- Original
- Urban Culture
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Brief
- Thai Treasure
- Urban life
- On this day
- News
- Home
- Editir pick
- Good
- Persona
- Persona
- Urban
- Business
- Politics
- Playlist
- Home
- People Voice
- Culture
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Urban Wealth
- Law
- Update
- I’m Youth Ranger
- Urban History
- Issues
- Check
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Author: Writer Publisher
พลตรีวันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์เปิดหน้า-ชื่อ ผบ.6 หน่วยในพื้นที่ของกัมพูชา ซึ่งเป็น 6 จุดที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด พร้อมข้อความระบุว่า เสธ.ทหารย้ำ /ทภ.2 รับลูกต่อทันทีเสฯ ธทหารลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดน โดยเฉพาะจุดที่ทหารไทยเหยียบระเบิด ทั้ง 6 จุด ในเมื่อเขมรลอบกัดหนังสือประท้วงไม่มีผล ตอบโต้ทันทีได้สัดส่วน เรารู้พิกัดทางทหารของกำลังเผชิญหน้าอยู่แล้ว พร้อมเปิดหน้า ผบ. หน่วยพื้นที่กำลังเผชิญหน้าของเขมร ทั้ง 6 จุดที่ทหารไทยเหยียบระเบิด มีตั้งแต่ครั้งที่ 1 เนิน 481 ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี วันที่ 16 ก.ค.68 คือ พัน.สสน.392 สน. โดยมี พ.ต. ชุน โซะพอน เป็น ผบ.พัน.ฯ หน่วยดำเนินการวางทุ่นระเบิด คือ หน่วย ช. นขต.พล.สสน.3 โดยมี พ.ท. ล า โซะเคน เป็น ผบ.พัน.ช. ได้รับคำสั่งให้วางแนวทุ่นระเบิดตามช่องทางที่คาดว่าฝ่ายไทยจะเคลื่อนที่ผ่านเ ครั้งที่ 2 บริเวณใกล้เคียงกันเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 68 คือพัน ร.447 ทปจ.พระวิหาร โดยมี พ.ท. จวน เจิต เป็น ผบ.พันฯ ประจำพื้นที่ช่องอานม้า ครั้งที่ 3 บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ เมื่อ 28 ก.ค.68 บก.พัน.ร.444 (สน.) ทปจ.อุดรมีชัย มี ร.อ. กล วอน เป็น ผบ.พัน.ฯ แต่บาดเจ็บสาหัสจากการปะทะในวันเดียวกันที่ปราสาทตาควาย ครั้งที่ 4 รอยต่อโดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ เมื่อ 9 สิงหาคม คือ…
พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย – กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดเกาะกง กัมพูชา เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.68) ถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้กลไกทวิภาคี เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า “การปกป้องอธิปไตยของชาติต้องเป็นอันดับแรก ควบคู่ไปกับการดูแลปากท้องประชาชนและผู้ประกอบการในประเทศ” ผลการประชุม GBC มีประเด็นสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ การร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดภายใน 1 เดือน การปราบปราม อาชญากรรมออนไลน์ (Scammer) การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน เช่นบ้านหนองจาน และการผ่อนปรนการผ่านแดน การผ่อนปรนการผ่านแดน กระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า ยังไม่มีการเปิดด่านในขณะนี้ เป็นเพียงการหารือเชิงหลักการ หากดำเนินการในอนาคต จะผ่อนปรนเฉพาะรถขนส่งสินค้า ไม่ใช่บุคคล และต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องจำนวนเที่ยวหรือรายกรณี ขึ้นอยู่กับระดับความพร้อมและความตึงเครียดในพื้นที่ ที่แบ่งเป็น 3 โซนตามระดับความตึงเครียด โดยจะเริ่มนำร่องมาตรการผ่อนปรนในโซนที่ 3 หรือความตึงเครียดน้อย (กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด) ก่อน พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) กำหนดรายละเอียด เช่น ประเภทสินค้า เวลาผ่านแดน และจำนวนเที่ยวรถ โดยบูรณาการ กับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งหอการค้า กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งนี้พลเรือตรี สุรสันต์ฯ บอกสิ่งที่จะทำให้การเจรจาครั้งนี้เดินหน้าได้อย่างแท้จริง คือ ความจริงใจและการปฏิบัติตามข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชา หากไม่มีการปฏิบัติจริง ความร่วมมือที่ตกลงกันไว้ย่อมไม่เกิดผล และจะเป็นอุปสรรคต่อการคลี่คลายสถานการณ์ #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #ประชุมGBC #เก็บกู้ทุ่นระเบิด #ถอนอาวุธหนัก #บ้านหนองจาน #เปิดด่านชายแดน
พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ เรื่องแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคชี้แจงข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่มีต่อทุกพรรคการเมือง และรัฐบาลชุดใหม่ โดยนายจาตุรนต์บอกว่า พรรคเพื่อไทยต้องเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับวินิจฉัย และเพื่อให้มีทางออกที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ประชาชนมามีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไปในอนาคต พร้อมระบุพรรคยินดีและแสดงความตั้งใจว่าอยากให้มีความร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เพื่อที่จะช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในวงเล็บ 8 ซึ่งหมายความว่าจะให้มีการทำประชามติเมื่อร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นผ่านวาระที่ 3 ของรัฐสภาแล้ว เพื่อเปิดทางให้เกิดกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งนี้ยังไม่มีองค์กรใดแสดงความต้องการ หรือริเริ่มในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการจัดทำประชามติ จะเกิดขึ้นได้โดย 2 วิธีการคือจากการที่รัฐสภาลงมติให้ ครม.ดำเนินการ หรือ ครม.ริเริ่มเองก็ได้ ดังนั้นเมื่อศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าการจัดทำรัฐธรรมนูติครั้งที่ 1 กับครั้งที่ 2 สามารถรวมกันได้ จึงขึ้นอยู่การตัดสินใจของรัฐบาลค่อนข้างมากว่าจะทำอย่างไร “ดังนั้นพรรคเพื่อไทยอยากจะเชิญชวนว่าและเรียกร้องต่อพรรคการเมืองต่าง ๆ และรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศว่า น่าจะมาช่วยกันคิดหาทางว่าทำอย่างไร ให้การจะทำประชามติสองครั้งเกิดขึ้นภายในครั้งเดียวได้ ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาและไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ” นายจาตุรนต์ระบุ นายจาตุรนต์ยังเห็นมีความจำเป็นที่ทุกพรรคการเมืองเปิดวงหารือตั้งแต่เรื่องจะแก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มีข้อสรุปที่ดีที่จะเป็นที่ยอมรับของรัฐสภา รวมถึงหารือการจัดทำประชามติ 2 ครั้งภายในครั้งเดียว และต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลที่มีความตั้งใจจริงที่จะทำให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เกิดขึ้นอีกด้วย ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุพรรคเล็งยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ใหม่ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้อาจพิจารณาแนวทางการเลือก ส.ส.ร. ทางอ้อม โดยรัฐสภาแต่งตั้ง หลังศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้มีที่มาจากประชาชนโดยตรง #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ศาลรัฐธรรมนูญ #รัฐสภา #ทำประชามติ3ครั้ง #ไฟเขียวร่างรัฐธรรมนูญใหม่ #ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ #ทำประชามติ #พรรคประชาชน #พรรคภูมิใจไทย #รัฐบาลอนุทิน #พรรคเพื่อไทย #ชงเลือกสสร
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณีการเจรจา GBC ไทย -กัมพูชา มีประเด็นการเปิดด่าน ด้านจังหวัดจันทบุรี-ตราด ให้สินค้าจากประเทศที่ 3 ผ่านประเทศไทย เข้าไปกัมพูชาว่า การเจรจาครั้งนี้ เป็นไปตามกรอบการเจรจา และอยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลรักษาการ ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ขณะนี้ รัฐบาลใหม่ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้เข้าปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากยังไม่ได้ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ แต่ได้แจ้งให้ชี้แจงกับประชาชนว่า ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย พร้อมพิจารณาทบทวนทันที เมื่อรัฐบาลใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ นายสิริพงศ์ ยืนยันว่าแนวคิดการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และพรรคภูมิใจไทย คำนึงถึงผลประโยชน์ของคนไทย และประเทศไทย เป็นสำคัญ และไม่ได้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศที่ 3 ที่มากดดันอย่างแน่นอน “ขอยืนยันว่าการแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา ไทยต้องไม่เสียประโยชน์ และต้องสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ตามนโยบายท่านนายกรัฐมนตรี ที่ต้องใช้แนวทางสันติวิธี และไม่ยอมเสียดินแดนแม้ตารางเซนติเมตรเดียว” #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#WarCrimes#HumanRights#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#ประชุมGBC#เก็บกู้ทุ่นระเบิด#ถอนอาวุธหนัก#บ้านหนองจาน#เปิดด่านชายแดน
ถอดคำพูดของพลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ระหว่างที่นั่งสนทนากับนายทหารที่ร่วมคณะ รองผู้บังคับการกองกำลังสุรนารี และ ผบ.หน่วย บนยอดภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ถูกเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก กองบัญชาการกองทัพไทยเมื่อวานนี้ โดยพลเอกมนัสระบุ กัมพูชาเป็นฝ่ายเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์มาก่อน กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจ ต้องถอนกำลังกลับ ควรยืนอยู่บนกฎกติกาที่ตกลงร่วมกันได้ เพื่อมุ่งสู่การสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน “ถ้ากัมพูชาไม่ถอนกำลังกลับ ก็ไม่ควรพูดเรื่องเปิดด่าน ไม่มีประโยชน์” พล.อ.มนัสกล่าว ทั้งนี้พลเอก มนัสนำคณะ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ในเขตพื้นที่กองกำลังสุรนารี เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.68) เพื่อตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตย รวมถึงตรวจความก้าวหน้าการก่อสร้างเส้นทางผิวจราจรสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ในพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เรื่องเปิดด่าน จุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนนั้น พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่าเป็นหนึ่งใน 5 ข้อตกลง GBC ไทย-กัมพูชา แต่เป็นเฉพาะพื้นที่ไม่มีปัญหาความขัดแย้งคือจันทบุรี-ตราด และจะเปิดเฉพาะขนส่งสินค้าเท่านั้น หลังจากได้รับการร้องขอจากประเทศที่ 3 ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์ข้อความสั้นๆ ระบุว่า “นายกรัฐมนตรีมีจุดยืนไทย-กัมพูชาแบบไหน ก็จะเลือกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแบบนั้น” ทั้งนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามและเปิดตัวพลเอกณัฐพลเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ในรัฐบาล อนุทิน 1 #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#WarCrimes#HumanRights#ฮุนเซนอาชญากรสงคราม#hunsenwarcriminal#กัมพูชายิงก่อน#CambodiaOpenedFire#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#TruthFromThailand#รุกล้ำอธิปไตย#ประชุมGBC#เก็บกู้ทุ่นระเบิด#ถอนอาวุธหนัก#บ้านหนองจาน#เปิดด่านชายแดน
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูกับการลงนามข้อตกลงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวานนี้ เพราะ 1 ในข้อตกลงคือการเปิดด่านจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรน ในบางพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง เริ่มที่จังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และการขนส่งข้ามแดน และพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็เฉลยภายหลังว่า การพิจารณาเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.ตราด เหตุผลหลักไม่ได้มาจากข้อขัดแย้งของสองประเทศโดยตรง แต่เกิดจาก “แรงกดดัน” ของ ประเทศที่สาม ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ อย่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เช่น ญี่ปุ่น รวมถึงอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ที่ต้องส่งออกผ่านชายแดนไทย-กัมพูชาไปยังปลายทางประเทศกัมพูชา การประกาศเตรียมเปิดด่านเกิดกระแสคัดค้านจากหลายฝ่าย รวมถึงประชาชนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ปะทะกันอย่างภาคอีสาน โดยมองว่าการถอนอาวุธหนัก และเปิดด่านจะเป็นการช่วยให้กัมพูชาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และกลับมาทำร้ายคนไทยอีก ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ (พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เตือนไว้ว่า ถ้าต้องเปิดด่านเขมร ตามคำขอร้องของประเทศที่ 3 คือประเทศญี่ปุ่น จะเป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะถ้าเทียบกับกรณีนายกฯ แพทองธาร ยังไม่ได้รับปากหรือยอมปฏิบัติตามที่ เขมรต้องการเลยแม้แต่อย่างเดียว ก็ผิดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงจนต้องพ้นจากตำแหน่งแล้ว กรณีที่เปิดด่าน เพราะประโยชน์ของประเทศที่ 3 จึงหนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่า ก็คอยดูกันว่า จะว่าอย่างไร #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #WarCrimes #HumanRights #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand #รุกล้ำอธิปไตย #ประชุมGBC #เก็บกู้ทุ่นระเบิด #ถอนอาวุธหนัก #บ้านหนองจาน #เปิดด่านชายแดน
