Author: Writer Publisher

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และศาลฯ บังคับโทษจำคุกนายทักษิณ 1 ปี พร้อมนำตัวส่งเรือนจำทันทีนั้นว่าทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างหาที่สุดมิได้ที่ทรงอภัยโทษและอภัยลดโทษให้คุณพ่อ และขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธารระบุว่า นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมามีผลงานต่าง ๆ ที่ทำเพื่อบ้านเมือง และยังนึกถึงบ้านเมืองเสมอ ครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ “วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุก เรื่องนี้ก็อาจจะหนัก แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อ เป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป ในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วน ประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ออกแถลงการณ์ผ่านเพจ Thaksin Shinawatra ขอบคุณพระมหากรุณาธิคุณและประชาชน ระบุยอมรับคำพิพากษา พร้อมใช้เวลาที่เหลือรับใช้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน แม้ไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิด และว่าจนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #แพทองธารชินวัตร #สั่งจำคุกทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14 #ป่วยทิพย์ #พรรคเพื่อไทย #กระดานการเมือง #คุมขังนอกเรือนจำ #นายกคนแรกถูกจำคุก

วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. รักษาการนัดสุดท้าย โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ นัดสุดท้าย ก่อนที่รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ารับไม้ต่อปฏิบัติหน้าที่หลังได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา โดยนายภูมิธรรม ได้ขอบคุณรัฐมนตรี ข้าราชการ และผู้ปฏิบัติงาน ภายในทำเนียบรัฐบาล ที่ทำงานร่วมกันตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยมีรัฐมนตรีหลายคนแจ้งลา ทำให้บรรยากาศก่อนประชุมค่อนข้างเงียบเหงา อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้พิจารณาวาระสำคัญคือ สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ขอความเห็นชอบผลประชุมฝ่ายเลขานุการการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา 5 ข้อ ก่อนจะได้ลงนามข้อตกลงในการประชุม GBC วันที่ 10 กันยายนนี้ ซึ่งจะมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ไปร่วมประชุมในฐานะหัวหน้าคณะ สำหรับ พล.อ.ณัฐพล ที่มีชื่อติดโผ ครม. อนุทิน 1 โดยขยับขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่าได้รับการติดต่อให้ไปพบนายอนุทินในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจบภารกิจหรือปฏิบัติหน้าที่ต่อ ทั้งนี้คาดว่า พล.อ.ณัฐพลน่าจะได้โควตารัฐมนตรีคนนอก ไม่ใช่โควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีในรัฐบาลอนุทิน 1 นั้น นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกมีตอนนี้รายชื่อครบแล้ว แต่ยังตรวจสอบไม่เสร็จ เพราะต้องใช้เวลาตรวจสอบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีเก่าหรือใหม่ #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#อนุทินชาญวีรกูล#จัดตั้งรัฐบาล#รัฐบาลอนุทิน#ภูมิใจไทย#พรรคภูมิใจไทย#พูดแล้วทำ#โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง#ยุบสภาใน4เดือน#พรรคประชาชน

