Author: Writer Publisher

จิสด้าเผยข้อมูลดาวเทียมชี้ ฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง! ปกคลุมทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล 40 จังหวัดวิกฤต เตือนประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคทางเดินหายใจ เช็คข้อมูลฝุ่นรายชั่วโมงผ่านแอปฯ “เช็คฝุ่น” ก่อนออกจากบ้าน สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทยวันนี้ พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ทุกพื้นที่จากการตรวจสอบข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” พบค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุดที่เขตหนองแขม วัดได้ 104.3 ไมโครกรัม ขณะที่ภาพรวมของประเทศพบพื้นที่สีแดงมากถึง 40 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในช่วง 3 ชั่วโมงข้างหน้า หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ ยังคงมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ส่วนภาพรวมของประเทศยังมีค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม โดยเฉพาะภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมและ AI วิเคราะห์ค่าฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมง ร่วมกับข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันต่อสถานการณ์ และขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกอาคาร และติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 อย่างใกล้ชิด ผ่านแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android

Read More

หลัง “ทักษิณ” ออกมาปราศรัยย้ำอีกรอบว่าเขาร่ำรวย 6 หมื่นล้านบาท มาตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่เส้นทางการเมือง อ้างอิงถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อพรรคพลังธรรม ครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาลชวน ตามกฎเหล็กของ “มหาจำลอง” โดยที่ขณะนั้นกฎหมายยังไม่ได้บังคับให้ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เมื่อย้อนดูข้อมูลพบว่าในช่วงปี 2537 ที่เขารับตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ มีการแสดงทรัพย์สินไว้ 6 หมื่นล้านบาท ปรากฏอยู่ในพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับในขณะนั้น แต่ที่น่าสนใจคือ ในช่วงเวลาเดียวกันพบด้วยว่า ครอบครัวชินวัตรนำหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทแอดวานซ์อินโฟเซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส.) และบริษัทยูไนเตดคอมมูนิเกชั่น จำกัด (ยูคอม) ไปใส่ไว้ในชื่อคนรับใช้อย่างน้อย 3 คน คือ “บุญชู เหรียญประดับ” “ชัยรัตน์ เชียงพฤกษ์” “ดวงตา วงศ์ภักดี” มูลค่ารวมกันกว่า 11,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ในหุ้นที่ถืออยู่ในชื่อของ พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตรในขณะนั้น เท่ากับว่า “ทักษิณ” ซุกหุ้นตั้งแต่มีการสร้างภาพความโปร่งใส แสดงบัญชีทรัพย์สิน โดยไม่มีกฎหมายบังคับ เพราะทรัพย์สินที่แสสดง ไม่ปรากฏการแจ้งถึงหุ้นที่เอาไปฝากไว้กับคนรับใช้ 11,000 ล้านบาท อันนี้คือ “รวย-ซุก 1” ของคนที่ประกาศในขณะนั้นว่า “รวยแล้วไม่โกง” ต่อมาในปี 2540 “ทักษิณ” เข้ารับตำแหน่งรองนายกฯ ในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แจ้งบัญชีทรัพย์สินในช่วงรับตำแหน่งวันที่ 7 พ.ย. มีทรัพย์สิน กว่า 21,069 ล้านบาท เท่ากับว่าภายใน 3 ปี ทรัพย์สินหายไปถึงเกือบ 4 หมื่นล้านบาท เกิดคำถามถ้ารวย 6 หมื่นล้านจริง ส่วนที่หายไปถูกซุกไว้ที่ไหนหรือไม่ ? หลัง “ทักษิณ” พ้นตำแหน่ง 4 ธ.ค.40 แจ้งทรัพย์สินไว้ที่ กว่า 19,067 ล้านบาท ต่อมาเขาได้รับเลือกเป็นนายกฯ ในปี…

Read More

ผมคนหนึ่งที่เปิดประเด็นเรียกร้องให้รัฐบาลทำประชามติ สอบถามความเห็นของประชาชน เรื่องการจะสร้างบ่อนคาสิโนหรือไม่เป็นคนแรกๆ เพราะส่วนตัวเคยเป็น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร มาก่อน ได้รับฟังข้อดีและข้อเสียของบ่อนคาสิโนของทั้ง2ฝ่าย และต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลน่ารับฟังทั้งสิ้น ทำให้ลังเลไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า ควรจะมีการสร้างบ่อนคาสิโนหรือไม่จึงขอเสนอให้รัฐบาลจัดทำประชามติ ถามความเห็นของประชาชนคนไทยทั้งประเทศดีกว่า เพื่อรองรับผลกระทบเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้คือ1. ไม่มีพรรคการเมืองใดชูนโยบายเปิดบ่อนคาสิโนในการหาเสียงประชาชนโดยตรง ทำให้ประชาชนไม่ได้พิจารณาเลือกนโยบายของพรรคการเมืองเลย2. ไม่ได้ระบุเรื่องการสร้างบ่อนคาสิโน ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีเพียงนโยบายเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination)เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้าสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment complex) นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลก3. การเปิดบ่อนคาสิโน เป็นเรื่องสำคัญระดับชาติ ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ต้องมีมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ4. การเปิดบ่อนคาสิโนมีผลกระทบทางสังคม และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจ ต้องให้ประชาชนชั่งน้ำหนัก และเลือกระหว่างปัญหาสังคมกับรายได้ทางเศรษฐกิจ5. จะได้พิสูจน์คำกล่าวของนายทักษิณว่า เสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีคาสิโน มีแต่เสียงส่วนน้อยที่คัดค้าน ทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลอง จริงหรือไม่6. เพื่อยืนยันความคิดของนายทักษิณในสมัยพรรคไทยรักไทย ที่ต้องการสร้างบ่อนคาสิโนก่อนประเทศสิงคโปร์ ว่าถูกคัดค้านจากพวกมือถือสากปากถือศีล ถูกต้องหรือไม่7. ถ้านายทักษิณมั่นใจว่า นโยบายเปิดบ่อนคาสิโน จะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนแน่นอน ทำไมไม่กล้าทำประชามติ จะได้มีข้อยุติไม่ต้องถกเถียงกันต่อไปสำหรับการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า การที่รัฐบาลเปิดบ่อนคาสิโนเป็นเรื่องที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงอยากให้เป็นไปตามกระบวนการทางประชาธิปไตย ไม่ฟังข้อเสนอให้ทำประชามติของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ถ้าหากต้องการให้เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยจริง ต้องยึดเสียงข้างมาก รัฐบาลต้องทำประชามติ ถามความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ถึงจะเป็นหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ใช่มามัดมือชกกันแบบนี้

