Author: Writer Publisher

“เหนื่อยนะเมืองไทย… เพราะไม่รู้จะไปทางไหน” —ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการการค้าและอุตสาหกรรมไทย เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ⸻ แรงงานกัมพูชาทยอยกลับประเทศ กระทบอุตสาหกรรมใช้แรงงานเข้มข้น หลังสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาปะทุรุนแรง ธนิต โสรัตน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้แรงงานกัมพูชาในระบบกลับประเทศไปแล้วราว 20,000 คน จากทั้งหมด 500,000 คน คิดเป็นประมาณ 4% แม้ตัวเลขจะไม่มากเมื่อเทียบกับภาพรวม แต่ก็เพียงพอที่จะกระทบอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาหาร และแปรรูป แรงงานทดแทนจากเมียนมา ปากีสถาน ศรีลังกา และบังคลาเทศ ได้รับการเตรียมความพร้อมไว้บ้าง ขณะที่การต่อสัญญาแรงงานกัมพูชารอบล่าสุดจำนวนหนึ่งแสนคน ก็เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ “ไม่ใช่แค่แรงงานกัมพูชาถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับ แต่ภายในประเทศเราก็เริ่มมีปัญหาการกวดขัน ทัศนคติต่อแรงงานกัมพูชาก็ไม่ค่อยดี บาดแผลลึกที่เกิดขึ้นทำให้แรงงานเริ่มไม่อยากอยู่ แม้รายได้ที่กัมพูชากับไทยต่างกัน 50–60% และกลับไปก็อาจไม่มีงานทำด้วยซ้ำแต่พวกเขาก็ถูกบังคับจากรัฐขู่ถ้าไม่กลับจะยึดที่ดิน ยึดบ้าน ถอนสัญชาติ เขาก็ต้องกลับไป” —————- ฮุน เซนยังอยู่ = แรงงาน–การค้ากลับยาก ธนิตวิเคราะห์ว่าหากยังเป็นยุคของฮุน เซน แรงงานกัมพูชาคงทำงานในไทยยากขึ้น และแม้แต่การค้าขายระหว่างไทยกับกัมพูชาก็จะกลับมายากในช่วง 5–10 ปีนี้ เพราะ “ภาพจำของการโจมตีพลเรือนไทย การปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมาก” คือแผลลึกที่ทั้งสองฝ่ายยากจะลืม ——————- พึ่งแรงงานต่างชาติมากเกินไป ไทยควรปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ “ประเทศไทยพึ่งพาแรงงานต่างชาติมากถึง 4 ล้านคน มันมากเกินไปแล้ว เราต้องปฏิรูปเศรษฐกิจ ลดการใช้แรงงาน เพิ่มเทคโนโลยี ไม่อย่างนั้นก็ยังติดกับอุตสาหกรรมแบบเดิมที่คนไทยไม่ทำ ค่าแรงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ จีดีพีไทยเลยติดหล่ม” ธนิตสะท้อนว่ารัฐบาลไม่เคยคิดเรื่องการพัฒนาทั้งระบบ กระทรวงแรงงานก็เน้นแค่พัฒนาทักษะแรงงาน แต่ไม่สนใจพัฒนาฟากนายจ้างไปด้วย จึงถึงเวลาต้อง “ถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อมองไปข้างหน้า” แล้วเริ่มต้นปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ————— ภาษีทรัมป์–ชายแดนเดือด = ผลิตลด สะเทือนทั้งอุตสาหกรรม ผลกระทบจากสองด้าน ทั้งภาษีทรัมป์และปัญหาแรงงานชายแดน ทำให้อุตสาหกรรมไทยสะดุด ธนิตชี้ว่าช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา “กำลังผลิตลดลง” โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญ “ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่า ต้องเอาเทคโนโลยีมาเพิ่มนวัตกรรม แต่ที่ผ่านมาเป็นแค่แผ่นเสียงตกร่อง พูดซ้ำมาหลายปี ไม่ได้ลงมือทำจริง คนพูดก็เป็นอาจารย์ได้เงินค่าพูด…

