เป็น 2 ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินกัมพูชา ที่ทำให้ผู้นำกัมพูชาอย่างสมเด็จฮุนเซน และสมเด็จ ฮุน มาเนต 2 พ่อลูกผู้นำเขมรถูกตั้งคำถาม ซึ่งรายงานจากเพจ เฟซบุ๊ก Army Military Force และ กองทัพบก ทันกระแส รายงานข่าวตรงกัน
กรณีแรกคือ 2 ผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชา ได้แก่ นายพล โสเพีย และนายเพียบ ภาระ จากสำนักข่าวออนไลน์ TSP 68 Online รัฐบาลกัมพูชาสั่งจำคุกสองนักข่าวถูกตั้งข้อหากบฏและถูกจำคุกที่เรือนจำเสียมราฐ ตามคำสั่งของสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโชฮุน เซน หลังจากเผยแพร่ภาพถ่ายหมู่ที่ปราสาทตาควาย ด้วยความหวังดีโชว์ว่ากัมพูชายึดปราสาทตาควาย แต่ปรากฏมีพวงระเบิดสังหารบุคคลรุ่น PMN-2 ติดในเฟรมภาพด้วย
ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหากบฏว่า “ให้ข้อมูลเท็จต่อต่างประเทศ และสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและรัฐบาล” โดยมีบทลงโทษจำคุก 7-15 ปี การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงและภาพลักษณ์ของรัฐบาลกัมพูชา ขณะที่ภรรยาหนึ่งใน 2 ผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชาร้องขอสมเด็จฮุน เซน ให้ปราณีลดโทษ แต่คาดว่าคงยาก เพราะเรื่องนี้ทำให้ผู้นำทั้งสองเสียหน้า เสียหายอย่างหนักบนเวทีโลก
กรณีสองคือตั้งแต่ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงเมื่อวานนี้ กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน จับกุมชาวเขมรลักลอบเข้าประเทศได้บ่อยครั้งมากขึ้น รวม 84 ครั้ง 329 คน และพบว่าส่วนใหญ่สภาพอิดโรย และหิวโหย จากการสอบถามพบว่าจำนวนมากเคยทำงานในประเทศไทย แต่จำต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาตามมาตรการผู้นำ และคำสัญญาว่าจะมีงานทำ มีชีวิตที่ดี
แต่เมื่อไปถึงไม่เป็นอย่างที่ให้สัญญาไว้ รวมถึงไม่มีมาตรการช่วยเหลือใด ทั้งหมดจึงตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายค่าหัวผู้นำทาง หัวละ 5,000-6,000 บาท เพื่อกลับมาตายเอาดาบหน้าในประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนความสิ้นหวังของแรงงานเขมร ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองก่อนที่จะอดตาย
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #กองทัพบก