Author: Writer Publisher

โดยกองทัพบกชี้แจงเหตุดังกล่าวเกิดเมื่อกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา ( 15 ส.ค.68) หลังกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุดจำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่นายอนุวัฒน์ สิงห์ชัย อายุ 32 ปี ชาวบ้านเขื่อนแก้ว ถูกกระสุนปืนทะลุปอดด้านขวา อาการสาหัสแต่ยังรู้สึกตัว ขณะนี้ส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และนายวุทธนา นาประโคน อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดกระจกที่เท้าซ้าย อาการปลอดภัย ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ จึงได้จัดกำลังออกลาดตระเวนค้นหาโดยรอบพื้นที่ แต่ยังไม่พบตัว กองทัพบกขอแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #กองทัพบก #กราดยิง #ตรวจสภาพจิตกำลังพล

Read More

โดยตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB คุมตัวนายสฤษฏิ์ หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ไปที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสอบปากคำ โดยเจ้าตัวสวมหมวก และแมสก์ ปิดบังใบหน้า ซ้ำยังตกใจเมื่อเห็นผู้สื่อข่าวจนเข้าเกาะเอวตำรวจ ไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ก่อนเข้าห้องสอบปากคำไป โดยนายสฤษฏิ์ถูกตำรวจตจาก บก.ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. จับกุมเหตุพัวพันสีกา ยักยอกเงินวัด ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เปิดเผยว่าได้ตรวจสอบเส้นเงินพบว่า มีหลายสายที่เกี่ยวพันโยงใยกับพระและสีกา เบื้องต้นมีเงินไหลเข้าบัญชีของนายสฤษฏิ์ ขณะเป็นเจ้าอาวาส กว่า 4 ล้านบาทและโอนไปยังบัญชีส่วนตัวของสีกาน้ำหวาน กว่า 400,000 บาท จึงต้องดำเนินคดีกับทั้งสองคน ทั้งนี้ทิดสฤษฏิ์สำนึกผิดขอเข้าสู่กระบวนการและเข้ามอบตัว จึงไม่คัดค้านการประกันตัว เพราะถือว่าให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นพนักงานสอบสวนคุมตัว สีกาน้ำหวาน ซึ่งถูกจับกุมได้ที่ ต.คูคต อ.ลำลูกา จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเช้า มาสอบปากคำด้วย โดยสีกาน้ำหวาน ถูกออกหมายจับฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และ สนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #วงการสงฆ์ #วงการผ้าเหลือง #สีกากอล์ฟ #ผิดวินัยสงฆ์ #อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ #สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

Read More

เป็นการแถลงของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ที่สรุปสถานการณ์ ณ เวลา 14 นาฬิกาของวันที่ 14 สิงหาคม ซึ่งพบว่าสถานการณ์โดยรวม เจ้าหน้าที่ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในพื้นที่ตอนใน จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา และร้อยเอ็ด จำนวน 94 ลำ และในพื้นที่แนวชายแดน 5 พื้นที่ 25 ถึง 30 ลำ บินเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย พร้อมตรววจสอบความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชา เข้ามาเกาะแนวลวดหนามหีบเพลงบริเวณฐานปฏิบัติการ และพยายามข้ามลวดหนามเข้ามา ฝ่ายเราได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎการปะทะ ทหารกัมพูชาจึงได้ถอยออกไปจากพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีการปะทะ ฝ่ายเรายังคงตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติในเขตอธิปไตยของไทย เตรียมพร้อม และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงการประชุม GBC ที่ผ่านมา ขณะที่การทำพื้นที่ให้ปลอดภัย ได้จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือ EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่ทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้างรวม 269 พื้นที่ รอการตรวจสอบ 43 พื้นที่ และอยู่ระหว่างการรอทำลาย 9 พื้นที่ โดยเน้นย้ำประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเข้าตรวจสอบต่อไป #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#ทุ่นระเบิดผิดสนธิสัญญา#อนุสัญญาออตตาวา