Read More

เป็นข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินคดีจากกรณีที่กัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์รุกรานอธิปไตยของไทย จนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพลและทางราชการเป็นจำนวนมาก โดยมอบหมายให้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหน่วยงานหลัก เชิญเลขาธิการกฤษฎีการ่วมหารือกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และอื่นๆเพื่อดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ทั้งใน และระดับโลก รวมทั้งกฎหมาย อื่นๆ โดยเร็วที่สุด เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมทั้งเรียกร้อง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว รวมทั้งแจ้งให้ประชาชนผู้เสียหายทราบถึงสิทธิในการฟ้องร้องคดีอาญา และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้สั่งการด้วย สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาที่หยุดยิงแล้ว และมีการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ยังต้องเก็บกู้ วัตถุระเบิด ที่กองทัพกัมพูชายิงเข้ามา หลงเหลือในชุมชนและพื้นที่ของพลเรือน ขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ส่วนการพบ “โดรน”ที่บินเข้ามามากผิดปกติ และฝ่าฝืนข้อห้ามที่ทางการประกาศไว้ ให้เร่งดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดทันที พร้อมให้ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประเมินสถานการณ์ร่วมกับ ศบ.ทก. ของรัฐบาล และกองทัพ เพื่อให้ประชาชนทยอยให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย เรื่องนี้ทำให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่ทำหนังสือถึงรักษาการนายกฯ ได้ขอบคุณนายภูมิธรรมกับการดำเนินคดีกับ 2 พ่อ-ลูกตระกูลฮุนในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand

Read More

“การทิ้งร่างทหาร แสดงว่าไม่มีมนุษยธรรม ไม่เห็นชีวิตทหารกัมพูชาอยู่ในสายตา” — พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ในรายการ “เที่ยงเปรี้ยงปร้าง” ดำเนินรายการโดย “สมจิตต์ นวเครือสุนทร” ⸻ ศพไร้ชื่อกับรัฐบาลไร้มนุษยธรรม ภาพศพทหารกัมพูชาที่ถูกทิ้งตามแนวชายแดน—โดยไร้การจัดเก็บหรือเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์—คือสิ่งที่ทำให้ พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ถึงกับกล่าวอย่างหนักแน่นว่า “ไม่มีมนุษยธรรม” “สมัยผมรบเมื่อปี 51–52 ทหารกัมพูชาก็เสียชีวิต แต่เขาไม่เคยทิ้งศพไว้เลย เก็บกลับทุกนาย แต่ครั้งนี้ศพเยอะมาก หลายพื้นที่ อาจเก็บไม่ไหว หรือไม่มีแผนจัดการ ทิ้งไว้แบบนี้แสดงว่าเขาไม่เห็นชีวิตทหารในสายตา” ————- ไร้เสียงปืน-ระเบิด แต่ศึกยังไม่จบ แม้ชายแดนจะไร้เสียงปืนและระเบิดมาหลายวัน แต่พล.ท.กนกย้ำว่า “นี่ไม่ใช่สันติภาพ แต่มันคือการเตรียมการรบระลอกใหม่” เพราะกัมพูชากำลังเสริมกำลังในหลายจุด เช่น ช่องอานม้า ภูมะเขือ และมีสัญญาณการเตรียมโจมตีเพื่อตอบโต้ที่เสียหน้าจากการสูญเสียอย่างหนัก “กัมพูชาไม่เคยรบแค่ครั้งเดียว ปี 51–52 ปะทะกัน 2–3 ครั้ง ปี 54 ก็ยิงกันครั้งใหญ่สองรอบ ปีนี้ก็ยังไม่น่าจะจบ เพราะยังไม่มีผลแพ้ชนะชัดเจน และเขาไม่สนใจข้อตกลงหยุดยิงใด ๆ ด้วย หยุดยิงเขาไม่หยุดจริง ยังมุ่งรบกับเราต่อ เห็นได้จากที่มีการเสริมกำลังไม่หยุด” ————- โดรนรุกล้ำ–แผนสอดแนมลึกถึงชั้นใน อีกภัยคุกคามสำคัญที่ต้องจับตาคือ การใช้โดรนล้ำแดนเข้ามาสอดแนมพื้นที่ทางทหารในไทย ตั้งแต่แนวหน้าไปจนถึงสนามบินและหน่วยบัญชาการ “ปีที่แล้วจีนให้โดรนกัมพูชา 4,000 ลำ แต่บางคนก็บอกว่าแค่มาสาธิต เราต้องถามสถานทูตจีนให้ชัด ถ้าไม่ใช่จีนก็ถามรัสเซียต่อเลย รัฐบาลต้องเร่งตรวจสอบให้กระจ่าง” พล.ท.กนกเสนอให้ “ยิงสกัด” โดรนเหล่านี้ทันทีเพื่อเก็บซากมาพิสูจน์ต้นทาง พร้อมเตือนว่า หากกัมพูชาปรับยุทธศาสตร์โจมตีทางอากาศ พวกเขาอาจเตรียมอาวุธต่อต้านเครื่องบินของเราในการรบระลอกต่อไป “ตอนนี้เขาใช้โดรนแทรกซึมเข้ามาไกลถึงประจวบฯ ได้แล้ว นี่น่าตกใจมาก” ———— ฮุน เซน เปิดหน้าบัญชาการรบเอง หลังได้รับอำนาจจากกษัตริย์ให้สามารถปฏิบัติการทางทหารตามรัฐธรรมนูญ “ฮุน เซน” ได้ประกาศบัญชาการรบด้วยตนเอง “จากประสบการณ์ของผม ฮุน เซน เป็นคนสั่งรบตามอำเภอใจ จะจุดชนวนตรงไหนก็มักจะเกิดการปะทะทันที ตอนนี้เปิด 11 จุดแล้ว เริ่มที่ตาเมือนธม…

