นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์เรื่อง พรรคประชาชนเสียงแตก โดยระบุความหลากหลายของพรรคประชาชน ทำให้เสียงแตกดังโพล๊ะอย่างไม่เกินความคาดหมาย เพราะพลพรรคประชาชนนั้นเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง แตกต่างจากพรรคการเมืองยุคเก่า
เมื่อถึงคราวที่พรรคประชาชน ต้องไปพายเรือโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ จึงไม่ได้ง่ายเหมือนพรรคอื่นๆ ที่สั่งซ้ายหันขวาหันได้ วงในของพรรคประชาชนบอกว่า ทำใจไม่ได้กับการโหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ ยิ่งเห็นอนุทินจับมือกับแต่ละคนบนเวที ให้เป็นรัฐมนตรีเสวยอำนาจ จะบอกว่า “ไม่เกี่ยว“ เพราะเป็นฝ่ายค้านคงไม่ได้
ที่สำคัญ สส. ของพรรค “จะไปตอบประชาชนยังไง?“ ในเมื่อเพิ่งด่าว่าไร้ฝีมือ มีการทุจริตคอร์รัปชัน แต่กลับไปโหวตให้หน้าตาเฉย คาดได้ว่าคะแนนครั้งหน้าคงลงคลอง เพราะเสมือน “ตีเช็คเปล่า เซ็นชื่อแล้วให้อนุทินเป็นนายกฯ กรอกตัวเลข” ถึงเวลาอนุทินจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีชุดใหม่ เห็นหน้าแต่ละคนแล้วก็หนาวสะท้านไปถึงทรวงอก อนุทินต้องตอบแทนบุญคุณทางการเมือง ให้ “พรรคกล้าหัก“ เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย พรรคประชาชนจึงต้องรับผิดชอบไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่พ้น เพราะเป็นคนโหวตให้เองกับมือ
นายชูวิทย์บอกด้วยว่า ใครจะจัดรัฐบาลไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาชนที่เป็นฝ่ายค้าน เพราะตัวเองไม่ได้เข้าร่วม นี่เป็นระบอบประชาธิปไตยสากลทั่วโลก ไม่มีที่ไหนโหวตให้ แต่ตัวเองขอเป็นฝ่ายค้านต่อไป แล้วรอ 4 เดือนให้ยุบสภา หากไม่ยุบจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำไปทำไมไม่ทราบ?
“หากมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าเงื่อนไขต่างๆ ที่ตั้งไว้ทำไม่ได้ขึ้นมา หรือบรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินก่อเรื่องขึ้น
พรรคประชาชนจะกลายเป็นผู้รับผิดชอบทันที ในฐานะเป็นนั่งร้านให้ อย่าไปทำการเมืองแบบนี้ เขาเรียกว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกไปแขวนคอ” นายชูวิทย์ระบุช่วงท้าย
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พรรคภูมิใจไทย #ทักษิณชินวัตร #พรรคประชาชน #พรรคเพื่อไทย #อนุทินชาญวีรกูล #ประชุมสภาเลือกนายกฯ #นายกฯคนที่32 #กระดานการเมือง #พรรคร่วมรัฐบาล #ยุบสภาคือทางออก

