📌 26 มิ.ย. 68
ปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว เสนอแนะต่อแพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ระหว่างการลงพื้นที่
1. ยกเลิกงดเว้นเก็บค่าธรรมเนียมแรงงานกัมพูชาช่วงสงกรานต์ (ไทยเสียรายได้ 74 ล้าน)
2. ชะลอ/ยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา 75 ปี
3. ทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน
4. ระงับความช่วยเหลือกัมพูชาแบบให้เปล่าทุกชนิด
วันนั้น…ถูกยกย่องว่า “กล้าชน” เพื่อผลประโยชน์ประเทศ
📌 22 ส.ค. 68
ผู้ว่าฯ สระแก้ว ร่วมแถลงกับแม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า พื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่ถูกกัมพูชารุกล้ำยึดครอง เป็นพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือกัมพูชา
📌 23 ส.ค. 68
ออกแถลงการณ์ “ขอโทษ” บอกเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน
แต่สายไปแล้ว… เพราะสื่อกัมพูชานำคำพูดนั้นไปขยายผลทันที ว่า “คนไทยไม่มีสิทธิ กัมพูชาอยู่มานานหลายสิบปี”
ขณะที่ ครม. มีมติ ต่ออายุราชการให้ผู้ว่าฯ สระแก้วอีก 1 ปี ทั้งที่เดิมจะดำรงตำแหน่งครบ 4 ปีในวันที่ 30 กันยายน 68 ให้ปฏิบัติหน้าที่ถึงกันยายน 2569
จาก “ฮีโร่ผู้ปกป้องชาติ” → วันนี้ถูกวิจารณ์ว่าทำให้เสียเกียรติภูมิของแผ่นดิน
❓คำถามคือ… บทเรียนครั้งนี้จะสะท้อนอะไรให้กับการทำงานของผู้ว่าฯ ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา?
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนบทเรียนสำคัญ 3 เรื่อง :
1️⃣ คำพูดของเจ้าหน้าที่ชายแดนไม่ใช่แค่ความเห็นส่วนตัว แต่เป็น “น้ำหนักทางการทูต” ที่เพื่อนบ้านสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือได้ทันที
2️⃣ ระบบราชการชายแดนยังขาดกลไกคุมเสียงสื่อสาร ทั้งที่คำพูดเพียงประโยค อาจบั่นทอนจุดยืนของประเทศมากกว่าการเจรจาในหลายวงประชุม
3️⃣ การต่ออายุราชการท่ามกลางข้อถกเถียง ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงมาตรฐานการประเมินผลงานราชการ : เราให้รางวัลกับ “คนกล้าเสนอ” หรือหลับตากับ “คำพูดคลาดเคลื่อนที่กระทบเกียรติภูมิชาติ”?
ชายแดนไม่ใช่พื้นที่ทดลองคำพูดของใคร
เพราะทุกถ้อยคำอาจกลายเป็น “กระสุน” ในเกมการเมืองระหว่างประเทศ
และแค่คำว่า “ขอโทษ” อาจจะไม่เพียงพอ เพราะ :
1️⃣ ความเสียหายไม่ได้เกิดกับบุคคล แต่กระทบต่อ เกียรติภูมิของรัฐ และ “สิทธิในดินแดน” ซึ่งเป็นเรื่องอ่อนไหวสูงสุด
2️⃣ การเมืองภายในกัมพูชา สามารถหยิบคำพูดนี้ไปใช้ต่อได้อีกนาน แม้ไทยจะบอกว่า “คลาดเคลื่อน” แต่ความเข้าใจที่ถูกสร้างขึ้นแล้วไม่ง่ายจะลบ
3️⃣ ระบบราชการไทยยังไม่มีมาตรการรับผิดชอบที่ชัดเจน กรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงให้ข้อมูลผิดพลาดที่สร้างผลเสียหายเชิงยุทธศาสตร์
ชายแดนคือเส้นเลือดใหญ่ของอธิปไตยชาติ
ความผิดพลาดไม่ควรถูกมองเป็นเพียง “ความเข้าใจคลาดเคลื่อน”
และไม่ควรจบแค่คำว่า “ขอโทษ”