เป็นคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่นัดฟังคำสั่งบังคับโทษถึงที่สุดหรือไม่จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมนตรี ถูกควบคุมตัวไปรับโทษก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลตำรวจทันที และพักรักษาตัวบนชั้น 14 กระทั่งได้รับการพักโทษ โดยวันนี้ศาลออกหมายเรียกนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คนปัจจุบัน รวมถึงตัวนายทักษิณ เข้ามาฟังคำสั่งด้วย โดยนายทักษิณได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาว 2 คน หลังใช้เวลา 2 ชั่วโมงอ่านคำสั่ง ในที่สุดศาลฎีกาฯ สั่งให้นำตัวนายทักษิณ กลับไปเข้าเรือนจำ โดยให้จำคุก 1 ปี เพราะเงื่อนไขที่ได้ชี้แจงอาการป่วยนั้นฟังไม่ขึ้น ส่งตัวไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ขณะที่นายทักษิณมอบหมายให้ทีมงานโพสต์ข้อความในเพจ Thaksin Shinawatra ถึงประชาชน ระบุ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว “ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้” พร้อมบอกด้วยว่า ตลอดเวลาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้ง นายทักษิณระบุด้วยว่า ทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของตน แต่วันนี้ขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ ก็ตาม ขอขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกัน ทั้งในยามสุขและยามยาก การตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง “จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย ไม่ว่าจะในสถานะใดนับจากนี้” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #9กันยาชี้ชะตาชั้น14 #สั่งจำคุกทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14 #ป่วยทิพย์ #บินดูไบ #กระดานการเมือง #คุมขังนอกเรือนจำ

เป็น 2 ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินกัมพูชา ที่ทำให้ผู้นำกัมพูชาอย่างสมเด็จฮุนเซน และสมเด็จ ฮุน มาเนต 2 พ่อลูกผู้นำเขมรถูกตั้งคำถาม ซึ่งรายงานจากเพจ เฟซบุ๊ก Army Military Force และ กองทัพบก ทันกระแส รายงานข่าวตรงกัน กรณีแรกคือ 2 ผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชา ได้แก่ นายพล โสเพีย และนายเพียบ ภาระ จากสำนักข่าวออนไลน์ TSP 68 Online รัฐบาลกัมพูชาสั่งจำคุกสองนักข่าวถูกตั้งข้อหากบฏและถูกจำคุกที่เรือนจำเสียมราฐ ตามคำสั่งของสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโชฮุน เซน หลังจากเผยแพร่ภาพถ่ายหมู่ที่ปราสาทตาควาย ด้วยความหวังดีโชว์ว่ากัมพูชายึดปราสาทตาควาย แต่ปรากฏมีพวงระเบิดสังหารบุคคลรุ่น PMN-2 ติดในเฟรมภาพด้วย ทั้งคู่ถูกตั้งข้อหากบฏว่า “ให้ข้อมูลเท็จต่อต่างประเทศ และสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและรัฐบาล” โดยมีบทลงโทษจำคุก 7-15 ปี การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงและภาพลักษณ์ของรัฐบาลกัมพูชา ขณะที่ภรรยาหนึ่งใน 2 ผู้สื่อข่าวชาวกัมพูชาร้องขอสมเด็จฮุน เซน ให้ปราณีลดโทษ แต่คาดว่าคงยาก เพราะเรื่องนี้ทำให้ผู้นำทั้งสองเสียหน้า เสียหายอย่างหนักบนเวทีโลก กรณีสองคือตั้งแต่ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงเมื่อวานนี้ กองกำลังบูรพา ฉก.อรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ทหารพราน จับกุมชาวเขมรลักลอบเข้าประเทศได้บ่อยครั้งมากขึ้น รวม 84 ครั้ง 329 คน และพบว่าส่วนใหญ่สภาพอิดโรย และหิวโหย จากการสอบถามพบว่าจำนวนมากเคยทำงานในประเทศไทย แต่จำต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาตามมาตรการผู้นำ และคำสัญญาว่าจะมีงานทำ มีชีวิตที่ดี แต่เมื่อไปถึงไม่เป็นอย่างที่ให้สัญญาไว้ รวมถึงไม่มีมาตรการช่วยเหลือใด ทั้งหมดจึงตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายค่าหัวผู้นำทาง หัวละ 5,000-6,000 บาท เพื่อกลับมาตายเอาดาบหน้าในประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนความสิ้นหวังของแรงงานเขมร ที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยตัวเองก่อนที่จะอดตาย #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #กองทัพบก

