- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “ประชาธิปัตย์ ผลัดใบอีกแล้ว” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-16 กันยายน 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเลือกผู้นำพรรคประชาธิปัตย์ที่ประชาชนต้องการในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยพบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.90 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองลงมา ร้อยละ 18.09 ระบุว่าเป็น นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 16.72 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ร้อยละ 9.24 ระบุว่า ใครก็ได้ในพรรคประชาธิปัตย์ นอกนั้นก็มีชื่อ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) นายกรณ์ จาติกวณิช นางวทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐานเป็นต้น และเมื่อถามถึงแนวโน้มที่ประชาชนจะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรคประชาธิปัตย์เลือกผู้นำตามที่ประชาชนแนะนำ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 37.58 ระบุว่า ไม่แน่ใจ รองลงมา ร้อยละ 35.75 ระบุว่า เลือกแน่นอน และร้อยละ 26.67 ระบุว่า ไม่เลือกแน่นอน ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ซึ่งตามข้อบังคับพรรคต้องมีโหวตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 250 คน และเสียงของ สส.และกรรมการบริหารพรรคปัจจุบันจะมีน้ำหนักมากกว่า โหวตเตอร์ที่เป็นอดีตหัวหน้า กรรมการบริหารพรรค สาขาพรรค ฯลฯ ทำให้โอกาสที่คนนอกหรือนายอภิสิทธิ์จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งไม่ง่าย หากขั้วอำนาจปัจจุบันไม่เห็นด้วย #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พรรคประชาธิปัตย์ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ #ขั้วอำนาจปัจจุบัน #นิด้าโพล
เป็นมติที่ประชุมคณะผู้บัญชาการทางทหาร (คบท.) ครั้งที่ 5 ประจำปีพ.ศ. 2568 ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และเสนาธิการทหาร พร้อมกับเชิญ คณะผู้บัญชาการทางทหารชุดใหม่เข้าร่วมประชุมด้วย โดยก่อนการประชุมพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมยืนไว้อาลัยทหาร 15 นาย และประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทยกัมพูชา ทั้งนี้ที่ประชุมได้หารือ 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1. การปิดจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเห็นชอบให้คงสภาพปัจจุบันในการปิดด่าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หรือกัมพูชาไม่เป็นภัยคุกคามต่อไทยอีกต่อไป 2. ปัจจุบันกัมพูชายังถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ จึงจัดทำรั้วชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีข้อสรุปสำหรับการสร้างรั้วชายแดน เห็นควรสร้างในพื้นที่เส้นเขตแดนที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้แล้ว สำหรับในพื้นที่ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จะใช้มาตรการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจอย่างต่อเนื่องรวมทั้งให้มีการสร้างเส้นทางยุทธวิธีตลอดแนว 3. การละเมิดอธิปไตยของไทย ให้ดำเนินการตามกฎการใช้กำลังสากล เมื่อการกระทำเข้าข่ายการกระทำที่เป็นปรปักษ์ หรือเจตนาที่เป็นปรปักษ์ โดยเฉพาะหากเป็นการสอดแนมหรือเตรียมโจมตี ซึ่งตามกฎการใช้กำลัง สามารถใช้เป็นเหตุเริ่มการป้องกันตนเองได้ โดยวางมาตรการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ทั้งนี้ ได้นำเสนอแนวทางการปฏิบัติไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #ผู้บัญชาการเหล่าทัพ #รัฐบาลอนุทิน #พื้นที่อ้างสิทธิ #รุกล้ำอธิปไตยไทย #ปิดด่าน #กัมพูชาภัยคุกคาม
เป็นภาพที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ถ่ายภาพร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน โดยในโพสต์ระบุว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมจำนวนมาก ที่เห็นว่าสามารถเข้าหาและพูดคุยกับทุกฝ่ายด้วยท่าทีอ่อนน้อม ประณีประนอม เพื่อเป้าหมายการบริหารประเทศ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #ถวายสัตย์ #รัฐบาลอนุทิน #อนุทิน1 #โปรดเกล้าฯ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #ยุบสภาใน4เดือน #แถลงนโยบายต่อรัฐสภา #กระดานการเมือง
หลังมีการเผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามโผที่คลอดออกมาก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยังมีทีมรัฐมนตรีคนนอก ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ หรือทีมกระทรวงกลาโหม ก็มีทั้งพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม และมีพลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็น รมช.กลาโหม ส่วนที่เรียกเสียงฮือฮาก็คือร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น ก็เป็นรองนายกฯ ควบเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย รวมถึงเครือข่ายบุรีรัมย์ก็มีเข้ามาครบครันทั้ง นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีรายงานว่า ครม.ชุดใหม่มีกำหนดเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในเย็นวันที่ 24 กันยายนนี้ โดยเวลา 14.00 น. นัดหมายให้ คณะรัฐมนตรีใหม่มาพร้อมเพรียงกันที่ตึกสันติไมตรี เพื่อทำการตรวจ ATK และถ่ายรูปเดี่ยวสำหรับติดบัตร และถ่ายภาพหมู่ ภายในตึกสันติไมตรี จากนั้น เวลา 16.00 น. ออกเดินทางจากตึกสันติไมตรีไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยรถตู้ที่ทางทำเนียบรัฐบาลจัดไว้ให้ จากนั้นก็จะกลับมาประชุม ครม.นัดพิเศษทันที เพื่อเตรียมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กันยายนเป็นลำดับต่อไป เพื่อเข้าปฏิบัติอย่างที่อย่างเป็นทางการ โดยช่วงอยู่ในขั้นตอนของการประสานงาน ไปยังประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระตามวันดังกล่าว และส่งร่างแถลงนโยบาย ให้ สส.และสว.ได้ศึกษารายละเอียดของร่างนโยบาย 3 วันก่อนตาม ระเบียบข้อบังคับการประชุม #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #ถวายสัตย์ #รัฐบาลอนุทิน #อนุทิน1 #โปรดเกล้าฯ #บุรีรัมย์คอนเนกชัน #ร่างทรงพ่อ #ยุบสภาใน4เดือน #แถลงนโยบายต่อรัฐสภา #กระดานการเมือง
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรัฐมนตรี และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งความประสงค์ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุในโพสต์ว่า เรียน ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง: ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป ขอแสดงความนับถือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #แกนนำประชาธิปัตย์ลาออก #คุณหญิงกัลยาโสภณพนิช #รัฐบาลอนุทิน #อนุทินชาญวีรกูล #พรรคประชาธิปัตย์ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นหนังสือถึงนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด ขอให้ถอนตัวจากการพิจารณาคดีหมายเลข ดำที่ ฟ 117/2567 หลังปรากฏคลิปเสียงที่ นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง แจ้งกับองค์คณะที่ 9 ว่า ได้รับคำสั่งจากประธานศาลปกครองสูงสุด (นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ) ให้ล้ม ยกเลิกมติขององค์คณะ ทั้งที่องค์คณะได้ประชุมลงมติและมีเสียงข้างมากแล้วว่าเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร กระทำต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ทั้งหมด ด้วยมติ 3 ต่อ 2 โดยถือเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายและแทรกแซงการพิจารณาคดีองค์คณะอย่างชัดเจน เป็นการกระทำที่จงใจที่จะล้มล้าง การเป็นอิสระของผู้พิพากษาขององค์คณะ เป็นการทำลายระบบคุณธรรมของศาลปกครองสูงสุดอันเป็นที่พึ่งของข้าราชการทั้งแผ่นดิน รวมถึงการตระบัดสัตย์คำสัตย์ปฏิญาณ ทรยศต่อหลักนิติธรรมของ ประเทศ พร้อมทั้งได้ยื่นหนังสือถึงนางสิริกาญจน์ พานพิทักษ์ ประธานแผนกคดีฯ คนใหม่ที่ประธานศาลปกครองสูงสุด (นายประสิทธิ์ มีลาภ) แต่งตั้งมาให้รับผิดชอบคดีแทน หลังพบว่า นางสิริกาญจน์ฯ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพนักงานอัยการรุ่นเดียวกัน ที่มีความสนิทคุ้นเคยกันอย่างดี เกรงว่าจะกระทบต่อการพิจารณาคดี ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ยังได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เพื่อดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมกับ นายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด และ ประธาน แผนกละเมิดฯ (นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง) และจะดำเนินคดีอาญาใน ความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกส่วนหนึ่ง #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #บิ๊กโจ๊ก #กิตติ์รัฐพันธุ์เพ็ชร์ #สุรเชษฐ์หักพาล #ร้องศาลปกครองสูงสุด #ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมหารือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค และนายสมดุลย์ อุตเจริญ สส. เชียงใหม่ พรรคประชาชน ที่ยื่นหนังสือต่อกรมการปกครองกรณีพบการเรียกรับผลประโยชน์จากการขอสถานะต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบ (มีใบถิ่นที่อยู่ถาวร) และการขอมีสัญชาติไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 หลังพบว่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีการเรียกรับเงินตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท สำหรับออกใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ถาวรให้กับผู้ที่อพยพอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน ฯ โดยอธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่าการขอลงรายการสัญชาติไทยและการขอสถานะบุคคล ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ยกเว้นค่าธรรมเนียมตามกฎหมายเท่านั้น หากตรวจสอบพบการเรียกรับผลประโยชน์ จะดำเนินการตามกฎหมายทันทีโดยไม่ละเว้น ทั้งนี้กรมการปกครองได้ติดตามกรณีที่ร้องเรียนแล้ว และส่งให้ส่วนปราบปรามการทุจริตลงไปในพื้นที่ และเร่งดำเนินการต่อไป ทั้งนี้การแอบอ้างหาผลประโยชน์ดำเนินการขอสัญชาติ กรมการปกครองเฝ้าระวังมาตลอด ทำให้มีข้าราชการถูกจับกุม ไล่ออก และปลดออกในทุกๆปี รวมถึงผู้นำท้องถิ่นก็ถูกดำเนินการทางอาญา ขณะที่นายวิโรจน์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พบประชาชนจำนวนมากถูกเรียกเงินหลักหมื่นบาท เพื่อทำบัตรประชาชนและขอสัญชาติ ทั้งที่ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 160 บาท และมติ ครม.ปรับปรุงขั้นตอนให้รวดเร็วสำหรับประชาชนกว่า 483,626 คน ที่มีสิทธิได้รับสัญชาติไทยอยู่แล้ว ทั้งนี้ 2 สส.ให้ข้อมูลว่า หากประชาชน 25% ของกลุ่มเป้าหมาย 483,626 คน ต้องจ่ายส่วยสัญชาติ คนละ 20,000 บาท จะมีมูลค่าการคอร์รัปชันสูงถึง 2,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าเคยเกิดกรณีลักษณะเดียวกันใน จ.ระนอง ที่เรียกเก็บเงินหลายหมื่นบาท แม้ผู้ยื่นขอพิสูจน์หลักฐานและตรวจ DNA ยืนยันว่าเป็นคนไทยโดยชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ผู้เสียหายเก็บหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย แชท คลิปเสียง หรือวิดีโอ แล้วส่งมายังเพจของ สส.สมดุลย์ เพื่อประสานกรมการปกครองดำเนินคดีเอาผิดผู้เกี่ยวข้องถึงที่สุด #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#กรมการปกครอง#ส่วยสัญชาติ#พรรคประชาชน#เรียกรับผลประโยชน์#เรียกเงินหมื่นทำบัตรปชช
เป็นปรากฎการณ์ทางการเมืองของพลพรรค และอดีตพลพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกันทั้งสิ้น โดยประเด็นแรกเกี่ยวกับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ หลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกด้วยอ้างปัญหาสุขภาพ ซึ่งมีการพูดถึงอดีตหัวหน้าพรรคอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นตัวเลือกกลับมากอบกู้พรรคอีกครั้ง ขณะที่หากวัดกันที่โหวตเตอร์ตามข้อบังคับพรรค ขั้วอำนาจปัจจุบันยังกุมทิศทางและกำหนดตัวบุคคลที่เป็นหัวหน้า และกรรมการบริหารพรรคได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรควันนี้ ก็มีมติให้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยเตรียมความพร้อมการจัดการองค์ประชุมของพรรค ไม่ต่ำกว่า 250 คน รวมทั้งพิจารณาเรื่องสถานที่ และจัดทำเอกสาร ให้ถูกต้องตามข้อบังคับพรรค และ พ.ร.ป. พรรคการเมือง โดยไม่ได้มีการพิจารณารายชื่อผู้สมัครหัวหน้าพรรค “ผมว่าเที่ยวนี้ไม่มีรอยร้าว มีแต่ที่จะช่วยสนับสนุนเพื่อให้พรรคเดินหน้าได้ เพราะเป็นบทเรียนของพรรคที่เกิดขึ้นมาแล้ว” นายประมวล กล่าวพร้อมยืนยันว่า การประชุม กก.บห. ในวันนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น และเชื่อว่าการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ก็จะเป็นไปอย่างราบรื่นเช่นกัน เพราะทุกคนรักพรรคและต้องการให้พรรคเดินหน้าต่อไป” นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ส่วนปัญหาภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เกิดปรากฎการณ์แตกตัวของกลุ่มก๊วนภายใน ล่าสุดเหล่าอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ยกกันมาสังกัดพรรคนี้ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ตอนนี้เคลื่อนไหวอีกแล้ว โดยกลุ่มพลังชุมพร ที่นำโดยนายจุมพล จุลใส หรือลูกหมี ก็เปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทยที่กำลังเป็นรัฐบาล ขณะที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ลาออกจากเลขาธิการพรรค ก็เตรียมนำ สส.