หยุดยิง…แต่ยังไม่ปลอดภัย
แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทย–กัมพูชา แต่สถานการณ์ชายแดนยังไม่คลี่คลาย และเวทีการเมืองระหว่างประเทศก็ยังไม่เอื้อประโยชน์ต่อไทยอย่างแท้จริง
“สถานการณ์น่าจะค่อย ๆ มีเสถียรภาพมากขึ้น ลดการปะทะ และหยุดยิงตามข้อตกลง เพื่อเข้ากรอบการเจรจาทวิภาคีอย่างเต็มรูปแบบทั้ง RBC และ GBC… เราต้องเร่งมากกว่านี้ เพราะยังห่างจากกัมพูชาหลายช่วงตัว ต้องประชิดกัมพูชาจนนำหน้าเพื่อกลับมาสู่สันติสุขให้ได้”
⸻
รัฐบาลยังไม่เป็นฝ่ายได้เปรียบ
แม้ไทยจะได้พื้นที่บนเวทีโลกกลับมาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เพราะฝีมือการทูตของรัฐบาล หากเพราะกัมพูชาทำผิดกติกาสากล ไม่เพียงเท่านั้นกัมพูชายังพลิกสถานการณ์ใช้เวทีอาเซียน รวมถึงดึงมหาอำนาจมาช่วยเจรจาหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข
“รัฐบาลต้องดำเนินการเชิงรุกมากกว่านี้ เพราะกัมพูชาพลิกแพลงสถานการณ์จากเพลี้ยงพล้ำในบางจังหวะ… เราจึงไม่ได้เปรียบในเวทีอาเซียน ทั้งที่กัมพูชาละเมิดกรอบอาเซียน”
⸻
ต้องกดดันกัมพูชาอย่างเป็นระบบ
อาจารย์ปณิธานเสนอให้ไทยเดินหน้าเผยแพร่ข้อมูลการละเมิดของกัมพูชาไปยังเวทีโลก เพื่อให้สาธารณชนระหว่างประเทศเห็นภาพจริง และไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายที่ละเมิดกติกา
“แรงกดดันแรกที่ต้องทำทันที… คือส่งข้อมูลที่กัมพูชาละเมิดกติกาสากลทั้งหมด รวมถึงล่าสุดในการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไปให้สหประชาชาติ อาเซียน สหรัฐฯ จีน และมิตรประเทศทั้งหมด”
⸻
สอบตกเกมการทูต
แม้รัฐบาลจะปรับตัวในการสื่อสารมากขึ้น แต่ยังถือว่า “ไม่ทันเกม” เมื่อเทียบกับกัมพูชาที่ใช้ช่องทางส่วนตัวของผู้นำอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพ
“ถ้าให้คะแนนก็ถือว่าสอบแทบไม่ผ่าน ยังปริ่มน้ำลอยคอเหนือน้ำไม่ได้… ถ้าปรับให้เข้มข้นเชิงรุก ให้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้นจะดีกว่านี้ และต้องทำให้การพูดคุยทุกครั้งเปิดเผยในทางสาธารณะ”
⸻
ได้เปรียบในสนามรบ เพลี่ยงพล้ำในเวทีโลก
แม้ในสมรภูมิรบไทยจะได้เปรียบ แต่กัมพูชากลับสามารถใช้เวทีระหว่างประเทศชะลอความเสียเปรียบของตัวเองลงด้วยการดึงมหาอำนาจมาบีบให้ ไทยต้องเจรจาหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข และอาจใช้ข้ออ้างอื่น ๆ เพื่อโจมตีไทยได้อีก
“คนไทยจึงไม่พอใจอย่างยิ่งว่าเราเป็นฝ่ายถูกกระทำทั้งในสมรภูมิ และเวทีนานาชาติ กระทบเกียรติภูมิความมั่นคงของประเทศ และกระทบความปลอดภัยของประชาชนด้วย”
⸻
ถึงเวลาวางกรอบใหม่–รุกในอาเซียน เวทีโลก
อาจารย์ปณิธานเสนอให้ไทยกำหนดกรอบเจรจาใหม่ ยกเลิกข้อตกลงเดิมที่ไม่ได้ผล และเพิ่มความเข้มข้นในการเดินเกมทั้งในอาเซียนและเวทีโลก เพื่อไม่ให้สถานการณ์วนกลับมาเป็นวงจรเดิม
“ต้องใช้โอกาสนี้กำหนดกรอบการแก้ปัญหาและข้อตกลงใหม่… ถ้าไม่เดินแบบนี้สุดท้ายคนไทยก็จะไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม”
⸻
บทเรียนแห่งความห่างเหิน
เหตุที่ไทยมีพันธมิตรน้อยและไม่สามารถขับเคลื่อนท่าทีระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาจากการที่ห่างเหินจากเวทีโลกมายาวนาน วางตัวเป็นกลาง ไม่ช่วยใครา แตกต่างจากกัมพูชาที่เดินการเมืองระหว่างประเทศในลักษณะต่างตอบแทนทำให้มีพันธมิตรเข้มแข็งรายล้อมอยู่ แม้จะทำหลายอย่างที่ผิดกติกาสากล
“เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับคนในแวดวงต่างประเทศที่เห็นว่าการตั้งรับดีกว่าการดำเนินการเชิงรุก ทั้งที่ในอดีตเราดำเนินการเชิงรุกได้ดี และไม่เคยเพลี่ยงพล้ำในสถานการณ์ใหญ่ ๆ”
⸻
ความเป็นผู้นำในยามวิกฤต
อาจารย์ปณิธานทิ้งท้ายว่า ในยามที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤต ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจเพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ
“การนำในยามวิกฤตสำคัญที่สุด ผู้นำต้องตัดสินความเป็นความตาย ความได้เปรียบเสียเปรียบ อธิปไตยของชาติ ความอยู่รอดของประชาชน… แต่วันนี้เรายังทำได้ไม่มาก ต้องเร่งทำให้ได้”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #ทหารมีไว้ปกป้องอธิปไตย #TruthFromThailand #ละเมิดหยุดยิง #เจรจาหยุดยิง #กองทัพบก #ทหารพราน #ตชด #อาชญากรสงคราม #ปณิธานวัฒนายากร

