แม้การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา วันที่ 7 สิงหาคม จะได้ข้อสรุปไปสู่ “หยุดยิงถาวร” แต่ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เตือนว่าอย่าเพิ่งวางใจ เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติจริงในพื้นที่
“สันติสุขที่แท้จริงจะอยู่ที่พื้นที่ พฤติกรรม กองกำลัง และผู้นำ ไม่ใช่อยู่บนกระดาษหรือโต๊ะเจรจา”
เขามองว่าการเริ่มต้นครั้งนี้เป็นสัญญาณดี แม้มีข้อจำกัดและช่องว่างหลายประการ ไทยจึงต้องสร้างความเข้มแข็ง และตั้งกลไกควบคุมให้เป็นรูปธรรม ทั้งการไม่ใช้กำลัง ลด–ถอนกำลัง และกลับสู่กรอบเจรจา RBC–GBC–JBC เพื่อปักปันชายแดนที่เหลืออีกหนึ่งในสาม
⸻
คณะผู้สังเกตการณ์—เสี่ยงล้มเหลว
ในทางปฏิบัติ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวและของอาเซียนอาจตั้งได้ยาก เพราะไม่มีประสบการณ์และเคยล้มเหลวมาแล้วในปี 2554 คราวนี้ยังมีมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง และมาเลเซียก็ไม่ได้เป็นกลางเต็มร้อย แม้จะปรับท่าทีดีขึ้นจากการเจรจาหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคม
“ภาพรวมกองกำลังของเราต้องสถาปนาความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง การรื้อลวดหนาม ขยับปรับเปลี่ยนอย่าให้เกิดขึ้น”
⸻
ถ้อยคำที่ตีความได้—ความเสี่ยงของสันติภาพ
รศ.ดร.ปณิธาน ตั้งข้อสังเกตถึงคำแถลงของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่เหมือนการันตีให้ฝ่ายนโยบายกัมพูชาว่าไม่เกี่ยวกับการละเมิดหยุดยิง ซึ่งอาจถูกตีความและบิดเบือน
“คำพูดแต่ละถ้อยคำมีความละเอียดอ่อน อันตรายมากกับการดำเนินการสันติภาพถาวรต่อไป”
⸻
ช่องว่างของเวลา–ข้อมูล–การบังคับใช้
เขามองว่าการกำหนดให้ประชุม RBC หลัง GBC ถึง 2 สัปดาห์ เป็นเวลาที่นานเกินไป เปิดช่องว่างให้สถานการณ์ผันผวน ขณะที่กัมพูชายังเผยแพร่ข่าวปลอมต่อเนื่อง แม้ข้อตกลงห้ามไว้
“สัญญาณในพื้นที่ในทิศทางที่ดีก็ยังไม่เกิดขึ้น กว่าสันติภาพจากการเจรจาจะเดินทางมาถึงพื้นที่คงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง”
⸻
ทุ่นระเบิด–กลยุทธ์ซื้อเวลา
กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่ง รศ.ดร.ปณิธานมองว่าอาจเป็นแทคติก เพราะทำให้ไทยถอนกำลังยาก และจะวกกลับมาขอพิกัดในภายหลัง ส่วนปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ต้องรอถึงการประชุม JBC กัมพูชาไม่ตอบรับทั้งสองเรื่องนี้ คือการซื้อเวลา
⸻
อย่าเรียกร้องความจริงใจ—ต้องแข็งแรงด้วยตัวเอง
“เราไม่ได้ได้เปรียบกัมพูชา การประชุม GBC ครั้งนี้มีแต่หลักการทั่วไป ไม่มีกลไกบังคับกัมพูชาที่ชัดเจน”
เขาเสนอให้ไทยสถาปนาความเข้มแข็งทั้งชายแดนและในเวทีต่างประเทศ เพื่อ “ปิดล้อม” กัมพูชา พร้อมฟ้องในทุกระบบทั้งในและนอกประเทศ
⸻
ปรับสมดุลจีน–สหรัฐ และสงครามผสม
จากท่าทีฮุน มาเนต ที่ปรับลดน้ำหนักจีนลงและเพิ่มบทบาทสหรัฐฯ อาจทำให้ภูมิภาคเปลี่ยน ไทยควรทำเช่นกัน—ร่วมมือกับจีนปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และร่วมมือทางทหารกับสหรัฐ เพราะสงครามยุคใหม่เชื่อมโยงนานาชาติ ทั้งกำลังบำรุง อาสาสมัคร และอาวุธสมัยใหม่ราคาถูก ซึ่งกัมพูชาสามารถใช้ใน “สงครามผสม” ได้
⸻
สวนกลับสิงคโปร์—พูดความจริงไม่ครบ
ต่อคำวิจารณ์จาก รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ว่า ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาเกิดจากความล้มเหลวของผู้นำและการทูตของทั้งสองประเทศ รศ.ดร.ปณิธาน สวนว่าเป็นเพียง “ความจริงครึ่งเดียว” เพราะสิงคโปร์ยังเป็นผู้ส่งน้ำมันและอาวุธให้กัมพูชา
“สิงคโปร์เป็นพ่อค้า ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งของทุกประเทศ ต้องให้เขาจริงใจกว่านี้ และไทยควรพิจารณาการใช้พื้นที่ทางทหารของเราด้วย”
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #ปณิธารวัฒนายากร #สันติภาพ

