- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
เป็นข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ที่แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยระบุเมื่อเวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทางเพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา โดยมี จ.ส.อ. ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 พ.2) ดังนี้ 1. จ.ส.อ. ธานี พาหา ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด 2. พลฯ ภาคภูมิ ไชยสุระ บาดเจ็บที่แขน และด้านหลัง 3. พลฯ ธนันชัย ไกรวงค์ โดนแรงอัด และ เจ็บแก้วหู ปัจจุบันได้นำกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ในการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา หนึ่งในสองข้อตกลงที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมลงนามรับคือ เรื่องให้ฝ่ายกัมพูชาจัดเก็บทุ่นระเบิดที่ได้ฝังไว้ตามแนวชายแดน ซึ่งเพียง 2 วันหลังการประชุมก็เกิดเหตุขึ้น #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #ศบทก #สันติภาพ
“ทหารช่าง”ปฏิบัติการบนภูมะเขือเร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกัมพูชาปรับพื้นที่พร้อมใช้งาน เป็นภาพภารกิจต่อเนื่องของกองทัพภาคที่ 2 โดยส่งกำลังทหารช่าง เร่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ จังหวัดศรีษะเกษ หลังทำลายกระเช้าและทางขึ้นภูมะเขือของทหารกัมพูชา และชักธงชาติไทยผืนใหม่ไปก่อนหน้านี้ พร้อมปรับพื้นที่ให้พร้อมใช้งานทุกด้าน เพื่อปกป้องประเทศ โดย “ทหารช่าง” เร่งเข้ารื้อถอuสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ ที่สร้างล้ำแผ่นดินไทย! พร้อมปรับปรุงที่ตั้ง เสริมความพร้อมตามแนวชายแดน#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#ศบทก#สันติภาพ
นายวรภพ วิริยะโรจน์ และ นายศุภโชติ ไชยสัจ 2 สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. กรณีจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ว่ามีการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ โดยเห็นว่าแผนจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 5,203 เมกะวัตต์ และโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม 3,668.5 เมกะวัตต์ อาจมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะโครงการ 5,203 เมกะวัตต์ ไม่เปิดประมูลราคารับซื้อ และกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้า ส่งผลให้ประชาชนแบกรับต้นทุนค่าไฟที่สูงเกินจริง 1 แสนล้านบาท ส่วนโครงการ 3,668.5 เมกะวัตต์ ก็ออกประกาศให้ผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้ยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าในรอบแรก 5,203 เมกะวัตต์เท่านั้น เข้าข่ายเอื้อประโยชน์ผู้ผลิตไฟฟ้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ปิดกั้นการแข่งขันและผู้เล่นรายใหม่ อีกทั้งยังยึดใช้อัตรารับซื้อไฟฟ้ารอบเพิ่มเติมเป็นอัตราเดียวกันกับรอบแรก ขัดกับแนวโน้มต้นทุนทางเทคโนโลยีที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจเป็นการเอื้อประโยชน์จนเกินควร และเป็นการเพิ่มต้นทุนที่ไม่จำเป็นในค่าไฟที่ประชาชน นอกจากนี้การเปลี่ยนกรอบเวลาให้เอกชนผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้า ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟฝ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ภายในวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 อาจเป็นการกระทำที่ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบด้วยกฎหมาย และขัดกับมติของ กพช. ที่ให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม เป็นการไม่ดำเนินการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และมีเหตุอันควรสงสัยว่าเพื่อแสวงหาประโยชน์ให้เอกชนโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทั้งสองขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนว่ากรรมการ กพช. กบง. และ กกพ. รายใดมีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำการให้เกิดผลเสียต่อนโยบายพลังงานของรัฐ และเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หรือมีการกระทำเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ ตลอดจนหาข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือนิติบุคคลเกี่ยวข้องกับการให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์เพื่อจูงใจให้กระทำการดังกล่าวหรือไม่ “ทั้งนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ไม่ต้องทนจ่ายค่าไฟที่แพงเกินกว่าที่ควรจะเป็นไปอีก 25 ปี จากการทุจริตต่อหน้าที่หรือจากการทำตามใบสั่งของใคร” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไฟฟ้าประชาชน #พลังงานเพื่อทุกคนไม่ใช่แค่ทุน #สภาองค์กรของผู้บริโภค #กกพ #ค่าไฟแพงเพราะใคร #ยื่นปปชสอบ #ล็อกสเปกเอื้อทุนพลังงาน #พรรคประชาชน
“รัฐบาลแพทองธารไม่รอด — ที่ดินเขากระโดงจบไม่ง่าย” — คมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านกฎหมาย เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย สมจิตต์ นวเครือสุนทร ⸻ เพิกถอนโฉนด 5 พันไร่—คดีไม่ราบรื่น แม้กระทรวงมหาดไทย ภายใต้การดูแลของ ภูมิธรรม เวชยชัย จะมีคำสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดกว่า 5,000 ไร่ในพื้นที่เขากระโดง แต่ชาวบ้านผู้ครอบครองที่ดินยังยืนยันสิทธิ พร้อมโต้ว่าไม่ใช่ที่ของการรถไฟฯ คมสัน โพธิ์คง ชี้ว่าการเพิกถอนครั้งนี้จะไม่ราบรื่น อาจมี “ผู้มีอิทธิพล” หนุนหลังการเคลื่อนไหวของชาวบ้าน และแม้จะมีการเมืองเกี่ยวข้อง แต่การเพิกถอนนี้ก็เป็นไปตามกฎหมายและคำพิพากษาศาลฎีกา–ศาลปกครองสูงสุด ⸻ กฎหมายรองรับ–แต่ปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ คมสันมองว่ามีทั้งมิติการเมืองและข้อกฎหมาย — เป็นการเอาคืนระหว่างสองพรรคการเมือง แต่มีฐานจากคำพิพากษาที่ชัดเจนว่าเป็นที่หลวง ใครครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย กรมที่ดินจึงมีหน้าที่เพิกถอนโฉนดทันที ไม่ควรดึงเวลา เขายกตัวอย่างคดีที่พังงา ที่ดินสาธารณะกว่า 170 ไร่ ศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอน แต่กรมที่ดินกลับอ้างตรวจสอบซ้ำตามมาตรา 61 เพื่อถ่วงเวลา “ต้องเพิกถอนก่อน แล้วให้การรถไฟฯ พิจารณาว่าจะให้เช่าระยะยาวหรือไม่” ⸻ ปัญหาการดูแลทรัพย์สินรัฐ เขาตำหนิการรถไฟฯ ว่าไม่ดูแลที่ดินของตัวเอง ทั้งที่รัชกาลที่ 5 มอบให้ จนประชาชนเข้ามาอยู่อาศัยโดยไม่รู้ว่าเป็นที่หลวง ทำให้การเพิกถอนโฉนดในพื้นที่มีคนอยู่จำนวนมากจะถูกต่อต้าน ชุมนุม และฟ้องร้อง แต่เชื่อว่าฟ้องก็ยากจะชนะ เพราะศาลสูงทั้งสองศาลตัดสินไปแล้ว เว้นแต่มีข้อเท็จจริงใหม่ ⸻ โต้ข้ออ้างทนาย–เตือนฟ้องเท็จ สำหรับข้ออ้างทนายว่าคำพิพากษาศาลฎีกามีผลเฉพาะคู่ความ และขู่ฟ้องคุก 5,000 ปี คมสันโต้ว่า คำพิพากษาชัดเจนแล้ว และหากฟ้องเท็จ ระวังคุก 5,000 ปีจะย้อนเข้าตัวเอง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ามีนักการเมืองครอบครองที่ดินอยู่ หากถูกร้อง ป.ป.ช. อาจซ้ำรอยคดีปารีณา ไกรคุปต์ อดีตสส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่พ้นตำแหน่งและถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ⸻ วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง–รัฐบาลง่อนแง่น คมสันวิเคราะห์ว่า รัฐบาลแพทองธารมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะคดีคลิปอังเคิล–หลานอิ๊งค์ “ผมคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัยเดือนกันยายน และแพทองธารไม่รอด เมื่อพ้นนายกฯ รัฐบาลก็ล้มครืนทั้งคณะ” เขามองว่า หากเลือกดัน ชัยเกษม นิติสิริ…