Read More

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดประชุมเพื่อพิจารณาสำนวนคำร้องกรณีสถานะความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ปมคลิปอังเคิล-หลานอิ๊งค์ ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ พิจารณาข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีส่งมาเพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นขั้นตอนตามกระบวนการพิจารณาคดี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว โดยหลังจากพิจารณาข้อมูลดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญจะจัดส่งเอกสารให้แก่กลุ่ม ส.ว. ผู้ยื่นคำร้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้ร้องพิจารณาว่าจะส่งข้อมูลหรือพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ ก่อนที่ศาลจะใช้ข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายประกอบการพิจารณาว่า • มีพยานหลักฐานเพียงพอในการวินิจฉัยหรือไม่ • หากยังไม่เพียงพอ จะดำเนินการขอข้อมูลเพิ่มเติมจากส่วนใดต่อไป หากศาลเห็นว่าข้อมูลเพียงพอแล้ว จะนัดวันอ่านคำวินิจฉัยต่อไป คดีดังกล่าวได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในปัจจุบัน #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รัฐบาลแพทองธาร #ศาลรัฐธรรมนูญ #แพทองธารชินวัตร #แคนดิเดตนายกฯ #ทักษิณชินวัตร #นายกฯคนนอก #คลิปเสียงสนทนาฮุนเซน #กระดานการเมือง

Read More

จากการรายงานข่าวและโซเชียลมีเดีย ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยกำลังวางแผนลอบสังหารประธานวุฒิสภาฮุนเซน และนายกรัฐมนตรีฮุนมาเนต โดยอ้างแหล่งข่าวกรองต่างประเทศนั้น เรื่องนี้นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว ซึ่งขาดการไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลโดยสิ้นเชิง และมีเจตนาเพียงเพื่อใส่ร้ายไทยเท่านั้น ทั้งนี้ ขอย้ำว่า การสร้างข่าวเท็จในขณะที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือ GBC นั้น ไม่สร้างสรรค์และยังเป็นการทำลายเจตนารมณ์ของการหารือเพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างสันติด้วย #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand

Read More

เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 4 สิงหาคม 2025 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า ทหารไทยพร้อมด้วยเครื่องจักรกลหนัก เช่น รถขุดดิน (รถแบ็คโฮ) ได้เคลื่อนพลเข้ารุกล้ำในพื้นที่อานม้า (อานเซะ) ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา และยังได้ทำการวางลวดหนาม แม้จะมีการห้ามปรามอย่างหนักจากกองกำลังของเราก็ตาม กองทัพกัมพูชาได้ประสานงานกับกองทัพไทย เพื่อให้กองทัพไทยรื้อถอนลวดหนามและถอนเครื่องจักรของตนออกจากดินแดนอธิปไตยของกัมพูชาโดยทันที อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ (5 สิงหาคม) กองทัพไทยยังไม่มีการรื้อถอนใดๆ และทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ระหว่างการหารือกัน #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand

Read More

รศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่ากรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามปลดล็อกพนัน Poker ให้เป็นกิจกรรมถูกกฎหมายเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 68 อ้างเพื่อจัดแข่งขันกีฬานานาชาติและเปิดเฉพาะราย-กรณีนั้น จากผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าผู้เล่นพนัน Poker ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง ทำให้ประชาชนไม่มีเงินเก็บ เป็นหนี้สินเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในด้านเศรษฐกิจ รศ.ดร.ชิดตะวันบอกการเล่น Poker ทำให้รายได้ของธุรกิจค้าปลีกลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในชุมชนที่ประชากรส่วนใหญ่ยากจน เนื่องจากมีการลดการใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ เพื่อนำมาเล่นพนัน ไม่นับรวมผลิตภาพของแรงงานที่ต่ำลง หนี้ครัวเรือนที่ทะยานสูงขึ้น จนกลายเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจในระดับมหภาค ปัญหาหนี้ครัวเรือน และการถดถอยทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจทวีความรุนแรง เช่นเดียวกับการทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรงตามไปด้วย ขณะเดียวกันนายภูมิธรรม อาศัยช่วงที่ประชาชนเผชิญปัญหาการถูกโจมตีกองกำลังกัมพูชา มีผู้บริสุทธิ์และทหารแนวหน้าล้มตายจำนวนมาก การลงนามให้ Poker ถูกกฎหมายในวันที่ 30 ก.ค.68 แม้จะอ้างว่าเป็นกรณีเพื่อเปิดทางให้แข่งขันกีฬานานาชาติ รศ.ดร.ชิดตะวันเห็นว่าอาจเข้าข่ายกระทำผิดประมวลจริธรรม ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน โดยไม่บิดเบือนหรือปิดบัง “ดังนั้น การไม่เปิดเผยข้อมูลอันควรต้องบอกแก่ประชาชนของนายภูมิธรรม จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ซึ่ง สส.-สว. เสนอคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย มีพฤติการณ์ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และ/หรือมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #โป๊กเกอร์พรางทัวร์ #ชิดตะวันชนะกุล #ศาลรัฐธรรมนูญ #ขัดจริยธรรมร้ายแรง #พนันแฝงท่องเที่ยว #ภูมิธรรมเวชยชัย

Read More

แม้รัฐบาลกัมพูชาจะยืนยันว่าไม่เกิดความสูญเสียร้ายแรง แต่ในสนามรบกลับเต็มไปด้วยร่างไร้ชื่อของทหารกัมพูชาที่ไม่มีแม้แต่การฝังกลบ หลายฝ่ายประเมินว่ากองทัพเขมรอาจสูญเสียทหารไม่ต่ำกว่าสามพันนายในช่วงเวลาแห่งการปะทะ — ขณะที่ยังไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ ไม่มีแม้แต่รายชื่อผู้เสียชีวิต มีแต่คนกัมพูชาเริ่มออกค้นหาญาติตัวเอง หลังรัฐบาลไม่ดูดำดูดี และยังขู่ใครประกาศตามหาจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ขณะที่กัมพูชายังควบคุมข้อมูลภายในประเทศและโหมโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นฝ่ายได้เปรียบ ความจริงในสนามรบกำลังบั่นทอนศรัทธาต่อระบอบฮุน เซน–ฮุน มาเนต อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพราะเสียงปืน แต่เพราะร่างไร้ชื่อที่ “พ่อ-ลูกตระกูลฮุน” ไม่กล้ายอมรับ #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#พ่อลูกตระกูลฮุน#ไม่เก็บศพทหารไม่เก็บศพทหาร

