ความรับผิดชอบทางการเมือง : เทียบกรณีลาออกของรมว.แรงงานคิวบา กับความเงียบของแพทองธาร
“คิวบาไม่มีขอทาน มีแต่คนปลอมตัวเป็นขอทาน”
— Marta Elena Feitó Cabrera, รัฐมนตรีแรงงานคิวบา (ลาออกใน 3 วัน)
“แม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเรา… อังเคิล บอกได้ว่าต้องการอะไร เดี๋ยวจัดการให้”
— แพทองธาร ชินวัตร, นายกฯ – รมว.วัฒนธรรม (ยังดำรงตำแหน่ง)
⸻
ถ้อยคำที่สะท้อนภาวะไร้ภาวะผู้นำ
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2025 รัฐมนตรีแรงงานและประกันสังคมของคิวบา กลายเป็นประเด็นร้อนแรงระดับชาติ หลังเธอแสดงความเห็นกลางที่ประชุมรัฐสภาว่า “คิวบาไม่มีขอทาน” และกล่าวหาว่าผู้ที่คุ้ยขยะหรือเช็ดกระจกรถเป็นแค่คนที่ “แกล้งจน” เพื่อหาประโยชน์ สังคมคิวบาทั้งในและนอกประเทศระอุทันที เสียงเรียกร้องให้ลาออกดังกระหึ่มภายในวันเดียว
แม้ไม่ได้มีการบีบบังคับจากศาลหรือฝ่ายค้าน Feitó กลับเลือก “รับผิดชอบ” ด้วยการยื่นใบลาออกด้วยตนเองภายในเวลาไม่ถึง 72 ชั่วโมง
แต่ในเวลาไล่เลี่ยกัน แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไทยกำลังเผชิญแรงกระเพื่อมจาก “คลิปหลุด” ซึ่งเป็นบทสนทนา กับ ฮุน เซน ประธานวุฒสภากัมพูชา มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม และถึงขั้น เสนอให้ฮุน เซนบอกมาว่าต้องการอะไรจะจัดการให้
⸻
การแสดงความรับผิดชอบที่หายไป
ในทางการเมือง คำพูดของผู้นำหรือผู้มีบทบาทสาธารณะมีน้ำหนักเสมอ ไม่ว่าจะพูดในที่แจ้งหรือที่ลับ ยิ่งเป็นบุคคลในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะผูผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี การสื่อสารที่คลุมเครือ ผิดจังหวะ หรือขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ ล้วนก่อให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่น และสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง
กรณีคิวบา การลาออกของรัฐมนตรีแรงงานแม้ไม่ได้ทำให้ปัญหาความยากจนหายไป แต่คือการ “ปกป้องความน่าเชื่อถือของรัฐบาล” และ “ลดแรงเสียดทานของสังคม” ได้อย่างมีศักดิ์ศรี
ตรงข้ามกับประเทศไทย กรณีคลิปแพทองธารกับฮุน เซน ท่องคาถา “ดิฉันไม่ได้อะไร ประเทศก็ไม่ได้เสียอะไร” และคำขออภัยแบบไร้ท่าทีสำนึกผิด หรือยอมรับความผิดพลาด กระทั่ง สว.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จนถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ และคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฯ ว่าจะต้องพ้นตำแหน่งหรือไม่
⸻
ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือความเชื่อมั่นของรัฐ
การที่รัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งในคิวบา ไม่ได้แปลว่าเธอคือปัญหาของระบบ แต่คือการส่งสัญญาณให้รู้ว่า “คำพูดมีผล” และนักการเมืองที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบจะไม่ยื้ออำนาจไว้เพื่อรอให้วิกฤตลุกลาม
กลับกันในประเทศไทย การที่แพทองธารยังไม่แสดงความรับผิดใด ๆ ทั้งที่เป็นตัวละครสำคัญในรัฐบาลผสม ย่อมทำให้คำถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำยิ่งเข้มข้นขึ้น และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของรัฐไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อคำพูดนั้นเกี่ยวข้องกับการพึ่งพาต่างชาติ และพาดพิงฝ่ายความมั่นคงของประเทศตัวเอง
⸻
ถึงเวลาเรียนรู้ว่า “ลาออก” ไม่ใช่ความพ่ายแพ้
สังคมไทยยังคงติดกับดักแนวคิดว่า “การลาออกคือการยอมแพ้” ทั้งที่ในความเป็นจริง นั่นคือ “การแสดงภาวะผู้นำขั้นสูง” โดยเฉพาะเมื่อคำพูดหรือการกระทำของตนส่งผลกระทบต่อชาติ
คิวบาไม่ใช่ต้นแบบของประเทศประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบ แต่กลับกลายเป็นตัวอย่างของกลไก “การรับผิดทางการเมือง” ที่ทำได้จริง ในขณะที่ประเทศไทย ซึ่งอ้างตัวว่ากำลังเดินหน้าเข้าสู่มาตรฐานสากล กลับยังไม่อาจทำเรื่องพื้นฐานเช่นนี้ให้เกิดขึ้นได้
หากผู้นำทางการเมืองไทยไม่สามารถแสดงภาวะผู้นำผ่านการรับผิดชอบต่อคำพูดของตนเองได้
สุดท้ายหากต้องพ้นตำแหน่งเพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ก็จะยิ่งกลายเป็นตราบาปติดตัวในฐานะ—นายกฯ ที่ทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ปิดฉากการเมืองไปตลอดกาล
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#เที่ยงเปรี้ยงปร้าง#รัฐบาลแพทองธาร#คลิปเสียงสนทนาฮุนเซน#แพทองธารชินวัตร#ทักษิณชินวัตร#ชายแดนไทยกัมพูชา#ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา#จริยธรรมนายก

