Author: Writer Publisher

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วันนี้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินนำรัฐมนตรีเศรษฐกิจ คือนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง พร้อมคณะฯ ร่วมวงหารือกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยบอกวันนี้มาพบและแนะนำรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้รู้จัก ซึ่งหลายคนก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังตั้งใจรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย เพื่อรัฐบาลจะนำไปพิจารณาแนวทางเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ พร้อมกันนี้นายอนุทินได้แนะนำผู้มาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพิ่ม หลังได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว คือนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง ซึ่งเป็นผู้ที่นายเอกนิติ เชื่อในฝีมือการทำงาน คัดเลือกมาเองกับมือ และหลังจากมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินต่อไป #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #สภาหอการค้าไทย #รัฐบาลอนุทิน #อนุทิน1 #พรรคภูมิใจไทย #ทีมเศรษฐกิจอนุทิน1 #ทูลเกล้าฯครม #ยุบสภาใน4เดือน #กระดานการเมือง

Read More

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต รมว.วัฒนธรรม และอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เรื่อง “ขอได้รับการคารวะ” โดยระบุ พรุ่งนี้ ศาลฎีกาจะพิพากษาคดีที่คุณอัญชะลี ไพรีรัก กับพวก ชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์ NBT เมื่อปี 2551 ในกลุ่มผู้ถูกดำเนินคดีชุดนี้ รู้จักกับคุณอัญชะลี และ คุณยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที นอกนั้นไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เขาบอกว่าทั้งคุณอัญชะลี และ คุณยุทธิยง เป็นคนดี ท่านเหล่านี้ ฝากบ้านฝากเมืองได้ ท่านเหล่านี้ หากฝากบ้านไว้กับเขาสัก 2-3 คืน แล้วเจ้าของบ้านลืมปิดตู้เซฟ รับรองเงินจะไม่หาย แถมท่านเหล่านี้จะทำความสะอาดห้องพระ และถวายน้ำพระให้เสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อบ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง คนเหล่านี้ ยอมรับกติกาของกฎเมือง ไม่หนีไปไหน นี่คือความยิ่งใหญ่ของหัวใจที่เราก็เทียบเขาไม่ได้ บางคนมีคำถามในหัวใจว่า คนที่จงรักภักดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน ทำไมต้องเอาคนเหล่านี้ไปจองจำ แล้วสิ่งที่เขาทำมันชั่วร้ายขนาดที่หากเขาอยู่ข้างนอกมันอันตรายต่อบ้านเมืองหรือ นายนิพิฏฐ์บอกว่า ช่วงนั้นประเทศเรามีผู้นำที่มีปัญหา ผู้มีน้ำใจกล้าหาญ จึงพยายามปรับปรุงให้บ้านเมืองเป็นถิ่นที่อยู่ที่เหมาะสม ส่วนผู้ทำให้บ้านเมืองเป็นถิ่นอันไม่เหมาะสม ก็เริ่มรับผลกรรมจากการกระทำแล้วตามที่เห็นกันอยู่ “แต่แน่นอนว่า การทำให้บ้านเมืองเข้ารูปเข้ารอย เป็นถิ่นอันเหมาะสม ก็อาจต้องละเมิดกฎแห่งเมือง เขาทำ เพราะใจเขาใหญ่กว่าเรา การตัดสินพรุ่งนี้ จะเป็นอย่างไร ขอทุกท่านได้รับการคารวะจากผม” ก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีนี้ให้จำคุก 1 ปี อัญชะลี และพวก ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ บุกสถานีโทรทัศน์ NBT ในปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงขับไล่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช โดยไม่รอลงอาญา และวันพรุ่งนี้จะเป็นการอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ขอบคุณภาพจาก FB:คปท. , นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ศาลฎีกา #คดีบุกNBT #อัญชะลีไพรีรัก #กลุ่มพันธมิตรฯ #นิพิฏฐ์อินทรสมบัติ