Read More

ย้อนมหากาพย์อำนาจการเมืองโกงที่วัด ใครฉ้อฉลไปเรียกค่าชดเชยจากคนนั้น นายเชาว์ มีขวด ทนายความ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง ใครโกงที่วัด คนนั้นจ่ายค่าชดเชยคดีอัลไพน์ มีเนื้อหาระบุว่า เป็นตลกร้ายที่กรมที่ดินแสดงความพร้อมสุดฤทธิ์ในการ จ่ายชดเชย ปม สนามกอล์ฟอัลไพน์หลังมีการยกเลิกคำสั่ง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทำให้ที่ดินกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ตามกฎหมาย แถมยังมีการเด้งรับเป็นทอด ๆ จาก นายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดในทำนองว่า เป็นที่ธรณีสงฆ์ก็ไม่เป็นไร ชดเชยมาก็แล้วกัน จนทำให้คนอดคิดไม่ได้ว่า “หรือจะเตี๊ยมกันมาแล้ว” ถึงขั้นมีการคำนวณวงเงินที่ต้องจ่ายไว้แบบแพงหูฉี่ที่ 7.7 พันล้านบาท ถ้ากรมที่ดินของบประมาณไปจ่ายจริง ไม่ใช่ “ค่าโง่” แต่เป็น “คนโง่” เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่จะเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายให้กับการฉ้อฉลแปลงที่ธรณีสงฆ์ไปเป็นที่เอกชน คนโกงต้องจ่ายไม่ใช่เอาเงินประชาชนไปจ่าย นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ปัญหาเริ่มต้นจาก นาย เสนาะ เทียนทองขณะเป็นรมช.มหาดไทย ทำหน้าที่รมว.มหาดไทย ลงนามไม่อนุญาตให้ที่ดินเป็นของวัดธรรมิการามวรวิหาร โอนกรรมสิทธิ์ไปให้มูลนิธิฯ จัดการ เลวร้ายกว่านั้นคนที่ได้ประโยชน์ซื้อที่ดินไปคือ บ.อัลไพน์ ที่เมียและน้องชาย นายเสนาะ ถือหุ้นอยู่ ซื้อที่ดินในราคา 142 ล้านบาท ก่อนบริษัทฯ นำไปจำนอง 220 ล้านบาทได้กำไร 78 ล้านบาทภายในวันเดียว จากนั้นยังมีการนำที่ดินจำนองต่อได้เงิน 425 ล้านบาท เท่ากับกำไร 283 ล้านบาท ใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเองและเครือญาติ เป็นพฤติการณ์ที่ชัดเจนยิ่ง น่าเสียดายที่คดีเกี่ยวข้องกับนายเสนาะ ศาลฎีกาฯ ยกฟ้องไปเพราะคดีขาดอายุความ เรื่องนี้ ป.ป.ช.ก็ควรต้องรับผิดชอบ เพราะถ้าศาลฯ ได้มีโอกาสตัดสิน ผมฟันธงว่าผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ และการทำธุรกรรมที่ดินนี้เป็นโมฆะ จบปัญหาได้ตั้งนานแล้ว โดยไม่ต้องคาราคาซังมาหลายสิบปีแบบนี้ และถ้ามีการทำตามกติกาอย่างที่ นายทักษิณ ชินวัตร พูด ตั้งแต่ปี 2545 ที่ดินก็ต้องกลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์แล้ว แต่กลับมีการฉ้อฉลอีกครั้งยกเลิกการเพิกถอนกรรมสิทธิที่ดินดังกล่าว สุดท้าย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รับใช้นายจนติดคุก 2 ปี ส่วนที่ นายทักษิณ บอกซื้อที่มาโดยสุจริต…

Read More

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร เผย กมธ.ฯ นัดประชุม 22 ม.ค.นี้ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง 2 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การแก้ไขกฎกระทรวงที่ออกตามความพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน พ.ศ.2478 เกี่ยวกับกรณีการพนันออนไลน์ โดยต้องการทราบรายละเอียดและขอบเขตของการแก้ไข เช่น ประเภทของการพนันออนไลน์ที่ครอบคลุม (แทงบอล สล็อต ฯลฯ) วัตถุประสงค์ของการแก้ไข (เพื่อควบคุมหรือเพื่อทำให้ถูกกฎหมาย) และแนวทางการปฏิบัติงาน แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) โดยมุ่งศึกษาแนวทางการดำเนินการ รูปแบบ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น สำหรับหน่วยงานที่ กมธ.ฯ เชิญเข้าชี้แจง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง, กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นายกรวีร์ ย้ำว่า กมธ.ฯ ต้องการรับทราบข้อมูลในรายละเอียด เนื่องจากการแก้ไขกฎกระทรวงเป็นการดำเนินการโดยไม่ต้องผ่านสภาฯ จึงต้องตรวจสอบให้รอบคอบเพื่อป้องกันปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการนำเรื่องใต้ดินขึ้นมาบนดินผ่านการแก้ไขกฎกระทรวง ซึ่ง กมธ.ฯ ไม่มีธงในการศึกษาเรื่องนี้ ส่วนข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางการจัดระเบียบสังคม ใน กมธ.ปกครอง เกี่ยวกับการพนันออนไลน์นั้น นายกรวีร์ ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่คาดว่าการแก้ไขกฎกระทรวงน่าจะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมพนันออนไลน์ เนื่องจากกฎหมายการพนันในปัจจุบันยังไม่ครอบคลุม