วันนี้แล้ว (9 ก.ย.68) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งของคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 ตรวจสอบการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เข้าฟังคำสั่งศาล จากความไม่แน่ใจว่านายทักษิณ ซึ่งบินออกนอกประเทศไปที่ “ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์” จะเดินทางกลับมาหรือไม่ เมื่อวานนายทักษิณก็ได้ปรากฎตัวให้เห็นแล้วที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเป็นการยืนยันคำพูดว่าจะเข้าฟังคำสั่งศาลในเช้าวันนี้ “ให้มันจบๆ ไป” ตามที่เขาบอกกับคนใกล้ชิด แผนคุมขังนอกเรือนจำ: 14 ชั้นคือคุกชั้นดี? ประเด็นสำคัญที่รอนายทักษิณอยู่คือ หลักฐานรายการไต่สวน 7 นัดจากพยาน 31 ปากที่นำมาเสนอต่อศาลฯ จะยืนยันว่ากระบวนการบังคับโทษคดีให้นายทักษิณรับโทษจำคุก 8 ปี และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปีนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เอื้อประโยชน์หรือไม่ หลังนายทักษิณถูกนำตัวส่งชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนาน 6 เดือนก่อนพักโทษ โดยไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียวนั้น 10 นาฬิกาชี้ชะตานายทักษิณ ถ้าศาลฯ มีคำสั่งว่าการบังคับโทษชอบด้วยกฎหมาย ก็จะเป็นคดีสุดท้ายที่นายทักษิณพ้นจากพันธนาการ แต่ถ้าไมนายทักษิณต้องเดินกลับเข้าเรือนจำใหม่ คำถามคือเขาจะทำอย่างไร จึงมีคนมองว่าการไป ดูไบ ครั้งนี้คือหนึ่งในแผนเตรียมไว้ เพราะการบินไปพบหมอในต่างประเทศ นี่คือแผนนำใบรับรองแพทย์เฉพาะทางมารับรองการขอผ่อนผันการจำคุกที่ไม่ใช่เรือนจำหรือไม่ จุดเริ่มต้นของ “สามก๊ก” เต็มรูปแบบ? และคือการประกาศอีกนัยยะหนึ่งหรือไม่ว่า สามารถรอโอกาสกลับมาฟื้นสถานะทางการเมือง และกอบกู้พรรคเพื่อไทยที่เริ่มแพแตกอีกครั้งหลังจากพ้นโทษจำคุกหรือไม่ ซึ่งก็ไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้ อย่างน้อยยังทำให้พลพรรคของเขาเห็นว่า นายใหญ่สู้ต่อ แบบเสือนอนเลียแผลอยู่บนภูมองดูพรรคสีส้ม สีน้ำเงินเปิดศึกการเมืองฟาดฟันจนอ่อนแรง สุดท้ายคำตัดสินวันที่ 9 เดือน 9 อาจไม่ใช่จุดจบของนายทักษิณ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ระเบียบนอนนอกคุก และจุดเริ่มต้นของการเมือง “สามก๊ก” เต็มรูปแบบ และคือมหากาพย์ที่จะถูกเขียนขึ้นใหม่ ไม่ใช่จุดจบของระบอบ “ทักษิณ” อย่างที่หลายคนเข้าใจ#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#9กันยาชี้ชะตาชั้น14#ชาญชัยอิสระเสนารักษ์#ทักษิณชินวัตร#ชั้น14#ป่วยทิพย์#บินดูไบ#กระดานการเมือง#คุมขังนอกเรือนจำ#อนุทินชาญวีรกูล#พรรคภูมิใจไทย#พรรคประชาชน

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) คำนวณยอดหนี้ใหม่สำหรับผู้กู้ยืมเงินเพิ่มอีกกว่า 770,000 บัญชี รวมทั้งหมดเป็น 1,750,000 บัญชี โดยจะแสดงยอดหนี้ทางแอปพลิเคชันตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ดร. นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้เปิดเผยว่า จากการที่ กยศ. ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้กับผู้กู้ยืมเงินเพื่อให้ผู้กู้ยืมเงินได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายในการเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้เป็น เงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ รวมทั้งการคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และลดเบี้ยปรับเหลืออัตรา 0.5% ต่อปีนั้น ที่ผ่านมา กยศ. ได้คำนวณยอดหนี้ใหม่แล้วกว่า 980,000 บัญชี และล่าสุดได้คำนวณยอดหนี้ใหม่เพิ่มเติมอีกกว่า 770,000 บัญชี รวมทั้งหมดเป็นกว่า 1,750,000 บัญชี ซึ่งได้ตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว โดยยอดหนี้ใหม่จะปรากฏในแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ตั้งแต่ วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นต้นไป และ กยศ. จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จจนครบถ้วนทุกบัญชีโดยเร็วต่อไป ทั้งนี้ สำหรับผู้กู้ยืมที่ระบบแจ้งว่ามีเงินส่วนที่ชำระเกินจากยอดหนี้ ที่ปรับปรุงใหม่ สามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่เว็บไซต์ กยศ. ส่วนกรณีที่ยังมียอดหนี้คงเหลือสามารถชำระผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคารได้ โดยสแกน QR code หรือสามารถชำระผ่านช่องทางอื่น ๆ ที่ กยศ. กำหนด โดยระบบจะลดหนี้ภายใน 3 วันทำการ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th นอกจากนี้ ผู้จัดการ กยศ. ยืนยันว่า จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการคำนวณยอดหนี้ใหม่ส่วนที่เหลืออย่างละเอียดรอบคอบในทุกขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่ายอดหนี้ที่ปรากฏในระบบเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรวจสอบได้ และผู้กู้ยืมเงินจะไม่เสียสิทธิตามกฎหมายอย่างแน่นอน #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #กยศ #คำนวนยอดหนี้ใหม่ #ยอดหนี้กยศ

นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการนโยบาย สภาองค์กรของผู้บริโภค โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งคำถามถึงรัฐมนตรีในรัฐบาลอนุทิน 1 เรื่อง รัฐมนตรีพลังงาน “คนนอก”หรือ “สายตรง” กลุ่มทุนพลังงานฟอสซิล จะเป็นความหวังของใครกันแน่ โดยระบุ “คนนอก” ของรัฐบาลอนุทิน บางคนเป็นสายตรงกลุ่มทุนพลังงาน ซึ่งน่าสงสัยว่าอาจมีผลประโยชน์กับกลุ่มทุนพลังงานฟอสซิล หรือไม่? ที่ทับซ้อนและขัดแย้งกับผลประโยชน์ของประชาชน ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายทางพลังงาน ด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ เป็นทั้งพลังงานสะอาดที่ช่วยลดโลกร้อน และลดค่าไฟให้ประชาชนได้ และโซลาร์เซลเป็นเทคโนโลยีที่มีราคาถูกลงทุกปี เพราะเป็นพลังงานที่ไม่มี “ต้นทุนเชื้อเพลิง” พร้อมบอกที่ผ่านมารัฐบาลทุกยุคแม้หาเสียงลดค่าไฟฟ้า ลดราคาพลังงาน แต่ก็แค่เป็นเทคนิคหาเสียงเท่านั้น แต่ทุกรัฐบาลไม่เคยทำจริง ที่ทำจริงคือยืนบังแดด ไม่ให้ประชาชนเข้าถึงพลังงานประชาธิปไตยแสงอาทิตย์ที่มีราคาถูก แบบง่ายๆ เหมือนซื้อตู้เย็นเบอร์5 ประหยัดไฟไปใช้ที่บ้าน นางสาวรสนาบอกด้วยว่า พรรคภูมิใจไทยหาเสียงจะติดโซลาร์รูฟท็อปให้ประชาชน ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟเดือนละ 450 บาท เมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว นายอนุทินดีใจ ยิ้มหน้าบานกับความฝันสูงสุดได้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นจริงแล้ว จะหันมาทำให้ประชาชนยิ้มบ้างได้ไหม ทำให้ความฝันประชาชนเป็นจริงตามสัญญาได้ไหม ?!? เธอตั้งคำมว่า แต่รัฐมนตรี “คนนอก”ที่คุณอนุทินเลือกมานั่งกระทรวงพลังงาน เป็น “คนนอก” จริงหรือ ?!! หรือเป็นสายตรงกลุ่มทุนพลังงานฟอสซิลกันแน่?! “ สายตรงกลุ่มทุนพลังงานฟอสซิล มีหรือจะไม่ยืนบังแดดประชาชนอีก?!? จะยอมให้มีนโยบาย แบบที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้ลดค่าไฟได้ ด้วยการสนับสนุนพลังงานที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างแสงอาทิตย์ ได้จริงหรือไม่นั้น คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ !! นางสาวรสนาบอกต่อว่า การที่รัฐบาลยังไม่สนับสนุนแสงอาทิตย์ ตะบี้ตะบันสนับสนุนพลังงานฟอสซิลสกปรกที่ทำให้โลกร้อนจนเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสูญพันธุ์ ก็เพราะกลุ่มทุนพวกนี้ต้องการทำกำไรจากพลังงานฟอสซิลที่ผูกขาด สามารถล้วงกระเป๋าประชาชนให้นานที่สุด โดยอาศัยอำนาจรัฐ อำนาจการเมือง และอำนาจทุนผูกขาดที่ล้าหลังตกยุคแล้ว ใช่หรือไม่ ?! “การเลือกรัฐมนตรี ”คนนอก“ จากกลุ่มทุนฟอสซิล จึงอุปมาเหมือนให้นายทุนขายบุหรี่ มาทำนโยบายเลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพประชาชน ดิฉันขอตะโกนถามดังๆว่า แล้วจะมีทางเป็นไปได้จริงหรือไม่ ?!?” นางสาวรสนาระบุในตอนท้าย ทั้งนี้นายอนุทิน เปิดตัวรัฐมนตรีคนนอกหลายคน แต่ที่คาดว่าจะได้รับการเลือกเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคือ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีต CEO บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #จัดตั้งรัฐบาล #รัฐบาลอนุทิน #ภูมิใจไทย #กลุ่มทุนพลังงาน…