Read More

ลือสะพัดกันตั้งแต่เย็นวานนี้ว่า โผ ครม.อนุทิน 1 มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีบางคนอาจไม่ผ่าน และเป็นไปได้สูงว่าต้องเปลี่ยนตัว และเขย่าโผใหม่อีกครั้ง แต่ล่าสุดดูเหมือนทุกอย่างจะคลี่คลายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี รุดออกจากรัฐสภา ก่อนที่ช่วงค่ำข่าวลือดังกล่าวก็เงียบลง เมื่อมีรายงานว่าทุกอย่างเรียบร้อยลงตัวกับ ครม.ที่มีส่วนผสมระหว่างคนนอก โควตาพรรคการเมือง และบุรีรัมย์คอนเนกชัน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์การเมืองอย่างนายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มองว่าการจัดโผ ครม.มีปัญหาตั้งแต่ต้น โดยโพสต์ระบุ ลางดีหรือลางร้าย การนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ มีข่าวว่าตีกลับลงมาเนื่องจากมีปัญหาข้อขัดข้องเกี่ยวกับคุณสมบัติรัฐมนตรี ทำให้นายกรัฐมนตรี ต้องจัดโผคณะรัฐมนตรี ใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 68 มาถึงวันนี้เกิน 10 วันแล้ว ก็ยังตั้งคณะรัฐมนตรีไม่ได้ ทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ยิ่งมีปัญหามากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะ ตำแหน่งรองนายกและรัฐมนตรี ที่ใช้ระบบสืบทอดสันตติวงศ์ทางการเมือง ลูกเป็นแทนพ่อ เพราะพ่อขาดคุณสมบัติเป็นไม่ได้ ก็ส่งลูกแหง่ หรือทารกทางการเมือง มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีแทน โดยเป็นร่างทรงของพ่อที่ขาดคุณสมบัติ “อย่างนี้บ้านเมือง จะไปได้หรือ สงสารราษฎรกันบ้างเถอะ บ้านเมืองนี้ก็เป็นของราษฎรเหมือนกันไม่ใช่ของนักการเมืองที่ปู้ยี้ปู้ยำกันได้ตามใจชอบนะท่าน” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #ไพศาลพืชมงคล #รัฐบาลอนุทิน #อนุทิน1 #พรรคภูมิใจไทย #บุรีรัมย์คอนเนกชัน #ร่างทรงพ่อ #ยุบสภาใน4เดือน #โผครมสะดุด #กระดานการเมือง

Read More

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. และรองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์กรณีที่ชาวกัมพูชาก่อจลาจลในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างโจ่งแจ้ง ประเทศไทยจึงมีความชอบธรรมเต็มที่ ในการดำเนินมาตรการสลายการชุมนุม โดยใช้แนวทาง “จากเบาไปหาหนัก” ตามคู่มือของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ว่าด้วยการใช้ “อาวุธที่ไม่ถึงตาย” (Guidance on Less-Lethal Weapons in Law Enforcement) เจ้าหน้าที่สามารถใช้กระบอง แก๊สน้ำตา กระสุนยาง หรือปืนฉีดน้ำแรงดันสูง ตามสัดส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ทันที ในกรณีนี้ จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อควบคุมฝูงชนและสลายการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต ผู้ก่อเหตุทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายไทยอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความผิดฐานลักลอบเข้าเมือง บุกรุก มั่วสุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง หรือการชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ไม่มีสิทธิยอมความได้ เพราะนี่คือการละเมิดอธิปไตยของประเทศไทยอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศต้องรีบสรุปสถานการณ์ และรายงานการบังคับใช้กฎหมายให้ คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน (ASEAN Interim Observation Team) รับทราบ เพื่อยืนยันชัดเจนว่ากัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และไทยได้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากล #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #บ้านหนองจาน #บ้านหนองหญ้าแก้ว #อันธพาลชายแดน #พรรคประชาชน #รัฐบาลอนุทิน