Read More

เป็นมาตรการเข้มที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร แถลงด่วน เพื่อกำหนดเพิ่มเติมหลังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 รุนแรงจากการถ่ายเทอากาศต่ำ การจราจรติดขัด รวมถึงเผาวัสดุทางการเกษตรในจังหวัดนครนายก และปราจีนบุรี ซึ่งคาดตลอดทั้งสัปดาห์นี้ค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพไม่ต่ำกว่า 35 เขต และสีแดงมีผลต่อสุขภาพเกิน 5 เขต กทม.ต้องประกาศขอความร่วมมือให้ Work From Home ตลอดทั้งสัปดาห์ ใช้บริการรถสาธารณะ ลดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยมาตรการเพิ่มเติมคือ Low Emission Zone คือห้ามรถบรรทุกเกิน 6 ล้อที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีสีเขียวลงทะเบียนเข้าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและใส่กรอง หรือ กรีนลิสต์ เข้าวงแหวนรัชดา หรือวงแหวนชั้นใน หลังเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ หรือเข้าสู่วันที่ 23 มกราคม-เที่ยงคืนวันที่ 24 มกราคม 2568 ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 2 พันบาทจำคุก 1 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ และจะดำเนินการกับหน่วยงาน หรือไซต์งานที่มีรถบรรทุกฝ่าฝืนด้วยการตักเตือน จนถึงสั่งให้หยุดการก่อสร้าง ทั้งนี้ยังมีเวลาลงทะเบียนกรีนลิสต์ตลอดวันพรุ่งนี้ นายชัชชาติบอก กทม.จะเข้มงวดมากที่สุด และเพิ่มมาตรการที่ผ่านมาศึกษา หารือกับหน่วยงานต่างๆ ตามลำดับ ทั้งมาตรการลดฝุ่นจากท่อไอเสียรถ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สาเหตุหลัก และห้ามเผาวัสดุทางการเกษตร โดยจะหามาตรการ ความร่วมมือจังหวัดรอบข้างควบคุมการเผาก่อฝุ่นข้ามจังหวัดด้วย “เราทำเต็มที่ อย่าหมดหวัง ต้องดีขึ้น เชื่อสิว่าจะดีขึ้น 1-2 ปีนี้ เรามาถูกทางแล้ว ไปลุยรอบข้างหน่อย”นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้าย

Read More

เลือดกำเดาไหลโดยไม่รู้สาเหตุ? หายใจไม่ออก? อย่านิ่งนอนใจ! นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนจาก “ฝุ่น PM 2.5” ฆาตกรตัวจิ๋วที่มองไม่เห็น กำลังกัดกินชีวิตคุณอยู่ทุกวินาที! มันแฝงตัวอยู่ในอากาศ รอบตัวคุณ! แทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย ทำลายปอด หลอดเลือด แม้แต่สมอง! คุณอาจคิดว่าแค่ไอ จาม คัดจมูก ธรรมดาๆ แต่รู้หรือไม่? นั่นคือจุดเริ่มต้นของโรคร้าย มะเร็ง หัวใจ หลอดเลือดสมอง ที่รอวันคร่าชีวิต! อย่าตายอย่างช้าๆ เพราะฝุ่นพิษ!ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลุกขึ้นสู้! ปกป้องตัวเอง ก่อนสายเกินไป! หน้ากากอนามัย: อาวุธสำคัญ! สวมใส่ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ป้องกันฝุ่นจิ๋ว ก่อนจะลุกลามบานปลาย! เช็คค่าฝุ่น: รู้เขารู้เรา! ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน วางแผนชีวิต หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง! เสริมภูมิคุ้มกัน: อัพเกรดร่างกาย! ออกกำลังกาย กินอาหารดี มีสุขภาพแข็งแรง พร้อมสู้ฝุ่นพิษ! ส่งต่อความรู้: บอกต่อ แชร์ เตือนภัย! ให้คนรอบข้างรู้ ร่วมกันสร้างเกราะป้องกัน ฝุ่น PM 2.5! รวมพลัง กดดันรัฐบาล: เสียงของเราต้องดังพอ! เรียกร้องมาตรการแก้ไข อย่างจริงจัง เด็ดขาด! ทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ เพื่อสุขภาพของเรา เพื่ออนาคตลูกหลาน! อย่าปล่อยให้ “ลมหายใจแห่งความหวัง” ต้องพังเพราะ “ฝุ่นพิษ”