Read More

กองทัพบก และกระทรวงการต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้คณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานภูมิภาคคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross: ICRC) ประจำกรุงเทพฯ หน่วยงานด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่ดูแลเรื่องเกี่ยวกับเชลยศึกโดยตรง เข้าเยี่ยมเชลยศึกชาวกัมพูชา 18 นาย ณ สถานที่ควบคุมตัวในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 การเข้าเยี่ยมครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนปกติของ ICRC ไม่ได้ตรวจสอบตามข้อเรียกร้องของฝ่ายกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบสภาพความเป็นอยู่ของเชลยศึก และเป็นช่องทางติดต่อกับครอบครัว อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพและยึดมั่นของไทย ในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพันธกรณีตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ตลอดจนเน้นย้ำถึงความโปร่งใสในการดำเนินงาน การดูแลเชลยศึกด้วยศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ ตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง กองทัพบกเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ ICRC พบและพูดคุยกับเชลยศึกอย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา และไม่อนุญาตให้ทางคณะผู้แทนของฝ่ายไทยและสื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ ในระหว่างพบปะพูดคุยกับเชลยศึก อันแสดงถึงความโปร่งใสและความร่วมมือระหว่างฝ่ายไทยกับองค์กรมนุษยธรรมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการซ้อมทรมานหรือการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ตามที่มีการกล่าวอ้างไม่ตรงข้อเท็จจริงในบางสื่อฯ แต่อย่างใด พร้อมบรรยายสรุปให้แก่คณะ ICRC เกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ ที่นำไปสู่การควบคุมตัวกำลังพลฝ่ายกัมพูชาในฐานะเชลยศึก ตลอดจนมาตรการด้านการดูแลการรักษาพยาบาล และการดำเนินการส่งตัวเชลยศึกที่ได้รับบาดเจ็บและมีอาการทางจิตเวชกลับประเทศ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สำหรับเชลยศึกกัมพูชาทั้ง 18 นาย กองทัพบกยืนยันว่าทุกนายมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ทั้งในด้านอาหารครบ 3 มื้อ สถานที่พักที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ ตลอดจนการดูแลจากแพทย์ประจำพื้นที่อย่างใกล้ชิด #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#icrc

Read More

โดยการประชุมของกองเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทย ได้หารือต่อเนื่องในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง กับฝ่ายกัมพูชา เพื่อได้ข้อตกลงหยุดยิงที่มีความยั่งยืน และสามารถรักษาความมั่นคงในพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนได้ ขณะที่พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เข้าประชุม ทาง VDO Conference เพื่อให้กำลังใจ และให้แนวทางต่อที่ประชุมให้ยึดกฎหมายประเทศไทย กฏหมายระหว่างประเทศ ผลประโยชน์ของชาติ และศักดิ์ศรีของประเทศไทยเป็นหลัก จากนั้นกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยก็เข้าร่วมประชุมกับฝ่ายกัมพูชาเป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นการประชุมลับเช่นเมื่อวานนี้ ขณะที่สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญ มีเพียงรายงานว่าฝ่ายกัมพูชาดัดแปลงที่มั่น และเพิ่มเติมกำลังเข้าทดแทนในพื้นที่หลัก รวมถึงตรวจพบโดรนในหลายพื้นที่ ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้จะพิจารณาขยายเงินเยียวยาเพิ่มเติมให้ประชาชน และทหารที่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#StopHunManet#WarCrimes#HumanRights#Scambodia#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#ประชุมGBC

Read More