เป็นท่าทีของพรรคประชาชน ที่นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกระบวนการจัดทำประชามติ โดยอ้างศาลรัฐธรรมนูญให้การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องทําประชามติรอบแรกใน 2 ประเด็น คือ 1.1 เห็นด้วยหรือไม่ ว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ 1.2 เห็นด้วยหรือไม่ กับวิธีการและเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนรอบที่ 2 สอบถามประชาชนว่า เห็นด้วยหรือไม่ กับร่างรัฐธรรนมูญฉบับใหม่ นายณัฐพงษ์บอกพรรคประชาชน จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่ และ สส.ให้ดําเนินการคือ สส.แต่ละพรรคการเมืองยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว ไม่ควรเกินสัปดาห์หน้า เพื่อดําเนินการจัดทําประชามติรอบที่ 1 ได้ทัน พร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น จากการยุบสภาภายใน 4 เดือน หลัง ครม. ใหม่ เข้าปฏิบัติหน้าที่ และเมื่อ สส.พรรคประชาชน และ สส.พรรคเพื่อไทย ยื่นร่างและบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาแล้ว ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยควรรวบรวมเสียง สส.รัฐบาล ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 เข้าสู่รัฐสภาโดยเร็ว และควรมีเนื้อหาที่เป็นการเสนอให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งตามข้อตกลง หรือ MOA นอกจากนี้ สส.แต่ละพรรคควรร่วมกันผลักดันให้เปิดประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ในวาระที่ 1 ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยไม่จําเป็นต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา เพราะ จะเป็นจุดเริ่มต้นสําคัญที่จะทําให้เป้าหมายจัดทําประชามติรอบที่ 1 พร้อมกับการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นจากการยุบสภาภายใน 4 เดือนเป็นจริงได้ เมื่อถามว่า หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยกับการตีความของพรรคประชาชน ทั้งเรื่อง ส.ส.ร.และการจัดทำประชามติ จะทำอย่างไร นายณัฐพงษ์ บอกต้องรอพูดคุย กันก่อน โดยสำนึกของวิญญูชนสามารถเห็นได้ว่า พรรคภูมิใจไทยมีความจริงใจมากน้อยแค่ไหน ในการเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของข้อตกลง เพราะหากบิดพลิ้ว ก็พร้อมใช้ 143 เสียงล้มรัฐบาลทันที และกำกับทิศทางรัฐบาลให้เป็นไปตามข้อตกลงมากที่สุด #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #ศาลรัฐธรรมนูญ #รัฐสภา #ทำประชามติ3ครั้ง #ไฟเขียวร่างรัฐธรรมนูญใหม่ #ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่…
เป็นภาพทีมเศรษฐกิจรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเฟรม ถือว่าเป็นการเปิดตัว รมว.พาณิชย์ อย่างเป็นทางการอีกด้วย นายอนุทินบอกว่า การเชิญนางศุภจีเท่ากับมีมืออาชีพมาช่วยงานในด้านการพาณิชย์ อีคอมเมิร์ซ การค้าขาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายเอกนิติในฐานะรองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ โดยนางศุภจีเป็นนักบริหารมืออาชีพ ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นว่ามีความเสียสละยอมทิ้งเงินเดือนในฐานะกรรมการหลายบริษัท เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่เชิญมาทั้งหมดไม่มีประวัติด่างพร้อย มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ และยอมมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง “ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ท่านก็จะไม่ยอมมาทำอะไรที่ไม่ดีไม่งาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาดำรงตำแหน่งบริหารประเทศ ใครที่ได้ทำหน้าที่นี้ถือว่า นอกจากจะเป็นเกียรติยศแล้ว ก็ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก” ด้านนางศุภจี บอกระยะเวลาสั้นๆ ที่มีอยู่ถือเป็นความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศต้องเดินไปข้างหน้าไม่ว่าจะสั้นแค่ไหน ตนตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ความสามารถทั้งหมด ทุ่มเทในระยะเวลาสั้นๆ นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นเดียวกับนายเอกนิติ ที่ไม่กังวลเรื่องระยะเวลาที่จำกัด เพราะมั่นใจสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ ส่วนการปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่ง ก็บอกเตรียมพร้อมไว้แล้วเช่นกัน เพราะมีประสบการณ์ทำหน้าที่ในกระทรวงการคลังอยู่แล้ว ทั้งนี้รายชื่อ ครม.