เป็นข้อมูลจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. โดย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก.ด้านความมั่นคง ที่ระบุว่าไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดในทุกพื้นที่ แต่ยังพบว่าหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามข้อตกลง ฝ่ายกัมพูชายังใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนไทยต่อเนื่องในหลายจุด ถือว่าจงใจละเมิดข้อตกลง ซึ่งฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับตามกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อปกปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชน และยังพบว่ากัมพูชาใช้โบราณสถานเป็นโล่กำบัง ละเมิดพันธกรณีในการคุ้มครองทางวัฒนธรรมของสหประชาชาติ และอนุสัญญาของยูเนสโกอีกด้วย
สำหรับผลการปะทะจนถึง 6 นาฬิกาวันนี้ กองทัพไทยควบคุมได้ 11 พื้นที่คือ ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก โดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู พระวิหาร และพลาญยาว ส่วนผู้อพยพมี 188,729 คน พลเรือนเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน บาดเจ็บ 26 คน สถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 20 แห่ง ปิดบริการ 13 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง รพ.สต.ได้รับผลกระทบ 175 แห่ง
ทั้งนี้ทาง ศบ.ทก. เรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และโดยทันที และย้ำว่าการหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญกับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศได้ อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงอดทนรอ จนกว่าสถานการณ์จะสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ขณะนี้ยังมีความเปราะบาง
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#กัมพูชายิงก่อน#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#CambodiaOpenedFire#ทหารมีไว้ปกป้องอธิปไตย#TruthFromThailand#ละเมิดหยุดยิง#เจรจาหยุดยิง#กองทัพบก#อาชญากรสงคราม

