
“ถ้าบอกว่าป่วย แต่ไม่มีข้อมูลยา ไม่มีผลตรวจ ไม่มีเวชระเบียนกลาง แบบนี้ใครก็อ้างได้หมด แล้วศาลจะใช้หลักอะไรในการตัดสิน?”
⸻
“ไม่มีค่ายาเพราะใช้ยานอก” อาจเป็นคำอธิบายที่ฟังขึ้นในสายตาทนาย แต่ในสายตาแพทย์และสังคม คำถามยังไม่หมด
• ใช้ยาอะไร? ใครให้? ใช้อย่างไร?
• ทำไมไม่มีบันทึก?
• แล้วใครคือผู้ควบคุมดูแลในฐานะผู้ป่วยใน?
23 มิ.ย.นี้ คือเส้นตายยื่นคำชี้แจงต่อศาล
และสิ่งที่ศาลจะเชื่อหรือไม่เชื่อ อาจไม่ได้อยู่ที่ “คำอธิบาย”
แต่อยู่ที่ว่า “มีหลักฐานให้เห็น” หรือไม่
ว่าแต่คุณเชื่อคำชี้แจงของ “ทนายทักษิณ” มั้ย?
#ชั้น14#ป่วยทิพย์#ทักษิณ#หนีคุก#ไม่มีค่ายา#วิญญัติชาตมนตรี#ThePublisherTH#ศาลฎีกา#กลับคุก