Read More

มีรายงานว่าในการประชุมวันนี้ กรมที่ดินรายงานต่อกระทรวงมหาดไทย กรณีแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ไม่เพิกถอนโฉนดที่ดิน บริเวณเขากระโดง กรมที่ดิน ขอสรุปประเด็นเพื่อชี้แจงดังนี้ 1. ตามคำพิพากษาศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์ ภาค 3 กรมที่ดินได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้ 1.1 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842 – 876/2560 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 สำนักงานที่ดิน จังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการยกเลิกคำขอออกโฉนดที่ดินของราษฎร จำนวน 35 ราย ที่ฟ้องคดี พร้อมทั้งจำหน่าย ส.ค. 1 ออกจากทะเบียนการครอบครองที่ดินแล้ว 1.2 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 อธิบดีกรมที่ดินได้มีคำสั่งให้แก้ไขรูปแผนที่และเนื้อที่ใน น.ส. 3 ข. เลขที่ 200 หมู่ที่ 9 ตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ (บางส่วน) ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แล้ว 1.3 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 ลงวันที่ 22 เมษายน 2563 สำนักงานที่ ดินจังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ รวม 3 ฉบับ ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 แล้ว ดังนั้น กรมที่ดินจึงได้ดำเนินการตามคำพิพากษาศาลทั้งสามคดีครบถ้วนแล้ว 2. ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2566 ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อดำเนินการกับที่ดินแปลงอื่น จำนวน 995 แปลง ที่อยู่ในบริเวณที่การรถไฟฯ อ้างสิทธิ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนฯตามคำพิพากษาดังกล่าวแล้ว คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ข้อเท็จจริงยังไม่ชัดเจนเป็นที่ยุติว่าที่ดินเป็นของการรถไฟฯ และการออกโฉนดที่ดินในพื้นที่เขากระโดงเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย จึงมีความเห็นไม่สมควรเพิกถอนโฉนดที่ดิน อธิบดีกรมที่ดินได้พิจารณาความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนฯแล้วเห็นชอบด้วย จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง…

Read More

อีสานโพล (E-Saan Poll) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “คนอีสานกับเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองช่วงสิงหากันยา 68” ซึ่งทำการสำรวจกว่า 1 พันตัวอย่างครอบคลุม 20 จังหวัดภาคอีสาน พบว่าคนในภาคอีสานส่วนใหญ่ เห็นด้วยต่อหลายประเด็นทางการเมืองที่กำลังเป็นกระแส โดยกรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี จากคดีคลิปเสียงเกินครึ่ง พอใจ-เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 27.2 เฉย ๆ ส่วนร้อยละ 21.2 ไม่พอใจ-ไม่เห็นด้วย ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคประชาชน เสนอเงื่อนไขยุบสภาภายใน 4 เดือน ทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และไม่ร่วมรัฐบาล ร้อยละ 46.1 ระบุเฉยๆ ร้อยละ 43.8 พอใจ-เห็นด้วย เช่นเดียวกับการโหวตเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็น นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 51.1 เฉยๆ ร้อยละ 30.3 พอใจ-เห็นด้วย ขณะที่คดี ทักษิณ ชินวัตร รับโทษจำคุก 1 ปี จากคดีชั้น 14 ระดับเฉยๆ กับเห็นด้วยเท่าๆ กันที่ร้อยละ 44 ส่วนการการแก้รัฐธรรมนูญ เปิดทางเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยประชาชน ร้อยละ 54.5 เห็นว่าควรแก้ ขณะที่ร้อยละ 35.3 ไม่เห็นด้วย สำหรับประเด็นไทย-กัมพูชานั้น คนอีสานเห็นควรยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 และ 2544 ถึงร้อยละ 61.0 ร้อยละ 18.5 ให้ศึกษาก่อน และร้อยละ 9.7 ไม่ควรยกเลิก ส่วนการสร้างกำแพงแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ร้อยละ 59.6 เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 24.8 เห็นว่าควรศึกษาให้รอบคอบ และร้อยละ 14.0 ไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา ร้อยละ 68.3…