Read More

รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สื่อมวลชนอาวุโส ให้สัมภาษณ์กับ The Publisher ผ่านรายการเที่ยงเปรี้ยงปร้าง ถึงกรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่มีการเพิกถอนกรรมสิทธิให้กลับไปเป็นที่ธรณีสงฆ์ โดยเริ่มมีการพูดถึงการชดเชย เยียวยา ว่า ต้องดูที่มาที่ทำให้ที่วัดกลายเป็นที่เอกชน โดยไล่เรียงให้เห็นถึงแผนการฮุบที่ธรณีสงฆ์ เกิดขึ้นในยุคที่นายเสนาะ เทียนทอง เป็นรมช.มหาดไทย ทำหน้าที่รมว.มหาดไทย ลงนามในคำสั่งไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามวรวิหารครอบครองที่ดินเกิน 50 ไร่ เปิดทางให้เกิดการโอนกรรมสิทธิไปให้กับมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ จนมีการนำที่ดินทั้ง 2 แปลง ไปขายให้กับบริษัท อัลไพน​์ เรียลเอสเตท และบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ มีนางอุไรวรรณ และนายวิทยา ภรรยา-น้องชายของนายเสนาะเป็นผู้ถือหุ้น และยังมีนักการเมืองที่ใกล้ชิดกับทั้งนายเสนาะและนายทักษิณ ชินวัตรถือหุ้นอยู่ด้วย คือ นายชูชีพ หาญสวัสดิ์ กับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงพงศ์ไพศาล เข้าทำนอง “ผัวเซ็น เมียซื้อ” ไม่ต่างอะไรกับกรณี “ที่ดินรัชดา” ที่นายทักษิณเซ็นยินยอมให้คุณหญิงพจมานซื้อที่ดิน “ปี 2543 ผมได้สัมภาษณ์นายทักษิณ เขายืนยันไม่มีการรับนายเสนาะเข้ามาร่วมพรรคไทยรักไทย และยอมรับซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์ในราคา 500 ล้านบาท เพราะมันเวิร์กในทางธุรกิจ สุดท้ายมีการตรวจสอบภายหลังนายทักษิณได้เป็นนายกฯ ในเรื่องบัญชีทรัพย์สิน ก็พบว่าผู้ถือหุ้นในสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลายเป็นรปภ. แม่บ้าน คนขับรถของนายทักษิณ เป็นปัญหาเรื่องการซุกหุ้นภาค 1 ป.ป.ช.ให้ผมไปเป็นพยานเพื่อยืนยันคำสัมภาษณ์ของนายทักษิณว่าเป็นผู้ซื้อสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่ในครั้งนั้นนายทักษิณชนะคดีไปแบบฉิวเฉียด เรื่องนี้ผมยังตรวจสอบต่อจนพบว่านายวิทยา เทียนทอง น้องชายนายเสนาะ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทอัลไพน์ฯ เทียวไปเทียวมาที่วัดหลายครั้ง ก่อนที่นายเสนาะจะลงนามไม่อนุญาตให้วัดฯ ถือครองที่ดินเกิน 50 ไร่ จนนำไปสู่การซื้อขายที่ดินในที่สุด ถามว่านายทักษิณจะไม่รับรู้ถึงความผิดปกติในการซื้อที่ดินครั้งนี้เลยหรือ ในเมื่อคนที่ถือหุ้นในบริษัทฯ นี้ก่อนเปลี่ยนมือ ก็ล้วนเป็นคนใกล้ชิดนายทักษิณทั้งสิ้น อีกทั้งสื่อมวลชนเองยังตั้งคำถามและมีการขุดคุ้ยด้วย การซื้อที่ดินที่ได้มาโดยฉ้อฉล อาจเปรียบได้กับการซื้อของที่ปล้นมาก็เหมือนรับซื้อของโจรหรือไม่“ ใช้อำนาจฉ้อฉลฮุบที่ธรณีสงฆ์ในยุคทักษิณ รศ.ดร.เจิมศักดิ์ เล่าด้วยว่า กระบวนการตรวจสอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ มีการส่งให้กฤษฎีกาให้ความเห็นทางกฎหมายก็มีมติว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ เรื่องไปที่กรมที่ดิน ในปี 2544 อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้นก็มีคำสั่งเพิกถอนกรรมสิทธิในที่ดินดังกล่าวคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงในยุคที่นายทักษิณ เป็นนายกฯ โดยมีแรงกดดันไปที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นให้เพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน แต่ปลัดฯ คนดังกล่าวไม่ทำตาม ใช้วิธีลาออก จากนั้นมีการตั้งนายยงยุทธ…