Read More

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เรื่องนี้ว่า “มีเวลา 16 วัน สำหรับการตัดสินใจของนายกแพทองธาร โดยเขาระบุ ลาออกศาลจำหน่ายคดี ไม่ลาออก มีโอกาสลุ้นรอดหรือไม่รอด ถ้ารอดก็กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีไปนาน ๆ นี่คือสิ่งที่แพทองธาร ต้องคิดและตัดสินใจเอง พร้อมกับวิเคราะห์ว่า ต้องอย่าลืมว่ากรณีนายกฯ เศรษฐากับแพทองธารนั้นแตกต่างกันตรงที่คุณเศรษฐานั้นพ้นแล้วพ้นเลย ไม่มีคดีใน ป.ป.ช. และคดีอาญา ตามมาต่อเนื่อง และต้องไม่ลืมคำว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์การ ซึ่งแปลว่า หากศาลบอกว่าผิด คดีใน ป.ป.ช. เรื่องจริยธรรม นั้นยากจะรอด และมีโทษเพิ่ม คือ ตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต ไม่สามารถรับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ และในคดีอาญา เป็นข้อหาความผิดต่อความมั่นคงของรัฐนั้น หากเดินตามศาลรัฐธรรมนูญด้วยแล้วนั้นมีโทษจำคุกและไปไกลสุดซอยถึงขั้นประหารชีวิต “การลาออกก่อนเพื่อไม่ให้มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญติดตัว น่าจะเป็นการ save ตัวคุณแพทองธารมากกว่า ยกเว้นว่า ชีวิตนี้จะมีความสุขจากการใช้ชีวิตในต่างแดน” นายสมชัยสรุปตอนท้าย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#แพทองธารชินวัตร#ศาลรัฐธรรมนูญ#คลิปเสียงสนทนา#จริยธรรมร้ายแรง#ทักษิณชินวัตร#ตัดสิทธิทางการเมือง#รัฐบาลแพทองธาร#ตรวจสอบอำนาจ#ล้างกระดานการเมือง#29สิงหาวันชี้ชะตา#นับถอยหลังเก้าอี้นายก

Read More

นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี จนถึงวันนี้นางสาวแพทองธาร ดูเหมือนสงวนท่าที และความเห็นต่างๆ ลง กระทั่งใครต่อใครคิดว่าเป็นการโลว์โพรไฟล์ตัวเองลง เพื่อหาทางลงอย่างนุ่มนวลตัดสินใจลาออก ก่อนถึงวันศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมคลิปเสียงสนทนากับอังเคิลฮุนเซน ยิ่งเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีนัดหมายชัดเจนว่าวันที่ 21 สิงหาคมจะไต่สวนพยาน 2 ปากสุดท้าย หนึ่งในนั้นคือตัวนางสาวแพทองธาร และนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีนี้ช่วงบ่ายวันที่ 29 สิงหาคม เท่ากับนี่คือช่วงเวลานับถอยหลังสู่วันชี้ชะตาว่าจะอยู่หรือไป หรือจะไปก่อนวันอ่านคำวินิจฉัย ปรากฎการณ์การโลว์โพรไฟล์เห็นได้ชัดในช่วง 3 วันนี้ หลังกระแสร้อนทะลุปรอทว่าเธอตัดสินใจลาออกก่อนถึงวันอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ได้ถูกสื่อมวลชนนำไปถามในวันที่ 12 สิงหาคม โดยเจ้าตัวบ่ายเบี่ยงและตอบเพียงว่า “คิดถึงนะ” จากนั้นวันที่ 13 สิงหาคม เมื่อต้องไปประชุมพิจารณางบประมาณปี 2569 ที่อาคารรัฐสภา เธอเดินเลี่ยงไม่ตอบคำถาม โดยเฉพาะหลังศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย 29 สิงหาคม เจ้าตัวต้องมุดลงชั้นใต้ดินขึ้นรถออกจากรัฐสภา ล่าสุดวันนี้เมื่อเจอคำถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนวันที่ 21 สิงหาคมนี้จะไปด้วยตัวเอง?” และ “จะอยู่ต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย?” นางสาวแพทองธารตอบเพียงว่า “วันที่ 21 ส.ค. เป็นวันเกิดพอดี” ก่อนเดินเลี่ยงไป เชื่อว่าปรากฎการณ์จะเป็นเช่นนี้ต่อไปจนกว่าจะถึงวันชี้ชะตา 29 สิงหาคม หรือวันที่ไม่มีชื่อนางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ #คลิปเสียงสนทนา #จริยธรรมร้ายแรง #ทักษิณชินวัตร #ตัดสิทธิทางการเมือง #รัฐบาลแพทองธาร #ตรวจสอบอำนาจ #ล้างกระดานการเมือง #29สิงหาวันชี้ชะตา #นับถอยหลังเก้าอี้นายก

