- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
วันนี้ (23 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น.ตรวจพบทหารกัมพูชาทำการยิงปืนเล็กจำนวน 3 – 5 นัด เข้ามายังแนวลวดหนามป้องกันตนเองของฝ่ายไทย ในพื้นที่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้คาดว่าเป็นการยิง เพื่อยิงทดสอบปฏิกิริยาการโต้ตอบของฝ่ายไทย ทั้งนี้ฝ่ายไทยไม่ได้มีการยิงโต้ตอบ และยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่2#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม#ปกป้องชายแดน
เป็นการขอความร่วมมือจากหน่วยงาน และประชาชน หลังสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตรวจพบการปฏิบัติการทางทหารและการละเมิดมาตรการหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา จากการเพิ่มกำลัง การลักลอบใช้ทุ่นระเบิด การนำโดรนบินตรวจการณ์ และยั่วยุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยทหารเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ 1. การมอบสิ่งของและเยี่ยมกำลังพล ให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะมอบสิ่งของหรือเข้าเยี่ยมกำลังพล ให้ประสานงานกับหน่วยที่รับผิดชอบล่วงหน้า และดำเนินการเฉพาะในพื้นที่ที่หน่วยทหารกำหนดไว้เท่านั้น 2. การเดินทางเข้าพื้นที่ที่ตั้งหน่วยทหารตามแนวชายแดน ไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือบุคคลจากหน่วยงานภายนอกกองทัพบกเข้าไปประกอบกิจกรรมใด ๆ ในบริเวณแนวการวางกำลังของหน่วยทหาร หากมีความจำเป็นต้องเข้าพื้นที่ จะต้องได้รับการอนุมัติจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกก่อนเท่านั้น 3. การเผยแพร่ข้อมูลและภาพถ่ายการปฏิบัติการทางทหาร ขอความร่วมมืองดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลหรือภาพถ่ายที่อาจบ่งชี้ถึงการปฏิบัติการทางทหาร เช่น แผนที่ที่แสดงการวางกำลัง ภูมิประเทศสำคัญในพื้นที่ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของหน่วยทหาร กองทัพบกขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน และด้วยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน จะเป็นพลังสำคัญในการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กองทัพบก ในการปฏิบัติภารกิจพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยของชาติ ให้เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด มาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่ภาพการลงพื้นที่ของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และมีสื่อมวลชนนำแผนที่ พิกัดที่ตั้งทางทหารไทยที่เสี่ยงที่จะถูกจับพิกัดโจมตีและเป็นอันตรายกับกำลังพลด้วย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่2#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม#ปกป้องชายแดน
เป็นตอนหนึ่งในโอกาสที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยย้ำว่าถึงเกษียณอายุราชการ และไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารในอีกไม่กี่วันนี้ แต่จะยังคงช่วยงานของกองทัพแน่นอน และยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง จะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง ยอมรับว่ามีคนติดต่อให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ก็ไม่เอา มองไม่ยั่งยืน พล.ท.บุญสินระบุสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่กองทัพภาคที่ 1 บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กปจ.ชต.) ส่งผลต่อพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนประเทศเดียวกัน ต้องเป็นนโยบายเดียวกัน และมีข้อระมัดระวังร่วมกัน และการปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน รวมถึงรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขณะที่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ก็เป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ที่จะต้องดำเนินการต่อไป ส่วนประชาชนมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีเหตุปะทะรอบที่ 2 เรื่องนี้ พล.ท.บุญสินบอกเป็นเรื่องของสถานการณ์ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อปกป้องอธิปไตย และย้ำว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่2#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม#ปกป้องชายแดน
มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ โพสต์เตือนเรื่องนี้โดยบอกมีการถ่ายแผนที่ตั้งทางทหารไทยและเผยแพร่แบบไม่ Censor ความเสี่ยงของทหารในแนวหน้า จากความไม่รับผิดชอบของสื่อและผู้ถ่ายภาพ ภาพแรกคือภาพที่สื่อสารมวลชนช่องข่าวใหญ่ๆ ของไทยหลายช่อง โพสแบบไม่ censor ส่วนภาพที่ 2 และ 3 เป็นการซูมและครอปมาเป็นตัวอย่างว่ามันเห็นรายละเอียดขนาดไหน พร้อมกับเล่าว่าเป็นกรณีที่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ผบ.ทสส.ตรวจเยี่ยมทหารและ ตชด.บริเวณแนวรบสองแนว ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่ทหารที่ประจำการตามฐานปฏิบัติการต่างๆ เตรียมแผนผังเพื่อบรรยายสรุปให้ ผบ.ทสส. ได้ทราบสถานการณ์ มีการภาพถ่ายบรรยากาศในการบรรยายที่ ผบ.ทสส. ยืนคู่กับแผนที่การวางกำลังของทหารไทยในแนวรบที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่ผิดปรกติคือมีการเผยแพร่สู่สาธารณะโดยไม่มีการ Censor ภาพแผนที่! ในโพสต์บอกถึงภาพที่ออกมาจะไม่ชัด แต่มันชัดพอที่สามารถพิกัดจุด บก.ส่วนหลัง ซึ่งมีอย่างน้อยสามฐาน หรือแม้กระทั่งบริเวณที่คาดว่าจะเป็นฐานปืนใหญ่ที่คอยยิงสนับสนุน แล้วถ้าภาพนี้ไปอยู่ในมือทหารศัตรู ถึงจะไม่ชัดแต่สามารถนำไปวิเคราะห์และพิกัดจุดต่อได้เลย บางคนคิดว่ามีโดรนบินเข้ามาถ่ายภาพ มันรู้หมด ว่าฐานอยู่ตรงไหน แต่โดรนมีข้อจำกัดหากซ่อนพรางดีๆ โดรนก็ตรวจการยากเช่นกัน “เรากำลังทำอะไรกัน คนที่ถ่ายคือสื่อที่ถ่ายเองหรือทหาร? ถ่ายแล้วทำไมไม่ Censor ก่อนแพร่สู่สาธารณะทำไมไม่ Censor? รู้ไหมกำลังเอาชีวิตของทหารนับร้อยนับพันไปเสี่ยง ไหนจะจิตใจของครอบครัวของทหาร หรือแม้กระทั่งถ้ามีการสูญเสียไป แล้วพวกคุณจะรับผิดชอบอย่างไร ผมอยากถามสื่อสารมวลชนบ้านเราหน่อย?” ในโพสต์ยังตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไร เมื่อลบภาพยังทันไม่ หรือกองทัพมีแผนเสริมความแข็งแกร่งหรือย้ายฐานที่ตั้งใหม่ พร้อมกับขอว่าต่อไปอย่าได้โพสต์แผนที่แบบที่ไม่เบลออีก ขณะที่เพจ Army Military Force ที่เกาะติดสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ออกมาคอมเมนต์เรื่องนี้ว่า เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกเดือนก่อน มีการปล่อยเเผนที่ฐานทหารที่แนวหน้า จนต้องย้ายฐานกันวุ่นเลย นอกจากนี้ยังมีคอมเมนต์จำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่สื่อฯ ที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวโดยไม่เบลอที่ตั้งทางทหาร ขอบคุณ FB:Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ , Army Military Force #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #กองทัพภาคที่2 #รัฐบาลอนุทิน #พื้นที่อ้างสิทธิ #รุกล้ำอธิปไตยไทย #ปิดด่าน #กัมพูชาภัยคุกคาม #ปกป้องชายแดน
กองทัพไทย ชี้แจงและเปิดหลักฐานเพื่อพิสูจน์สถานะ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนตาม เนื่องจากแนวเขตแดนได้รับการรับรองจากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชาแล้ว พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ชี้แจงกรณีข้อพิพาทเรื่องหลักเขตแดนที่ 42 บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยืนยันว่าบ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) อยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนที่เกิดจากความแตกต่างของการลากเส้นตรงระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 การสำรวจแนวเขตแดนเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และได้รับการรับรองแล้วจากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ซึ่งหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908 ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าแนวเขตแดนเป็นเส้นตรงระหว่างหลักเขตแดนทั้งสอง #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่2#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม#ปกป้องชายแดน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ คือนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.การคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ร่วมหารือกับสมาคมธนาคารไทย ที่มีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย โดยหารือหัวข้อ “ฝ่าวิกฤต พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย ด้วยพลวัตใหม่” ที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่คัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาบริหารงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนน่าจะรู้จักกันดี หลังจากนำทีมไปที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพได้รับข้อมูลจากผู้ประกอบการที่เป็นประโยชน์มากๆ ทั้งนี้ปัจจุบันต้องอาศัยความผสมผสานระหว่างผู้ประกอบการกับมืออาชีพ ข้อมูลที่ได้รับสร้างประโยชน์ ให้กับตนและทีมงานทางเศรษฐกิจ ทั้งแนวทางและความห่วงใย ความเดือดร้อนที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ ทั้งภาคเกษตร การท่องเที่ยว ภาคบริการต่างๆ โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ใช้ทุกความสามารถที่มีก้าวไปเป็นศูนย์กลางของอาเซียน เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #สภาหอการค้าไทย #รัฐบาลอนุทิน #อนุทิน1 #พรรคภูมิใจไทย #ทีมเศรษฐกิจอนุทิน1 #สมาคมธนาคารไทย #ยุบสภาใน4เดือน #กระดานการเมือง
โดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นตัวแทนประชาชนที่ได้ร่วมบริจาคโครงการโดรนและแอนตี้โดรน ได้พบพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อส่งมอบระบบแอนตี้โดรนจำนวน 36 ระบบ เป็นจำนวนเงิน 77,040,000 บาท และแบตเตอรี่จำนวน 150 ก้อนเป็นจำนวนเงิน 3,771,750 บาท รวมมูลค่าในการส่งมอบรอบนี้ 80,811,750 บาท ทั้งนี้ระบบแอนตีัโดรนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการทั้งหมด และยังขาดอีก 63 ระบบ แต่ด้วยงบประมาณที่เหลืออยู่ประมาณ 10 ล้านบาท ทางมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินได้ปรึกษากับแม่ทัพภาคที่ 2 แล้ว จึงจะกลับมาเดินหน้าจัดหาโดรนพิเศษที่เป็นความลับทางราชการตามที่พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แจ้งความต้องการมาอย่างเร่งด่วน ในโอกาสนี้ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินขอ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้เพื่อรักษาชีวิตและเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทหารที่มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีโดยโดรนทิ้งระเบิดจากฝั่งตรงกันข้ามมากขึ้น และช่วยเสริมโดรนทางยุทธการให้มีความเข้มแข็งขึ้น พร้อมระบุหากท่านใดสนใจสามารถเข้าร่วมบริจาคโครงการเพื่อจัดซื้อแอนตี้โดรนไทย ให้กับกองทัพภาคที่ 2 ได้ที่บัญชีออมทรัพย์ มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 008-2-18199-9 (โปรดระวังมิจฉาชีพ ไม่มีสแกนคิวอาร์โค้ท หรือกดลิงค์บัญชีใดๆเด็ดขาด) โดยเงินทุกบาทของทุกท่านจะเปิดเผย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพจริงในการใช้งานเหมือนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา และเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประชาชนที่สนับสนุนกองทัพกองทัพในการปกป้องอธิปไตย และทำให้ทหารมีความปลอดภัย อย่างน่าภาคภูมิใจสืบไป ขอบคุณข่าว-ภาพ FB: ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #กองทัพภาคที่2 #รัฐบาลอนุทิน #พื้นที่อ้างสิทธิ #รุกล้ำอธิปไตยไทย #ปิดด่าน #กัมพูชาภัยคุกคาม #ปกป้องชายแดน
วันนี้ครบกำหนด 30 วัน เป็นเส้นตายในการยื่นอุทธรณ์คดี หลังศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่อัยการ เป็นโจทก์ฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ ม.112 และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงดูหมิ่นสถาบันฯ เป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด ชี้ขาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร เรื่องนี้ทำให้มีความเคลื่อนไหวจับตาการตัดสินใจของอัยการสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นนายสมชาย แสวงการ อดีตสว. ที่ระบุว่า คดี ม.112 อัยการสูงสุดมีหน้าที่ต้องอุทธรณ์เท่านั้น หากตัดตอนไม่อุทธรณ์หรือขยายเวลาเพื่ออุทธรณ์ ต้องรับผิดชอบและอาจถูกดำเนินคดีเสียเอง เช่นเดียวกับนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ก็เรียกร้องให้อัยการสูงสุดควรไปให้สุดทาง เพราะความผิดตาม ม.112 เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ไม่ควรให้ยุติแค่เพียงดังคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น สมควรอย่างยิ่งที่ต้องให้ศาลฎีกา เพื่อจะได้ทบทวนกระบวนการรับฟังพยาน และข้อกฎหมาย วางมาตรฐานทางกฎหมายหรือวินิจฉัยให้เป็นบรรทัดฐานแก่สังคม อีกทั้งคดีนี้อัยการเป็นผู้สั่งฟ้อง จึงควรเดินให้สุดทางเพื่อให้สังคมสบายใจ และไม่เกิดคำถามต่ออัยการสูงสุด ขณะที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรม ก็เตรียมนำมวลชนไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด ให้อุทธรณ์คำพิพากษา คดีความผิด ม.112 ของ ทักษิณ ชินวัตร ในเวลา 10 นาฬิกานี้ด้วย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#แพทองธาร#แพทองธารชินวัตร#ทักษิณ#ทักษิณชินวัตร#อสสฟ้อง112#สมชายแสวงการ#วรงค์เดชกิจวิกรม#คปท#กองทัพธรรม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเปิดด่านและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนกองทัพในการดูแลความมั่นคง โดยให้อำนาจทหารตัดสินใจอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันจะใช้การทูตและการเจรจาระดับรัฐต่อรัฐเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขของไทย “เราต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ต้องอยู่บนเงื่อนไขของไทยเท่านั้น เราไม่ยอมรับเงื่อนไขใด ๆ จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับข้อกำหนดของเรา ที่ผ่านมาแม้จะมีการคาดคะเนว่าผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ แต่ผมยืนยันว่าไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมทำเพื่อประเทศไทยเท่านั้น” สำหรับสถานการณ์ที่ยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นเรื่องของทหารที่จะตัดสินใจ ในการนำแผ่นดินทุกตารางนิ้วที่ถูกบุกรุกกลับมาเป็นของคนไทย รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ เช่นเดียวกับพื้นที่หนองหญ้าแก้วและหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งยังมีเหตุก่อกวนและใช้โล่มนุษย์จากฝั่งกัมพูชา นายอนุทินย้ำว่า ก่อนการเจรจาใด ๆ สิ่งเหล่านี้ต้องถูกถอนออกไปทั้งหมด จะไม่มีการพูดคุยในขณะที่อีกฝ่ายยังคงกดดันด้วยอาวุธหรือโล่มนุษย์ ด่านชายแดนจะยังคงปิดต่อไป และรัฐบาลอาจพิจารณาเพิ่มมาตรการควบคุมหากจำเป็น นายกรัฐมนตรีสรุปว่า จุดยืนของรัฐบาลชัดเจน คือ สนับสนุนกองทัพ ใช้การทูตคู่ขนาน และยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยไม่ยอมให้เงื่อนไขใด ๆ มาลดทอนสิทธิ์อธิปไตยของไทย #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#ผู้บัญชาการเหล่าทัพ#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย#ปิดด่าน#กัมพูชาภัยคุกคาม
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ประท้วงและคัดค้านไทย เกี่ยวกับเจตนาในการใช้กฎหมายกับพลเมืองกัมพูชาในหมู่บ้านโจกเจย และหมู่บ้านไปรจัน ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย โดยระบุว่าฝ่ายไทยมีสิทธิและหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลที่อยู่ในเขตดินแดนของไทย ซึ่งเป็นหลักการสากล และยืนยันว่าพื้นที่ที่ดำเนินการนั้นอยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย ไม่ใช่พื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ตามที่กัมพูชาพยายามบิดเบือน พลตรี วินธัยฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ในทางกลับกัน ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้ละเมิดหลักการสากลและข้อตกลงต่าง ๆ มาโดยตลอด ทั้งการใช้กำลังทหารรุกล้ำอธิปไตย การลักลอบวางทุ่นระเบิด และการสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ของไทย โดยที่ผ่านมาไทยได้ประท้วงการกระทำผิดตามบันทึกความเข้าใจ MOU 2000 ไปแล้วกว่า 500 ครั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #ผู้บัญชาการเหล่าทัพ #รัฐบาลอนุทิน #พื้นที่อ้างสิทธิ #รุกล้ำอธิปไตยไทย #ปิดด่าน #กัมพูชาภัยคุกคาม