Read More

จากกรณีโทรศัพท์ Oppo-Realme ติดตั้งแอปพลิเคชัน “สินเชื่อความสุข” และ “Fineasy” โดยอัตโนมัติ หลังผู้ใช้โทรศัพท์กดอัปเดตระบบ ทำให้ผู้ใช้กังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล จนทาง OPPO และ Realme ต้องระงับการขายและยุติการติดตั้งแอปฯ สินเชื่อบุคคลที่สามล่วงหน้าทั้งหมด พร้อมทำการอัปเดตระบบเพื่อลบแอปฯ ดังกล่าว แต่ล่าสุดสภาองค์กรของผู้บริโภค รวบรวมผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี Oppo-Realme แล้วทั้งที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล PDPC เพื่อคุ้มครองสิทธิและความปลอดภัยของผู้บริโภคทุกคน โดยออกแถลงการณ์ระบุมีผู้เสียหายกว่า 192 รายเข้าร้องเรียนทางสภาองค์กรของผู้บริโภค แบ่ง 1.ความผิดต่อคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล และ 2.การทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมายที่มีการกู้ยืมเงิน โดยทางคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลจะผู้รับเรื่องเพื่อดำเนินคดีต่อไป ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภคได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาด้วย โดยวางแผนที่จะดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงเจ้าของเครื่องหมายการค้าของแอปฯ ส่วนคดีแพ่ง สภาฯ จะหาหนทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายทุกคน ด้านนายพรวุฒิ พิพัฒนเดชศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาผู้บริโภค บอกการติดตั้งแอปฯ มาจากโรงงาน ก็เป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค เพราะการยัดเยียดติดตั้งแอปฯ และไม่สามารถถอนการติดตั้ง เท่ากับเสียพื้นที่ในการใช้งานโทรศัพท์ ซ้ำยังเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้ยินยอม พร้อมแนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแอปฯ ให้ลึกไปถึงตัวซอฟต์แวร์ว่า มีความปลอดภัยหรือไม่ก่อนวางขายในท้องตลาด เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด และไม่ถูกละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล ขณะที่ทนายจิณณะ แย้มอ่วม จากสภาองค์กรของผู้บริโภค บอกเบื้องต้นยังไม่เห็นทิศทางการเยียวยาผู้เสียหายจากทาง OPPO ทั้งที่ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหลไปแล้ว อีกทั้งยังตรวจสอบพบว่าการติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะการติดตั้งมาจากโรงงานตามที่อ้าง ผู้ใช้ OPPO รุ่นเก่า เมื่ออัปเดตซอฟต์แวร์ แอปฯ ไม่พึ่งประสงค์ก็เด้งเข้ามาด้วย ดังนั้นจะดำเนินคดีในส่วนคดีแพ่งแบบกลุ่ม เพื่อเรียกค่าเสียหายให้ทุกคนให้ได้รับการเยียวยาทั้งหมด ทนายจิณณะยังกังวลว่า ไม่แน่ใจข้อมูลส่วนบุคคลที่หลุดไปอยู่ในมือมิจฉาชีพหรือไม่ เพราะมีหลายกรณีที่รายชื่อติดต่อจากมือถือและที่ถูกติดตั้งแอปฯ เถื่อนถูกนำไปใช้ ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่ใช่เรื่องแอปฯ เงินกู้ แต่เป็นเรื่องความมั่นคง และการโจรกรรมระดับชาติ หรืออาชญากรรมข้ามชาติ ที่ปล้นข้อมูลเพื่อเอาไปใช้ประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ และเป็นการแตกไลน์ธุรกิจของจีนเทาหรือไม่ จึงขอให้หน่วยงานของรัฐบูรณาการเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมกันนี้ยังได้เปิดหลักฐานใหม่ว่าโทรศัพท์ได้ติดตั้งแอปฯ ที่คาดว่าสำหรับการเล่นการพนันออนไลน์ และพบว่าโทรศัพท์ยี่ห้อดังกล่าว ถูกผลิตขึ้นมาจากโรงงานเดียวกับจากเจ้าของแอป ฯ “Fineasy” ด้วย ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง ที่รับเรื่องดังกล่าวย้ำว่า จะรวบรวมพยานหลักฐานเชิงลึก เพื่อสอบสวนให้เห็นว่ามีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้โทรศัพท์ ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมระบุจะเชิญทาง OPPO-Realme มาให้ปากคำและแสดงพยานหลักฐานตามข้อกล่าวหาต่อไป มั่นใจถึงเป็นคดีที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่มีความสลับซับซ้อน แต่ทางตำรวจจะดำเนินการอย่างเต็มที่

Read More

เป็นการรวมตัวของแกนนำ และกลุ่มพลังมวลชนที่มีทั้งกลุ่ม คปท.,กลุ่ม ศปปส.,กลุ่มกองทัพธรรม และคณะหลอมรวมประชาชน รวมทั้งนักวิชาการที่เคยเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรฯ และ กปปส. จัดกิจกรรม “รวมพลคนดี” ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามคำตอบจากรัฐบาล กรณีการรักษาอาการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และการส่งเวชระเบียนให้แพทยสภาไม่ครบถ้วน โดยขอให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมราชทัณฑ์ชี้แจงเรื่องนี้ พร้อมกับคัดค้านบ่อนการพนันกาสิโนถูกกฎหมาย Entertainment Complex และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองรับหนังสือ ทั้งนี้ กลุ่มพลังมวลชนดังกล่าวเห็นว่านายกรัฐมนตรี ควรมีบทบาทร่วมสะสางคดีบริหารกระบวนการบังคับโทษนายทักษิณ หลัง ป.ป.ช. และแพทยสภาไม่ได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูล จากกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจเท่าที่ควร จึงจำเป็นต้องใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนครั้งนี้โดยด่วนด้วย เพราะเป็นคดีสำคัญที่กระทบถึงความเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรมไทย ทั้งในหมู่ประชาชนและนานาประเทศ จึงขอนายกรัฐมนตรีแยกแยะระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตนกับนายทักษิณ กับการปฏิบัติหน้าที่ที่จะต้องรักษาไว้ซึ่งความถูกต้อง

Read More