Read More

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ขอให้พรรคเพื่อไทยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย กรณีลงนามข้อตกลงทางการเมือง ระหว่างทั้งสองพรรค หรือ MOA ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้มอบหมายใคร อาจมีสมาชิกบางส่วนติดต่อให้ลองดู แต่สิทธิ์ขาดยังอยู่ที่พรรคเพื่อไทยที่จะพิจารณา ว่าจะทบทวนหรือทำต่อหรือไม่ ไม่ใช่เอาร่างที่ยื่นมาให้ สส.เซ็นเลย นายชูศักดิ์บอกเมื่อรับคำร้องมาแล้ว ฝ่ายกฎหมายต้องดูว่าได้หรือไม่ แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นตรงกันว่า รอให้มีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ก่อน จึงจะตัดสินใจได้ว่าควรเดินอย่างไร พร้อมระบุพรรคไม่ได้คิดว่าจะทำลายล้างอะไรกัน เพราะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ ไม่ใช่ทำอะไรเพื่อยุบพรรคในตอนนี้ และยังไม่ได้อยู่ในความคิดของพรรค ขณะที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิจะยื่นคำร้องเช่นกัน โดยบอกไม่แน่ใจว่าพรรคเพื่อไทยใช้นายณัฐวุฒิ หรือว่าอาสาดำเนินการให้พรรคเพื่อไทย พร้อมรู้สึกแปลกใจที่ภายในพรรคเพื่อไทยมีมือกฎหมายฝีมือหลายคน แต่เลือกใช้นายณัฐวุฒิ นักกฎหมายนอกพรรค ซึ่งเป็นเรื่องน่าละอายใจ แทบต้องเอาปี๊บคุมหัวเดินกลางถนน “พอพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคประชาชนไม่สำเร็จ ทั้งที่โพรโมชันลดแลกแจกแถมล่อใจ แต่พรรคประชาชนไม่สนใจ พออกหักก็จะมาเล่นงานพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชนแทน เหมือนคนขี้แพ้ชวนตี ไม่เคยเห็นยุคไหนที่พรรคเพื่อไทยตกต่ำสุดๆ ขนาดนี้ เลือกตั้งครั้งหน้า สส.คงกระโดดออกจากคอกกันเกือบหมด จากที่เป็นพรรคที่เคยรุ่งเรืองยิ่งใหญ่ มีโอกาสกลายเป็นพรรคต่ำสิบ ไม่เชื่อคอยดูคำทำนายคนชื่อแรมโบ้ดูนะครับ” #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข้อตกลงทางการเมือง #MOA #เสกสกลอัตถาวงศ์ #ชูศักดิ์ศิรินิล #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #พรรคภูมิใจไทย #รัฐบาลอนุทิน

Read More

เป็นโพสต์ที่ “กัน จอมพลัง” นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ เขียนไว้ในเพจเฟซบุ๊ก กันจอมพลัง ช่วยสู้ โดยระบุว่า “ไฟเขียวมาแล้ว ผู้ใหญ่อนุมัติปราบจราจลเขมร ริมชายแดนบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว จะไล่จากเบาไปหาหนัก หน้าแนวยืนยันกระสุนยาง แก๊สน้ำตาพร้อม หลังจากนี้สู้สุดครับ นอกจากนี้ในคอมเมนต์ กัน ยังระบุว่ารถส้วมก็พร้อมครับอีกด้วย โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปคอมเมนต์จำนวนมากในทำนองสนับสนุนให้ทางการดำเนินการกับชาวกัมพูชาที่เข้ามารื้อรั้วลวดหนามบริเวณแนวชายแดนหมู่บ้านทั้งสองแห่ง ก่อนหน้าโพสต์นี้ นายกัน ยังระบุว่าได้คุยกับเจ้าหน้าที่แนวหน้า หนองหญ้าแก้ว หนองจานหลายคนอึดอัด เขมรบุกมารื้อรั้วอยู่บ่อยครั้งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ไม่อยากทำอะไร อยากทำมาก แต่ต้องการไฟเขียวจากผู้ใหญ่ อยากรู้ว่าจะทำได้ประมาณไหน นอกจากยืนอยู่เฉยๆ ให้เขมรรังแกและหยามศักดิ์ศรี “จึงขอเป็นกระบอกเสียงฝากข้อความถึงผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ขอฝากข้อความไปถึงท่านแม่ทัพภาคที่ 1 หรือท่านรัฐมนตรีกลาโหมฟังข้อความ และทำอะไรซักอย่างที เพราะคนไทยอดทนและรู้สึกถูกหยามเกียรติจากเขมรมามากแล้ว” #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#WarCrimes#HumanRights#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#กองทัพที่1#เก็บกู้ทุ่นระเบิด#ถอนอาวุธหนัก#บ้านหนองจาน#บ้านหนองหญ้าแก้ว#อันธพาลชายแดน