ไฮไลท์การเมืองวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.68) อยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งของคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 ตรวจสอบการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ออกหมายเรียก ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เข้าฟังคำสั่งศาลด้วย ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่า นายทักษิณที่ออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมาจะกลับมาฟังคำสั่งศาลหรือไม่ แม้นายทักษิณ รวมถึงคนใกล้ชิดยืนยันว่า กลับมาเข้าฟังคำสั่งของศาล ด้วยตัวเองแน่ กระทั่งมีรายงานว่านายทักษิณบอกกับคนใกล้ชิดว่า “กลับมาแน่นอน ให้มันจบๆ ไป” ล่าสุดเครื่องบินเจ็ตของนายทักษิณเดินทางจากสนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอดที่สนามบินเซเลตาร์ สิงคโปร์เมื่อช่วงเช้า แต่ไม่ยืนยันว่าผู้โดยสารมีนายทักษิณด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามคนใกล้ชิดนายทักษิณออกมาระบุว่าเครื่องบินลำนี้จะนำนายทักษิณกลับมาลงที่สนามบินดอนเมืองในเวลา 17 นาฬิกาวันนี้ นี่จะเป็นคดีสุดท้ายที่นายทักษิณต้องไปฟังคำสั่งศาล หลังจากเขาเพิ่งพ้นข้อหาคดีความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปลดพันธนาการห้ามเดินทางออกนอกประเทศ วันพรุ่งนี้หลายฝ่ายมองหลักฐานที่มัดแน่นว่ากระบวนการบังคับโทษคดีให้นายทักษิณรับโทษจำคุก 8 ปี และได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปีนั้นไม่ถูกต้อง เพราะนายทักษิณถูกนำตัวส่งชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจนาน 6 เดือนก่อนพ้นโทษโดยไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว โดยมีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหอกยื่นคำร้องต่อศาลฯ กระทั่งศาลฯ พิจารณารับไต่สวนเอง นำมาซึ่งการสอบปากคำพยาน รวมถึงเปิดเผยหลักฐานสำคัญ ว่าการพักรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เอื้อประโยชน์หรือไม่ รวมการไต่สวนพยานทั้งหมด 7 นัด 31 ปาก และได้กำหนดวันนัดฟังคำสั่ง ชี้ชะตาในวันพรุ่งนี้ 9 กันยายน เวลา 10 นาฬิกา คำสั่งศาลวันพรุ่งนี้จะเป็นครั้งแรก ที่นายทักษิณกลับเข้าสู่ในกระบวนการพิจารณาโทษ และอาจถูกบังคับโทษ โดยที่ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่ตัวเขา และคนใกล้ชิดยืนยันจะกลับมาฟังคำสั่งศาลวันพรุ่งนี้แน่นอน จริงหรือไม่ และผลคำตัดสินเป็นอย่างไร ต้องรอลุ้น #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #9กันยาชี้ชะตาชั้น14 #ชาญชัยอิสระเสนารักษ์ #ทักษิณชินวัตร #ชั้น14 #ป่วยทิพย์ #บินดูไบ #กระดานการเมือง

เป็นหนังสืออย่างเป็นทางการที่ “ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ส่งถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความยินดีที่นายอนุทินได้รับการเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย พร้อมระบุชัยชนะของนายอนุทินสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอันแข็งแกร่งในความเป็นผู้นำของนายอนุทิน และตนเองก็เชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่า ภายใต้การนำที่เปี่ยมด้วยวิจารณญาณและความสามารถ จะทำให้ประเทศไทยจะบรรลุความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ เขายังบอกด้วยว่า กัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกันทางภูมิศาสตร์ และเป็นสมาชิกที่ใกล้ชิดของอาเซียน สันติภาพ ความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน คือความปรารถนาของประชาชนในทั้งสองประเทศ ด้วยเหตุนี้ จึงหวังอย่างจริงใจว่า ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดี รวมถึงความร่วมมือที่ดี ประชาชนทั้งสองจะได้รับความสุขจากความเจริญรุ่งเรืองและเติบโตร่วมกัน “ด้วยเจตจำนงนี้ ผมตั้งตารอที่จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ฯพณฯ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยให้เป็นปกติ สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และเปลี่ยนพรมแดนร่วมระหว่าง 2 ประเทศให้เป็นพื้นที่แห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ขอท่านโปรดรับความนับถืออย่างสูงจากข้าพเจ้า พร้อมด้วยความปรารถนาดีที่สุดสำหรับความสำเร็จในความพยายามของท่าน ด้วยความเคารพอย่างสูง ” ลงชื่อ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #จัดตั้งรัฐบาล #รัฐบาลอนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง #ยุบสภาใน4เดือน #พรรคประชาชน #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #ปัญหาชายแดน #ฮุนมาเนต

นายอนุทิน ชาญวีรกูล แถลงครั้งแรกหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยขอบคุณพรรคประชาชน ที่หาทางออกทางการเมือง ขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล และ สส.ที่ทำให้รัฐบาลใหม่เกิดขึ้น พร้อมระบุด้วยเวลาจำกัดจึงต้องเร่งแก้ปัญหา 4 เดือนที่เป็นภัยคุกคาม คือปัญหาเศรษฐกิจ เร่งลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพ ลดค่าพลังงาน แก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร เสริมสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ ดูแลรายได้ประชาชนให้มั่นคงมากขึ้น ส่วนปัญหาความมั่นคง จะเร่งแก้ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ ลดความสูญเสียของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ แต่ยึดหลักการไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว คนไทยไม่เสียประโยชน์ ดำเนินชีวิตตามปกติสุข ขณะที่ปัญหาภัยธรรมชาติ ที่ต้องเร่งต่อยอดระบบเตือนภัยที่ทำมาแล้วในสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย “หวังว่าตอนที่ไปพักร้อน ปภ.และหน่วยงานต่างๆ ที่เคยประชุมหารือ คงไม่หยุดเรื่องระบบเตือนภัย และอื่นๆ ซึ่งจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะจะควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นจะไม่หยุดชะงัก” สุดท้ายปัญหาภัยสังคม เร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน การพนันออนไลน์ สร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน ต่อต้านภัยทุกรูปแบบ ยืนยันไม่ได้มาเพราะบุญคุณของใคร นอกจากบุญคุณของประชาชน ที่มาจากการโหวตของ สส. หน้าที่คือตอบแทนบุญคุณคนไทย นายอนุทิน ยืนยันด้วยว่า คณะรัฐมนตรีจะคัดสรรมาอย่างดี ไม่มีช่วงโพร ทำงานทันทีหลังจากถวายสัตย์ฯ ยืนยันว่าตนเองและรัฐมนตรีทุกคนจะยึดความถูกต้องของกฎหมายเท่านั้น ไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ตามที่มีข้อห่วงใย ให้กระบวนการยุติธรรมทำงานตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายต่างๆ ความยุติธรรมที่ต้องมีให้แก่คนทุกคนเท่ากัน และเร่งรัดเปิดเผยกระบวนการทุกอย่าง ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ “ส่วนที่พรรคประชาชนห่วงใย และบันทึกไว้ในข้อตกลง เรื่องแก้ รธน. ยืนยันจะเร่งดำเนินการ แล้วจะยุบสภา ภายในกรอบเวลา 4 เดือน ที่มีข้อตกลงไว้ คืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ยืนยันทำงาน ไม่มีพักร้อน พักผ่อน และจะต้องไม่เจ็บป่วย” นายอนุทินกล่าว #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#อนุทินชาญวีรกูล#จัดตั้งรัฐบาล#รัฐบาลอนุทิน#ภูมิใจไทย#พรรคภูมิใจไทย#พูดแล้วทำ#โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง#ยุบสภาใน4เดือน#พรรคประชาชน