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง แถลงผลการประชุมว่า ได้ตรวจพบฝ่ายกัมพูชาตรึงกำลังที่ชายแดน พร้อมเคลื่อนไหวด้านยุทโธปกรณ์ และยานพาหนะในบางพื้นที่ ซึ่งฝ่ายไทยเองได้ตรวจตราและติดตามอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังพบ อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นการเข้าข่ายยั่วยุบางจุด โดยกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจดำเนินการตามมาตรการตอบสนอง และควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มการเฝ้าระวังตรวจตามแนวชายแดนในพื้นที่เสี่ยงโดยเฉพาะ สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ GBC ได้ลงนามร่วมกัน โดยมีประเด็นหลัก 13 ข้อที่สำคัญต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยประเมินว่าได้รับผลสำเร็จเป็นอย่างมาก หลายประเด็นที่ฝ่ายไทยผลักดันขับเคลื่อนมาโดยตลอด คือการหยุดยิง ประชาชนจะได้รับประโยชน์ โดยจะสร้างความปลอดภัย สร้างความสันติสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุดจะสามารถกลับไปภูมิลำเนาและใช้ชีวิตได้อย่างปกติต่อไป พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สรุปในภาพรวมจากการประชุม GBC แบ่งออกเป็น 3 ระดับ ระดับแรกการหารือของฝ่ายกองเลขานุการของทั้ง 2 ประเทศถือว่า ประสบความสำเร็จในการเจรจาและได้บรรลุข้อตกลงทุกข้อตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการ อีกระดับหนึ่ง คือ ระดับของการประชุม GBC ถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ร่วมลงนามข้อตกลง ส่วนมาเลเซียและอาเซียนนั้น เห็นพ้องต้องกันว่าจะดำรงบทบาทเฉพาะเป็นผู้สังเกตการณ์ กลไกแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ยังคงดำเนินการ 2 ฝ่ายในลักษณะของทวิภาคีเท่านั้น ส่วนฝ่ายสหรัฐฯและจีนเป็นผู้สังเกตการณ์ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อเจรจาตามข้อตกลงจุดยิงให้ประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมาย และภาวนาว่าจะเห็นการแก้ไขปัญหาของความขัดแย้งนั้นได้อย่างยั่งยืน #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #ศบทก #สันติภาพ
แม้การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา วันที่ 7 สิงหาคม จะได้ข้อสรุปไปสู่ “หยุดยิงถาวร” แต่ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เตือนว่าอย่าเพิ่งวางใจ เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติจริงในพื้นที่ “สันติสุขที่แท้จริงจะอยู่ที่พื้นที่ พฤติกรรม กองกำลัง และผู้นำ ไม่ใช่อยู่บนกระดาษหรือโต๊ะเจรจา” เขามองว่าการเริ่มต้นครั้งนี้เป็นสัญญาณดี แม้มีข้อจำกัดและช่องว่างหลายประการ ไทยจึงต้องสร้างความเข้มแข็ง และตั้งกลไกควบคุมให้เป็นรูปธรรม ทั้งการไม่ใช้กำลัง ลด–ถอนกำลัง และกลับสู่กรอบเจรจา RBC–GBC–JBC เพื่อปักปันชายแดนที่เหลืออีกหนึ่งในสาม ⸻ คณะผู้สังเกตการณ์—เสี่ยงล้มเหลว ในทางปฏิบัติ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวและของอาเซียนอาจตั้งได้ยาก เพราะไม่มีประสบการณ์และเคยล้มเหลวมาแล้วในปี 2554 คราวนี้ยังมีมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง และมาเลเซียก็ไม่ได้เป็นกลางเต็มร้อย แม้จะปรับท่าทีดีขึ้นจากการเจรจาหยุดยิงเมื่อ 28 กรกฎาคม “ภาพรวมกองกำลังของเราต้องสถาปนาความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง การรื้อลวดหนาม ขยับปรับเปลี่ยนอย่าให้เกิดขึ้น” ⸻ ถ้อยคำที่ตีความได้—ความเสี่ยงของสันติภาพ รศ.