Read More

เป็น 2 ภาพบรรยากาศสุดชื่นมื่นสำหรับพรรคภูมิใจไทย ภาพแรกเช้าวันนี้เมื่อนายชุมพล จุลใส อดีต สส.ชุมพร พร้อมนาย สุพล จุลใส และ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมนายก อบจ.ในนาม “พลังชุมพร” สมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย และคณะที่ได้รับมอบหมายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรครอให้การต้อนรับ เป็นการแสดงเจตจำนงทำงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งสมัยหน้า และทำให้มั่นใจว่าจะมี สส.ในชุมพร เป็นครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย และพร้อมที่จะร่วมกันทำงานพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ให้แข็งแกร่ง เจริญเติบโต ภายใต้การนำของนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย เพื่อนำพาประเทศไปข้างหน้าอย่างมั่นคง นายจุมพลบอกด้วยว่า สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มาด้วยวันนี้ มาเพื่อให้กำลังใจก่อน แต่ทีมพลังชุมพรนั้นมากันร่วมกว่า 50 ชีวิต และเวลาไปไหนก็ไปกันยกทีม ขณะที่นายพิพัฒน์ บอกว่าได้รับมอบหมายจากพรรคให้พูดคุยกับนักการเมือง 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเข้ามาทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ร่วมกัน เขายอมรับว่าจะมีบิ๊กเนมการเมืองมาร่วมอีกหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา ส่วนพื้นที่ภาคใต้จะได้ สส.จำนวนเท่าไหร่ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนภาคใต้ตัดสินใจ ขณะที่อีกภาพหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ เมื่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่ง พร้อมกับนายจุมพล และแกนนำกลุ่มพลังชุมพร พบปะและร่วมรับประทานอาหารกับนายอนุทิน ชาญวีระกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ร้านอาหารย่านถนนพระราม 6 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่นและเป็นกันเอง ท่ามกลางกระแสข่าวนายเอกนัฏ จะนำสมาชิกในกลุ่มออกจากพรรค รทสช. เพื่อไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #รวมไทยสร้างชาติ #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #รัฐบาลอนุทิน #อนุทินชาญวีรกูล #กลุ่มชุมพร #21สสรทสช #เอกนัฏพร้อมพันธุ์ #พรรคภูมิใจไทย #พลังชุมพร

Read More

กองทัพภาคที่ 2 โพสต์เรื่องนี้โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 13 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา พล.ต.จัน โชะเพียะตรา ผู้บัญชาการกองกำลังทหารประจำจังหวัดพระวิหาร นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) เข้ามาตรวจสอบพื้นที่บริเวณช่องอานม้า (อนุสาวรีย์ตาอม) อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีแล้วเดินทางกลับ โดยแจ้งให้ฝ่ายไทยทราบล่วงหน้าเพียง 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้นำกำลังทหารกว่า 50 นาย พร้อมอาวุธปืนพกและอาวุธประจำกายประเภทปืนเล็กยาว เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงฯ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ 1. การพกพาอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธประจำกายประเภทป็นเล็กยาวเข้ามา อันเป็นการละเมิดข้อ 4 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่กำหนดชัดเจนว่า “ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด งดกิจกรรมทางทหารที่ล่วงล้ำเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน” 2. การใช้บุคคลที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง พล.จ.ดาโต๊ะ ปาห์ลาวัลย์ อัสรี บิน ชูคอร์ (Maj.Gen. Dato’ Pahlawan Asri bin Shukor) ผู้อำนวยการกองฝึกอบรม กองทัพบกมาเลเชีย เป็นหัวหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ IOT ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำกรุงพนมเปญ เป็นการละเมิดข้อ 12 ของข้อตกลงหยุดยิงฯ ที่ระบุให้การปฏิบัติหน้าที่ของ IOT เป็นไปโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียนที่ประจำการ ณ ประเทศไทยและกัมพูชาเท่านั้น จากพฤติการณ์ทั้งหมด เป็นหลักฐานชัดเจนที่สะท้อนถึงการขาดความจริงใจของกองทัพกัมพูชา ในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงฯ ตามที่ได้ร่วมลงนามไว้ทั้งในกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดหลักสันติวิธี แต่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการสร้าง สันติภาพที่ยั่งยืนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน…

Read More