
บทนำ
เมื่อปัญหาความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาระบาดหนักในเดือนกรกฎาคม 2025 ASEAN ถูกทดสอบความน่าเชื่อถืออย่างรุนแรง การเยือนประเทศไทยของนาย บุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม จึงไม่ใช่แค่พิธีการ แต่เป็นสัญญาณเชิงยุทธศาสตร์ของยุทธศาสตร์ “middle power diplomacy” ที่เวียดนามใช้ในการสร้างบทบาทในภูมิภาคผ่านการ “มีอยู่โดยไม่แทรกแซง”
1. วาทกรรมการทูตของเวียดนาม: Bamboo Diplomacy ในทางปฏิบัติ
เวียดนามปรากฏตัวในบริบท ASEAN ด้วยแนวทางที่เรียกว่า “bamboo diplomacy” (การทูตแบบยืดหยุ่น) เน้นการรักษาสมดุล รักษาอัตลักษณ์ และหลีกเลี่ยงการรุกล้ำอย่างชัดเจน ([turn0search33]) ขณะเดียวกัน ประชาคมระหว่างประเทศรับรู้ว่าเวียดนามมุ่งสู่บทบาท middle power ในภูมิภาค Indo‑Pacific ซึ่งทำหน้าที่ได้ทั้งเป็น bridger และ legitimizer ภายใต้กรอบ ASEAN ([turn0search12])
เมื่อนายบุ่ย แทงห์ เซินประกาศพร้อมสนับสนุนการบังคับใช้ ข้อตกลงหยุดยิง (ceasefire enforcement) ระหว่างไทย–กัมพูชา แทนที่จะผลักดันเป็นผู้สั่งการ วาทกรรมนี้สอดคล้องกับลักษณะ behavioral middle power ที่ Cooper ระบุว่า จะทำงาน low-profile แต่ชัดเจนในทิศทางของหลักการสากล ([turn0search12]).
2. กรณีการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา: บทเรียนจาก Preah Vihear ถึงปี 2025
ความขัดแย้งชายแดนระยะรุนแรงระหว่างไทย–กัมพูชา เริ่มต้นจากข้อพิพาทดินแดนที่สืบทอดมาตั้งแต่ยุคอาณานิคมที่ใช้แผนที่ปี 1904 กับ 1907 เป็นต้น โดยนำไปสู่ความรุนแรงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 มีการใช้อาวุธหนักทั้งหญิงและชาย แลกเปลี่ยนประเด็น ICJ ความช่วยเหลือจากมหาอำนาจ ภาวะปิดเมือง และการผลักกันให้เจรจาแบบสองฝ่ายเท่านั้น ([turn0news21],[turn0news22],[turn0news23],[turn0search36]).
บทวิเคราะห์ทางวิชาการชี้ว่า บทบาทของ ASEAN ในกรณี Preah Vihear แม้ช่วยยับยั้งสถานการณ์ไหวหวั่นในระดับหนึ่ง แต่โครงสร้างและหลัก non‑interference ของ ASEAN ทำให้ในหลายครั้ง ขาดการแทรกแซงที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพ ([turn0search11],[turn0search18],[turn0search16]).
3. บทวิเคราะห์เชิงทฤษฎี: การใช้นโยบายสันติภาพโดยเวียดนาม
3.1 Middle Power & Niche Diplomacy
เวียดนามใช้พื้นที่เฉพาะ (niche) คือการเจรจาสันติภาพ ข้อตกลงหยุดยิง และสร้างความเชื่อมโยงระดับภูมิภาคร่วมกับการพัฒนาเศรษฐกิจ (เช่น CLV‑DTA และ ACMECS) ([turn0search12],[turn0search32],[turn0search37]). การเสนอเป็นผู้สนับสนุน ceasefire enforcement สอดคล้องกับแนวคิด niche diplomacy โดยเป็น mediator อย่างเป็นทางการโดยไม่ต้องสวมบทบาท hegemon.
3.2 ASEAN Way & Institutional Constraints
ASEAN ใช้แนวทาง consensus-driven และ non-interference ซึ่งมีข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง เมื่อต้องรับมือกรณีชายแดนที่คู่กรณีไม่ยอมรับนิติศาสตร์ระหว่างประเทศ [turn0search11],[turn0search18],[turn0search16] การที่ไทยปฏิเสธ ICJ และไม่ยอมรับการแทรกแซงจากนานาชาติ ยิ่งสะท้อนข้อจำกัดของ ASEAN.
3.3 การแสดงเจตนารมณ์อย่างมีชั้นเชิง
เวียดนามแสดงออกในเชิง readiness ไม่ใช่ authoritative intervention การแสดงความห่วงใยอย่างสุภาพ พร้อมสนับสนุนการเจรจาแบบ bilateral และฝั่งไทยชอบธรรมในการย้ำว่าจะไม่รับ mediation จากภายนอก นั่นคือการจัดสมดุลการทูตแบบ embedded neutrality.
4. บทบาทเชิงเชื่อมโยง ASEAN Stability 및 ภาพรวมทางภูมิรัฐศาสตร์
| มิติ | รายละเอียด |
|---|---|
| Institutional Legitimacy | เวียดนามสร้างภาพลักษณ์ของ ASEAN-mediated security actor ด้วยบทบาท low-profile แต่มีฟังก์ชันทางการทูต อย่างเช่นการสนับสนุน ceasefire |
| Regional Stability | ลดผลกระทบข้อพิพาทต่อโครงการ CLV‑DTA และ ACMECS ที่เน้นเชื่อมโยงชายแดนและเศรษฐกิจร่วมกัน ([turn0search32],[turn0search37]) |
| ASEAN Centrality | สอดคล้องกับแนวคิด ASEAN centrality โดยไม่ต้องรอบทบาทจีนหรือสหรัฐฯ ([turn0search0],[turn0news20],[turn0search4]) |
| Geostrategic Buffering | บทบาทของเวียดนามสามารถช่วยลดแรงกดดันทวิภาคีจากจีนหรือสหรัฐฯ โดย ASEAN มีตัวกลางในระดับภูมิภาค |
5. ข้อเสนอเชิงนโยบายและทิศทางสำหรับอนาคต
- พัฒนา ASEAN-led mediation frameworks เช่น Early Warning Systems หรือ Confidence Building Measures ร่วมกับโครงการ ASEAN Peace Reconciliation Institute ([turn0search3]).
- เพิ่มศักยภาพเวียดนามในฐานะ mediator diplomatically, เช่น ศูนย์ฝึก mediation ชายแดนในภูมิภาค GMS.
- เสริม normative framework โดย ASEAN ส่งเสริมแนวคิด normative diplomacy เช่น advocacy ให้สมาชิกเคารพ consensus และ non‑interference ในรูปแบบ proactive.
บทสรุป
การเยือนของรัฐมนตรีกต.เวียดนามครั้งนี้ คือการแสดงบทบาททางยุทธศาสตร์ในกรอบ ASEAN — เป็นตัวกลางแบบเงียบ แต่ทรงพลัง ตามแนวคิด middle power diplomacy และ niche diplomacy ไม่เข้าไปแทรกแซงตรง แต่ใช้การสนับสนุนแบบมีชั้นเชิงผ่านการยึดหลักวาทกรรม ASEAN และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
หากต้องการเพิ่มกรอบทฤษฎี Constructivism หรือ Liberal Institutionalism สำหรับกรณีนี้ หรือขยายไปสู่ผลต่อไทย–จีน–เวียดนาม–กัมพูชา แจ้งได้ครับ ยินดีขยายให้ครับ