อีกหลายคนโผบินออกไป มีคำถามถึงตัวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่นั่งเป็นหัวหน้าพรรคว่าจะทำอย่างไร ค่ำวันนี้ 1 ทุ่มตรงเขานัดหมายเปิดใจ ตอบทุกคำถามว่าถึงคราวพรรคแตกจริงหรือ? จะไปต่อหรือพอแค่นี้? #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#รวมไทยสร้างชาติ#พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค#รัฐบาลอนุทิน#อนุทินชาญวีรกูล#กลุ่มชุมพร#21สสรทสช#เอกนัฏพร้อมพันธุ์#พรรคภูมิใจไทย#พลังชุมพร #พรรคประชาธิปัตย์ #อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ #เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าแนวคิดสร้างรั้วชายแดน บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว มีความเห็นสองด้าน เพราะบางจุดมีคลองคั่น ทำให้เขตแดนอยู่กลางคลอง ถ้าสร้างรั้วบนตลิ่ง ฝ่ายไม่เห็นด้วยจะบอกว่าจะเสียสภาพการครอบครองระหว่างกลางคลอ จึงขอนำไปหารือรายละเอียดในการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.อีกครั้ง “พอเราทำอะไรลงไป อีกฝ่ายหนึ่งจะประท้วง จึงต้องทำในสิ่งที่สองฝ่ายตกลงร่วมกัน เรื่องนี้ต้องนำเข้าไป สภาความมั่นคงแห่งชาติก่อน เพราะเกี่ยวข้องกับอธิปไตย ดังนั้น เมื่อเราเป็นรัฐบาลก็ต้องระมัดระวัง” ทั้งนี้หลังรัฐบาลเข้าบริหารงานอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีการประชุมสมช. โดยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานทันที โดยพลเอกณัฐพลบอกที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด ปัญหาก็คือ ตอนนี้ยังไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเป็นทางการ ต้องรอคณะรัฐมนตรีเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน#กองทัพภาคที่1#รัฐบาลอนุทิน#พื้นที่อ้างสิทธิ#รุกล้ำอธิปไตยไทย
ศูนย์ปฏิบัติการ กองทัพภาคที่ 1 โดย พล.ต.สุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 แถลงเหตุการณ์บ้านหนอหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พร้อมเปิดคลิปหลักฐาน และประมวลเหตุการณ์ชุมนุมของชาวกัมพูชาที่บุกรื้อลวดหนามที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เมื่อวานนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจของกัมพูชา ซึ่งละเมิดกฎกติกาข้อตกลงที่ผ่านมาทั้งหมด รวมถึงเป็นการพิสูจน์ความจริงใจต่อการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ในพื้นที่อ้างสิทธิบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเป็นอธิปไตยของประเทศไทยอย่างชัดเจน โดยประณามผู้นำกัมพูชา ที่วางแผนปฏิบัติยั่วยุ โดยใช้มวลชน เด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ ก่อเหตุในพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่วางแนวลวดหนามป้องกันตน ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าผู้นำกัมพูชาปล่อยให้เกิดขึ้น และนำไปบิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นการทำร้ายชาวกัมพูชา ขณะที่ตำรวจ-ทหารกัมพูชาก็ร่วมผสมโรงด้วย ทั้งหมดเป็นการเล่นละครหลอกชาวโลก โดยที่ทางกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ จังหวัดสระแก้ว ใช้ความอดทนตลอดเวลา ซึ่งการกระทำของกัมพูชาไม่ใช่อารยะประเทศปฏิบัติต่อกัน ทั้งนี้ทางกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันเมื่อออกนอกกติกา ละเมิดข้อตกลงร่วมกัน จากนี้ก็จะไม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีต่อเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงอีกแล้ว โดยจะดำเนินการทุกอย่างตามลำดับขั้นตอน ปฏิบัติเบาไปหาหนัก ยกระดับมาตรการเข้ม ไม่ยอมให้ยั่วยุ ละเมิดอธิปไตยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จับกุม ดำเนินคดีฝั่งไทย ใช้กฎหมายสูงสุด “รถน้ำ รถคุมขัง แก๊สน้ำตาพร้อม จะดำเนินคดีต่อทุกคนที่รุกล้ำเข้ามา อย่างสุขุม รอบคอบ ฝากผู้นำ และประชาชนชาวกัมพูชาอย่ายั่วยุ เลิกยืนอยู่หลังผู้หญิง เด็กได้แล้ว” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #กองทัพภาคที่1 #รัฐบาลอนุทิน #พื้นที่อ้างสิทธิ #รุกล้ำอธิปไตยไทย