Read More

เครือข่ายรณรงค์หยุดพนันกว่า 30 คน ยื่นหนังสือต่อนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานคณะกรรมาโป๊กเกอรธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการของรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันโป๊กเกอร์กลางกรุงในช่วงที่ผ่านมา โดบนายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ระบุว่าประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโป๊กเกอร์ส่งด่วน ที่รัฐบาลอนุมัติอนุญาตอย่างรวบรัดเร่งรีบให้เสร็จทันเวลาจัดงานของบริษัทเอกชน ทั้งที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการอนุมัติให้โป๊กเกอร์เป็นกีฬาของบอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทยในวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจขัดหลักเกณฑ์ที่ กกท.ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2561 เพราะชนิดกีฬาที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งสมาคมกีฬาต้องมีสหพันธ์กีฬานานาชาติ เช่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือมนตรีซีเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์ ให้การรับรอง แต่โป๊กเกอร์ไม่มีคุณสมบัตินี้ แต่บอร์ด กกท.ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กับนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยงและกีฬา เป็นรองประธาน กลับเห็นชอบให้โป๊กเกอร์เป็นกีฬา ด้วยเหตุผลว่าเป็นเกมไพ่ที่มีผู้นิยมเล่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ด้วย โดยหลังผลประชุมบอร์ดอนุมัติ ก็จัดแถลงข่าวเปิดตัวสมาคมโป๊กเกอร์พร้อมคณะกรรมการสมาคมทันที และเดินหน้าจัดการแข่งขันโป๊กเกอร์กลางกรุงในสัปดาห์ถัดมา ทั้ง ๆ ที่การจดทะเบียนเป็นสมาคมกีฬายังไม่เรียบร้อย จึงสงสัยว่าการจัดงานถูกต้องตามเงื่อนไขของ กกท.และกระทรวงมหาดไทยหรือไม่? เพราะไม่มีสมาคมกีฬารองรับ และมีลักษณะเป็นการพนันด้วยหรือไม่? ดังนั้นการที่กระทรวงมหาดไทยอ้างมติของคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ปลดล็อกโป๊กเกอร์เป็นกีฬานั้น มีเหตุผลและถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ อีกทั้งไม่ควรอาศัยอำนาจการเมืองผลักดันอย่างรวบรัดโดยไม่มีมาตรการป้องกันอย่างรอบคอบ เอากีฬากับการพนันมาผสมปนเปเป็นเรื่องเดียวกัน โดยอ้างเอากีฬามาสนับสนุนการพนัน กลับกลายเป็นการทำลายวงการกีฬามากกว่า เรื่องนี้คนในวงการกีฬาควรต้องออกมาปกป้องไม่ให้มีการใช้อำนาจโดยมิชอบเช่นนี้ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #โป๊กเกอร์พรางทัวร์ #WPTPrimeThailand #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #TravelFunds #พนันแฝงท่องเที่ยว #กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา

Read More

เป็นข้อเสนอของนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต สว. ที่ระบุ “เพื่อไทยขอศาล รธน.เลื่อน 6 เดือนพิจารณาคดีคลิปฮุนเซนอ้างเหตุการณ์ประเทศไม่ปกติ แต่ไม่คิดต่ออายุแม่ทัพภาค2 !?!!” โดยอ้างถึงพรรคเพื่อไทยขอศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนวินิจฉัยคดีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีออกไป 6 เดือน ทั้งที่คลิปดังกล่าว เข้าใจเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนละฝ่ายกับแม่ทัพภาค 2 และอดสงสัยไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์เป็นไส้ศึกหรือไม่ ไม่สามารถไว้วางใจให้อยู่ในตำแหน่งแม้แต่วันเดียว นางสาวรสนายังระบุถึงบทบาทของพลโบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ด้วยว่าหลังเกิดเหตุกัมพูชาโจมตีจนมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก พลโทบุญสินเป็นผู้มีความดีความชอบในการต่อต้านการรุกรานของกัมพูชาอย่างเต็มที่ จนกลายเป็นวีรบุรุษขวัญใจของประชาชนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่ต้องการให้กองทัพเปลี่ยนม้ากลางศึก และเรียกร้องให้รัฐบาลต่ออายุราชการจนกว่าจะเสร็จศึกกับกัมพูชา แต่รัฐบาลออกมาตอบว่าทำไม่ได้ เพราะจะเสียหายต่อระบบราชการ นางสาวรสนาขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจก่อนว่ามีความห่วงใยในสถานการณ์วิกฤตของประเทศด้วยการเห็นชอบในสิ่งที่สามารถทำได้ดังต่อไปนี้ คือเสนอต่ออายุราชการแม่ทัพภาค 2 ไปจนกว่าสถานการณ์ไม่ปกติจะคลี่คลายอย่างน้อย 6 เดือน จากนั้นให้พลโทบุญสิน เป็นผู้เลือกแม่ทัพภาค 2 คนต่อไป และแต่งตั้งพลโท บุญสิน เป็นที่ปรึกษาแม่ทัพภาค 2 คนใหม่อย่างเป็นทางการ และสุดท้ายเสนอให้แต่งตั้งพลโทบุญสินเป็นรัฐมนตรีกลาโหม “ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจให้ประชาชนเห็นว่าเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองอย่างที่พูดเสียก่อน ไม่ใช่อ้างเพื่อให้นายน้อยได้ไปต่อเท่านั้น ใช่หรือไม่?!” อ่านข้อความฉบับเต็มได้ที่ https://www.facebook.com/share/p/16jaMjJ6fi/?mibextid=wwXIfr #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#แพทองธารชินวัตร#ศาลรัฐธรรมนูญ#คลิปเสียงสนทนา#จริยธรรมร้ายแรง#ทักษิณชินวัตร#ตัดสิทธิทางการเมือง#รัฐบาลแพทองธาร#ตรวจสอบอำนาจ#ล้างกระดานการเมือง#พลโทบุญสินพาดกลาง#แม่ทัพภาค2#ต่ออายุราชการ

Read More

สภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) แถลงข่าว “การเซ็นสัญญาซื้อไฟ 25 ปี ซื้อแพง-ไม่โปร่งใส-ใครแบกหลังอาน?” เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมผลักดันแผนพัฒนากำลังไฟฟ้า หรือ PDP เป็นกฎหมาย ร่วมกำหนดทิศทาง กำกับดูแลการจัดหาจัดสรรพลังงานให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส หลังแผน PDP ที่ผ่านมาพบว่าประชาชนแบกภาระค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง และเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนพลังงาน โดยยกกรณีการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนกว่า 5 พันเมกกะวัตต์ ซึ่งจำนวนนี้มี 2,180 เมกกะวัตต์รับซื้อในราคาคงที่ 2.17 บาท/หน่วยเป็นเวลา 25 ปี โดยไม่มีหลักเกณฑ์ ไม่มีฐานการคำนวนราคา ไม่มีการเปิดประมูล เป็นการรับซื้อสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระค่าไฟแพง 25 ปี รวม 6 หมื่น 5 พันล้านบาท ทั้งที่ในต่างประเทศมีกฎหมาย และเปิดประมูลอย่างโปร่งใส ขณะที่ตัวแทน สรส. และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ตั้งข้อสังเกตุว่าขณะที่เทคโนโลยีทำให้ต้นทุนพลังงานถูกลงเรื่อยๆ แต่กลับรับซื้อในราคาแพงและคงที่ รวมถึงยังกีดกัน กฟผ.ไม่ให้เสนอราคาที่ต่ำกว่าอยู่ที่ 1.50 บาทอีกด้วย ถือเป็นการทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ “เป็นเรื่องประหลาด และน่าฉงน รัฐบาลเปิดโอกาสให้เอกชนขายไฟฟ้าแพง ทำกำไรเอาเงินเข้ากระเป๋ายาว 25 ปีแต่กีดกัน กฟผ.ที่เสนอราคาที่ถูกกว่า และกำไรที่ได้ยังส่งเข้ารัฐด้วย และแผน PDP ของรัฐบาลยังลดกำลังการผลิตของ กฟผ.ให้เหลือ 17%” นายเชิดชัย กัลยาวุฒิพงศ์ รองเลขาธิการบริหาร สรส. ด้านนางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการนโยบาย สภาองค์กรของผู้บริโภค มองการกีดกัด กฟผ.เข้าข่ายการทุจริตหรือเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชนหรือไม่ เพราะไม่เพียงกีดกัน กฟผ.ไม่ให้เสนอราคาที่ 1.50 บาท/หน่วยต่ำกว่าเอกชนที่เสนอ 2.17 บาทเท่านั้น ยังลดศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ.จาก 77% ในปี 2543 เหลือ 17% ตามแผน PDP ของรัฐบาลอีกด้วย “มีข่าวลือตลอดว่าถ้าแผนนี้ผ่านจะได้เมกะวัตต์ละล้านจริงหรือไม่ และการลดกำลังการผลิตเพื่อนำรายได้จากเดิมเป็นของ กฟผ.ไปให้เอกชนใช่หรือไม่ เป็นแผนตอบแทนกลุ่มทุนพลังงาน โดยให้ประชาชนเป็นผู้แบกรับภาระค่าไฟฟ้าแพงหรือไม่”…

