กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูกับการลงนามข้อตกลงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวานนี้ เพราะ 1 ในข้อตกลงคือการเปิดด่านจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรน ในบางพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง เริ่มที่จังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการขนส่งข้ามแดน
และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็เฉลยภายหลังว่า การพิจารณาเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เหตุผลหลักไม่ได้มาจากข้อขัดแย้งของสองประเทศโดยตรง แต่เกิดจาก “แรงกดดัน” ของ ประเทศที่สาม ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เช่น ญี่ปุ่น รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ที่ต้องส่งออกผ่านชายแดนไทย-กัมพูชาไปยังปลายทางประเทศกัมพูชา
การประกาศเตรียมเปิดด่านเกิดกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย รวมถึงประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ปะทะกันอย่างภาคอีสาน โดยมองว่าการถอนอาวุธหนัก และเปิดด่านจะเป็นการช่วยให้กัมพูชาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และกลับมาทำร้ายคนไทยอีก
ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เตือนไว้ว่า ถ้าต้องเปิดด่านเขมร ตามคำขอร้องของประเทศที่ 3 คือประเทศญี่ปุ่น จะเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะถ้าเทียบกับกรณีนายกฯ แพทองธาร ยังไม่ได้รับปากหรือยอมปฏิบัติตามที่ เขมรต้องการเลยแม้แต่อย่างเดียว ก็ผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงจนต้องพ้นจากตำแหน่งแล้ว กรณีที่เปิดด่าน เพราะประโยชน์ของประเทศที่ 3 จึงหนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่า ก็คอยดูกันว่า จะว่าอย่างไร
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #ประชุมGBC #เก็บกู้ทุ่นระเบิด #ถอนอาวุธหนัก #บ้านหนองจาน #เปิดด่านชายแดน