โดยคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย แถลงหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคําวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ซึ่งต่างเฮลั่นหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นางสาวแพทองธาร และ คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง
สำหรับสาระสำคัญและท่าทีของคณะรวมพลังแผ่นดินคือ ถึงคําวินิจฉัยมีผลให้นางสาวแพทองธารพ้นจากตำแหน่ง แต่พรรคเพื่อไทยยังมี นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และอาจถูกแทรกแซงจากอดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงนัดหมายชุมนุมในวันที่ 31 ส.ค. 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิคัดค้านและไม่เห็นด้วยที่จะให้พรรคเพื่อเป็นแกนนําในการจัดตั้งรัฐบาล หวั่นเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ส่วนการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีขอให้เป็นไปตามกลไกลตามรัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ หนึ่งในแกนนำระบุ เหตุผลที่ต้องนัดชุมนุมอีกครั้ง เพราะไม่ต้องการให้ นายชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะจะทําให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่มีวันจบสิ้น ส่วนจะเป็นใครนั้น นายจตุพรไม่ติดว่าจะเป็นแคนดิเดตคนใด ขอเพียงรับเงื่อนไขของประชาชน ที่เป็นผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เช่นยกเลิก MOU ปี 43 และ ปี 44 ยกเลิกเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์, ยกเลิกเรื่องการขายแผ่นดิน 99 ปี, พ.ร.บ.ศูนย์กลางทางการเงินที่จะสร้างสกุลเงินขึ้นมาใหม่
“หากใครจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีถ้ารับเงื่อนไขนี้ไม่ได้ ก็จะต้องเจอการขับไล่ไม่ว่าหน้าไหน” นายจตุพรกล่าว
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รวมพลังแผ่นดิน #ทักษิณชินวัตร #แพทองธารชินวัตร #พรรคเพื่อไทย #ชัยเกษมนิติสิริ #รัฐบาลแพทองธาร #ศาลรัฐธรรมนูญ #กระดานการเมือง #พรรคร่วมรัฐบาล #ชุมนุมใหญ่31สิงหา