Read More

เป็นกำหนดนัดหมายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณี สว.เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภาปมคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจอัยตามรัฐธรรมนูญว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังพบว่าไม่มีความชื่อสัตย์สจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไปแล้วก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา กำหนดนัดไต่สวนพยานบุคคล 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้องและและเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น. พยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจยื่น โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 เวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15 นาฬิกาเป็นต้นไป ณ ห้องพิจารณาคดี ชั้น 3 ศาลรัฐฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ #คลิปเสียงสนทนา #จริยธรรมร้ายแรง #ทักษิณชินวัตร #ตัดสิทธิทางการเมือง #รัฐบาลแพทองธาร #ตรวจสอบอำนาจ #ล้างกระดานการเมือง

Read More

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ผันตัวเป็นนักวิเคราะห์การเมือง โพสต์ถึงกระแสข่าวว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แอบเขียนใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว เป็นการลาออกแบบเงียบๆ ก่อนที่จะมีแกนนำพรรคเพื่อไทยเรียงหน้าออกมาปฏิเสธ รวมถึงเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญ เลื่อนการพิจารณาคดีคลิปเสียงของนางสาวแพทองธาร ออกไป 6 เดือน โดยนายเทพไทเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่มีการลาออกจริง การลาออกจะเกิดขึ้นได้ หากนายทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถล็อบบี้หรือต่อดีล หรือดีลต่อกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมได้ จนใกล้ถึงวันอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อประเมินว่าไม่สามารถจะผ่านไปได้ นั่นก็คืออาจมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน นายทักษิณก็ส่งสัญญาณให้นางสาวแพทองธาร ลาออกซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก พร้อมระบุ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรือรีบเร่ง แต่ก็เชื่อว่านางสาวแพทองธาร จะตัดสินใจลาออกอย่างแน่นอน ก่อนจะถึงวันศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เพราะนายทักษิณคงไม่อยากให้นางสาวแพทองธาร มีคดีจริยธรรมติดตัวไป ซึ่งจะทำให้อนาคตทางการเมืองของนางสาวแพทองธาร ซึ่งยังอีกยาวไกลเสียหาย ไม่สามารถจะดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมืองในอนาคตได้อีก “เรื่องนี้ฟันธงได้เลยว่า ถ้าหากนายทักษิณต่อดีลไม่ได้ ล็อบบี้ไม่สำเร็จ นางสาวแพทองธาร ต้องเขียนใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างแน่นอน” นายเทพไทระบุ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #แพทองธารชินวัตร #ศาลรัฐธรรมนูญ #คลิปเสียงสนทนา #จริยธรรมร้ายแรง #ทักษิณชินวัตร #ตัดสิทธิทางการเมือง #รัฐบาลแพทองธาร #ตรวจสอบอำนาจ #ล้างกระดานการเมือง

Read More