ดร.ปณิธาน ตั้งข้อสังเกตถึงคำแถลงของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่เหมือนการันตีให้ฝ่ายนโยบายกัมพูชาว่าไม่เกี่ยวกับการละเมิดหยุดยิง ซึ่งอาจถูกตีความและบิดเบือน “คำพูดแต่ละถ้อยคำมีความละเอียดอ่อน อันตรายมากกับการดำเนินการสันติภาพถาวรต่อไป” ⸻ ช่องว่างของเวลา–ข้อมูล–การบังคับใช้ เขามองว่าการกำหนดให้ประชุม RBC หลัง GBC ถึง 2 สัปดาห์ เป็นเวลาที่นานเกินไป เปิดช่องว่างให้สถานการณ์ผันผวน ขณะที่กัมพูชายังเผยแพร่ข่าวปลอมต่อเนื่อง แม้ข้อตกลงห้ามไว้ “สัญญาณในพื้นที่ในทิศทางที่ดีก็ยังไม่เกิดขึ้น กว่าสันติภาพจากการเจรจาจะเดินทางมาถึงพื้นที่คงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง” ⸻ ทุ่นระเบิด–กลยุทธ์ซื้อเวลา กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่ง รศ.ดร.ปณิธานมองว่าอาจเป็นแทคติก เพราะทำให้ไทยถอนกำลังยาก และจะวกกลับมาขอพิกัดในภายหลัง ส่วนปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ต้องรอถึงการประชุม JBC กัมพูชาไม่ตอบรับทั้งสองเรื่องนี้ คือการซื้อเวลา ⸻ อย่าเรียกร้องความจริงใจ—ต้องแข็งแรงด้วยตัวเอง “เราไม่ได้ได้เปรียบกัมพูชา การประชุม GBC ครั้งนี้มีแต่หลักการทั่วไป ไม่มีกลไกบังคับกัมพูชาที่ชัดเจน” เขาเสนอให้ไทยสถาปนาความเข้มแข็งทั้งชายแดนและในเวทีต่างประเทศ เพื่อ “ปิดล้อม” กัมพูชา พร้อมฟ้องในทุกระบบทั้งในและนอกประเทศ ⸻ ปรับสมดุลจีน–สหรัฐ และสงครามผสม จากท่าทีฮุน มาเนต ที่ปรับลดน้ำหนักจีนลงและเพิ่มบทบาทสหรัฐฯ อาจทำให้ภูมิภาคเปลี่ยน ไทยควรทำเช่นกัน—ร่วมมือกับจีนปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และร่วมมือทางทหารกับสหรัฐ เพราะสงครามยุคใหม่เชื่อมโยงนานาชาติ ทั้งกำลังบำรุง…
“เพียงใช้ชื่อเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าผลลัพธ์จะเหมือนกัน”— ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน เรียบเรียงจากเรื่องเล่าของ ศ.ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระหว่างเดินทางศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหาความยากจนของจีนที่เมืองยวี้ซี มณฑลยูนนาน (4–10 ส.ค. 2568) ⸻ ไทย–จีน ทำ “เกษตรแปลงใหญ่” เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกัน ศ.ดร. กนก เล่าว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายผลักดันให้เกษตรกรรายเล็กรวมแปลงการผลิต เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและลดต้นทุน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริง “คนที่ได้ประโยชน์กลับเป็นเพียงผู้รวมแปลงจากมาตรการรัฐ” ทว่าประสิทธิภาพการผลิตไม่ได้ดีขึ้น ต้นทุนไม่ลดลง และผลผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่คาดหวัง ตรงกันข้าม เกษตรแปลงใหญ่ของจีนเกิดจากการรวมพลังของเกษตรกรในหมู่บ้านอย่างแท้จริง เกษตรกรช่วยกันวางผังแปลงปลูก มีถนนคอนกรีตเข้าถึงทุกแปลง และคันคอนกรีตระหว่างแปลงที่เดินเข้าได้สะดวก ทุกครัวเรือนปลูกทั้งผักสวนครัวและข้าว โดยรัฐบาลเสริมแรงด้วยการรณรงค์เกษตรอินทรีย์ พร้อมสนับสนุนถังหมักปุ๋ยอินทรีย์ตั้งอยู่บนแปลงเลย ⸻ เหตุผลที่จีนทำได้ แต่ไทยยังไปไม่ถึง แม้จะมีชื่อเรียกเหมือนกัน แต่หัวใจของ “เกษตรแปลงใหญ่” ในสองประเทศต่างกันชัดเจน — จีนเริ่มจากความสมัครใจและเห็นคุณค่าร่วมกันของเกษตรกร ขณะที่ไทยขับเคลื่อนเพราะแรงจูงใจจากมาตรการรัฐ ซึ่งไม่ได้สร้างความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริง โดยมีการรณรงค์เกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง หมักปุ๋ยอินทรีย์ตั้งอยู่บนแปลง เพื่อให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้สะดวกและต่อเนื่อง “จีนทำเพราะเห็นประโยชน์ ไทยทำเพราะมีมาตรการรัฐที่ไม่ได้ทำให้เกิดประสิทธิภาพการผลิตจริง จบลงที่ความสามารถการแข่งขันของเกษตรแปลงใหญ่ของไทยไม่เกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นในจีน”—ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#กนกวงษ์ตระหง่าน#เกษตรแปลงใหญ่
ประชาชนทยอยกลับบ้าน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบ ชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นภาพที่ชาวจังหวัดสุรินทร์ในอำเภอที่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทยอยขนข้าวของกลับบ้านเรือนตนเอง โดยทางจังหวัดสุรินทร์ได้แจ้งทุกอำเภอ รวมทั้ง ผู้บริหาร/ผู้จัดการศูนย์พักพิง หลังหารือกับผู้เกี่ยวข้อง และประเมินสถานการณ์แล้ว จากข้อสรุปประชุม GBC และไม่มีเหตุการอะไรที่น่ากังวล อีกทั้ง มีข้อมูลจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่าหากให้จังหวัดตัดสินใจน่าจะให้ผู้พักพิงในศูนย์พักพิงชั่วคราว (ที่ไม่ใช่ ตำบลบักได และตำบลตาเมียง อ.พนมดงรัก) ทยอยเดินทางกลับได้ หลังรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว ส่วนตำบลบักได และตำบลตาเมียง ขอประเมินวันนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ประชาชนไม่มีรถกลับให้แจ้งประสานทาง ปภ. คาดว่าการกลับบ้านน่าจะใช้เวลา 1-3 วัน ให้จบภายในวันหยุดยาว เพื่อสามารถเปิดโรงเรียนได้ทันที ขอบคุณภาพจาก FB:ชุมชนคนสุรินทร์ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand
ในสงครามข่าวสาร… ความจริงคืออาวุธ แต่โฆษณาชวนเชื่อก็ยิงแรงไม่แพ้กัน วันนี้ “บุ๋ม ปนัดดา” สวมบทโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ปะทะตรง ๆ กับ “มาลี” โฆษกสายบิดจากกัมพูชา ศึกนี้เดิมพันคือภาพลักษณ์ประเทศ มีความจริงเป็นอาวุธ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #สงครามข่าวสาร #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand
เป็นผลพวงจากปฏิบัติการ “ZERO DRUG” 8 เดือน 8 ลุย ที่กรมการปกครองนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ เข้าตรวจค้นผับย่านรังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบนักท่องเที่ยวอายุต่ำกว่า 20 ปี และตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง 179 คน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกฯ เผยจะมีการย้าย 5 เสือ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ตามระเบียบของตำรวจหากพบการกระทำผิดในพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ โดยย้ายไปประจำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ส่วนของกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการแจ้งข่าวจากฝ่ายปกครองหรือไม่ หากไม่ใช่กระบวนการของกรมการปกครองก็จะต้องย้ายเช่นกัน เมื่อถามว่าถ้าเป็นการบูรณาการร่วมกันตามธรรมเนียมปฏิบัติตำรวจจะไม่ถูกเด้ง เรื่องนี้นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องจัดการตามระเบียบ เบื้องต้นทราบมาว่าจะย้าย 5 เสือและย้ายนายอำเภอในพื้นที่ เมื่อถามว่าจะให้นายอำเภอมาช่วยราชการที่กรมการปกครองหรือไม่ นายภูมิธรรมให้รอดูคำสั่งก่อน แต่ว่าเอามาประจำเพื่อแก้ปัญหาไปก่อน #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ZERODRUG #กรมการปกครอง #บุกจับผับเถื่อน #เด้ง5เสือสภประตูน้ำจุฬาฯ #เด้งนอภธัญบุรี