อนุทิน 1 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้รับรายชื่อหมดแล้ว และทันทีที่ได้รับรายชื่อหลังตรวจสอบเรียบร้อย นายอนุทินบอกจะสอบทานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #อนุทินชาญวีรกูล #จัดตั้งรัฐบาล #รัฐบาลอนุทิน #ภูมิใจไทย #พรรคภูมิใจไทย #พูดแล้วทำ #โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง #ยุบสภาใน4เดือน #รมตขาดคุณสมบัติ #ทีมเศรษฐกิจ #เอกนิติ #ศุภจีสุธรรมพันธุ์
นายคำนูญ สิทธิสมาน อดีต สว.นำภาพที่พรรคภูมิใจไทยโพสต์ลงในเพจเกี่ยวกับตัวว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ โดยระบุว่า “ปากคำประวัติศาสตร์ ! เนื้อหากล่าวถึง คำยืนยันอย่างหนักแน่นของว่าที่ รมว.พลังงาน ที่ถูกนำมาถ่ายทอดบนเพจของพรรคภูมิใจไทยนี้ เสมือนเป็นการยกเลิก MOU 2544 ในทางปฏิบัติ เพราะหลักการสำคัญของ MOU 2544 คือกำหนดให้เจรจาแบ่งเขต (เหนือเส้นละติจูด 11 องศาเหนือ) กับเจรจาแบ่งผลประโยชน์-ไม่แบ่งเขต (ใต้เส้น 11 องศาเหนือ) ไปพร้อมกันชนิดจะแบ่งแยกจากกันมิได้ คำประกาศนี้กำหนดให้ตกลงเรื่องเขตแดนให้ได้อย่างชัดเจนเสียก่อน และคำว่าอย่างชัดเจนก็ทำให้เข้าใจได้ว่าตลอดแนวเส้นประกาศสิทธิของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งเหนือและใต้เส้นละติจูด 11 องศาเหนือ นายคำนูญบอกว่า คำประกาศนี้ควรจะต้องอยู่ในนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาเร็ว ๆ นี้ ไม่ในด้านนโยบายพลังงาน ก็นโยบายแก้ปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือนควรจะต้องตัดสินใจดำเนินการกับ MOU 2544 ให้ชัดเจน มิเช่นนั้น รัฐบาลใหม่ในอนาคตก็อาจเปลี่ยนแปลงได้อีก #ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #กองทัพไทย #รัฐบาลอนุทิน #ผลประโยชน์ทางทะเล #รมวพลังงาน #เจรจาผลประโยชน์ทางทะเล #เส้นเขตแดนไทยกัมพูชา #mou43 #MOU44
ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ประชุมปรึกษาคดีสำคัญคือ กรณีประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรค 1 (2) ตามที่นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.เสนอญัตติให้รัฐสภามติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการทำประชามติ โดยประเด็นที่ 1 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 2 วินิจฉัยว่าภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติเห็นชอบว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ก่อน ทั้งนี้ การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติ หมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย โดยรัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่ไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง ส่วนประเด็นที่ 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 1 วินิจฉัยว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติ 3 ครั้งได้แก่ ครั้งที่ 1 ให้ประชาชนออกเสียงว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่ 2 ให้ออกเสียงว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร ครั้งที่ 3 ภายหลังรัฐสภาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ออกเสียงประชามติว่าเห็นชอบหรือไม่ ทั้งนี้การออกเสียงประชามติครั้งที่ 1-2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก จำนวน 6 คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนกดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย จำนวน 1 คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 2 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 3#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ศาลรัฐธรรมนูญ#รัฐสภา#ทำประชามติ3ครั้ง#ไฟเขียวร่างรัฐธรรมนูญใหม่#ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่#ทำประชามติ