“เหนื่อยนะเมืองไทย… เพราะไม่รู้จะไปทางไหน”
—ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการการค้าและอุตสาหกรรมไทย
เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร”
⸻
แรงงานกัมพูชาทยอยกลับประเทศ กระทบอุตสาหกรรมใช้แรงงานเข้มข้น
หลังสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุรุนแรง ธนิต โสรัตน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แรงงานกัมพูชาในระบบกลับประเทศไปแล้วราว 20,000 คน จากทั้งหมด 500,000 คน คิดเป็นประมาณ 4% แม้ตัวเลขจะไม่มากเมื่อเทียบกับภาพรวม แต่ก็เพียงพอที่จะกระทบอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาหาร และแปรรูป
แรงงานทดแทนจากเมียนมา ปากีสถาน ศรีลังกา และบังคลาเทศ ได้รับการเตรียมความพร้อมไว้บ้าง ขณะที่การต่อสัญญาแรงงานกัมพูชารอบล่าสุดจำนวนหนึ่งแสนคน ก็เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นานมานี้
“ไม่ใช่แค่แรงงานกัมพูชาถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับ แต่ภายในประเทศเราก็เริ่มมีปัญหาการกวดขัน ทัศนคติต่อแรงงานกัมพูชาก็ไม่ค่อยดี บาดแผลลึกที่เกิดขึ้นทำให้แรงงานเริ่มไม่อยากอยู่ แม้รายได้ที่กัมพูชากับไทยต่างกัน 50–60% และกลับไปก็อาจไม่มีงานทำด้วยซ้ำแต่พวกเขาก็ถูกบังคับจากรัฐขู่ถ้าไม่กลับจะยึดที่ดิน ยึดบ้าน ถอนสัญชาติ เขาก็ต้องกลับไป”
—————-
ฮุน เซนยังอยู่ = แรงงาน–การค้ากลับยาก
ธนิตวิเคราะห์ว่าหากยังเป็นยุคของฮุน เซน แรงงานกัมพูชาคงทำงานในไทยยากขึ้น และแม้แต่การค้าขายระหว่างไทยกับกัมพูชาก็จะกลับมายากในช่วง 5–10 ปีนี้ เพราะ “ภาพจำของการโจมตีพลเรือนไทย การปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมาก” คือแผลลึกที่ทั้งสองฝ่ายยากจะลืม
——————-
พึ่งแรงงานต่างชาติมากเกินไป ไทยควรปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
“ประเทศไทยพึ่งพาแรงงานต่างชาติมากถึง 4 ล้านคน มันมากเกินไปแล้ว เราต้องปฏิรูปเศรษฐกิจ ลดการใช้แรงงาน เพิ่มเทคโนโลยี ไม่อย่างนั้นก็ยังติดกับอุตสาหกรรมแบบเดิมที่คนไทยไม่ทำ ค่าแรงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ จีดีพีไทยเลยติดหล่ม”
ธนิตสะท้อนว่ารัฐบาลไม่เคยคิดเรื่องการพัฒนาทั้งระบบ กระทรวงแรงงานก็เน้นแค่พัฒนาทักษะแรงงาน แต่ไม่สนใจพัฒนาฟากนายจ้างไปด้วย จึงถึงเวลาต้อง “ถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อมองไปข้างหน้า” แล้วเริ่มต้นปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
—————
ภาษีทรัมป์–ชายแดนเดือด = ผลิตลด สะเทือนทั้งอุตสาหกรรม
ผลกระทบจากสองด้าน ทั้งภาษีทรัมป์และปัญหาแรงงานชายแดน ทำให้อุตสาหกรรมไทยสะดุด ธนิตชี้ว่าช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “กำลังผลิตลดลง” โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญ
“ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า ต้องเอาเทคโนโลยีมาเพิ่มนวัตกรรม แต่ที่ผ่านมาเป็นแค่แผ่นเสียงตกร่อง พูดซ้ำมาหลายปี ไม่ได้ลงมือทำจริง คนพูดก็เป็นอาจารย์ได้เงินค่าพูด ส่วนข้าราชการก็พูดตามพันธกิจ ไม่ลงมือ ไม่พัฒนาเอสเอ็มอีจริง ๆ”
—————————
ประเทศไทยวันนี้: วิกฤตขาดผู้นำ–ไม่มีใครพูดเรื่องประเทศ
ธนิตบอกตรง ๆ ว่า “ประเทศไทยตอนนี้เหนื่อยมาก” เพราะเจอทั้งภาษีทรัมป์ ทั้งสงครามชายแดน แต่ไม่มีผู้นำที่แท้จริง นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ไม่มี ขณะที่ทางออกก็ยังมืดมน
“จะยุบสภาก็ได้คนหน้าเก่า ๆ กลับมา ฝ่ายค้านก็พูดจาน่าเป็นห่วง ส่วนรัฐบาลก็พูดแต่เรื่องของตัวเอง ไม่มีใครพูดเรื่องประเทศ พรรคที่เคยหวังก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เหนื่อยนะประเทศไทย… เพราะไม่รู้เลยว่าบ้านเมืองจะไปทางไหน”
แม้ชื่อของ “ชัยเกษม นิติสิริ” จะถูกวางตัวไว้หาก “แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง แต่ธนิตเปรียบไว้แบบเจ็บ ๆ ว่า…
“ตีกอล์ฟกับเป็นนายกฯ มันคนละเรื่องกันนะครับ สองคนก่อนหน้านี้ก็ถูกสอยไปแล้ว คนที่สามจะมาแทน…ก็ต้องคิดดี ๆ เหนื่อยนะเมืองไทย”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รัฐบาลไทย #ข่าววันนี้ #เศรษฐกิจไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #ก้าวผ่านวิกฤต #ประเทศไทย #แรงงานกัมพูชา #รัฐบาลแพทองธาร #ฝ่ายค้าน #วิกฤตผู้นำ

