ก่อนถึงวันที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องตัดสินใจว่าจะเสนอชื่อใครเป็นผู้สมควรเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่เข้าคณะรัฐมนตรี แทน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ที่จะครบวาระ 30 กันยายนนี้
วันนี้ชื่อ ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส และ คุณวิทัย รัตนากร เป็น 2 ชื่อสุดท้ายที่โดดเด่น และมีคุณสมบัติพร้อม จะถูกเลือกนั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ ธปท.หรือแบงก์ชาติ ที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและสังคมไทยไทยในห้วงที่ต้องเผชิญกับความเปราะบาง
ดร.รุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส:
สายกลาง-มั่นคง-รอบคอบ
ดร.รุ่ง ลูกหม้อแบงก์ชาติ ที่มาพร้อมกับแนวคิด “มั่นคงแต่ยืดหยุ่น” ผู้เชื่อว่า ธปท. ไม่สามารถยึดเสถียรภาพโดยไม่คำนึงถึงการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง แต่ในยามวิกฤต เสถียรภาพยังคงมีความหมายอย่างมาก จึงย้ำถึงการมี “เบาะกันกระแทก” สำหรับประเทศไทย หากเกิดแรงสั่นสะเทือนจากตลาดการเงินโลก
ด้วยความโดดเด่น ที่เข้าใจเชิงลึกในระบบการเงิน การธนาคาร และการกำกับดูแลตามมาตรฐานสากล ดร.รุ่งจึงรักษาสมดุล ที่ไม่สุดโต่ง และไม่โอนอ่อนต่อแรงกดดันทางการเมือง มีมุมมองยืดหยุ่นต่อภาวะเศรษฐกิจโดยไม่ยึดติดตำรา แต่ยังคงรักษาเสถียรภาพเป็นหลัก พร้อมปรับสื่อสารกับภาครัฐลดโอกาสการปะทะทางนโยบาย
สำหรับกับประชาชนที่เป็นทุกข์กับภาระหนี้ ดร.รุ่งมองว่า “การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด” จึงผลักดันมาตรการช่วยเหลือที่ “จริงใจ และเป็นธรรม” เน้นปล่อยกู้ตามความสามารถลูกหนี้ หรือโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สำหรับลูกหนี้ที่พยายามจ่ายหนี้ โดยเชื่อว่าทางออกของปัญหาหนี้คือ “รายได้” ไม่ใช่แค่การพักหนี้
“นโยบายที่มั่นคงที่สุดในเวลาที่เปราะบางที่สุด”
มีการวิเคราะห์ว่าหากได้นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ ธปท. ในยุค ดร.รุ่งจะเห็นการปรับสมดุลระหว่างกรอบจารีตเดิม และการปรับตัวที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ การกระตุ้นเศรษฐกิจและการรักษาเสถียภาพทางการเงิน
วิทัย รัตนากร:
ผู้บริหารสายรุก มุ่งฟื้นเศรษฐกิจ ลดหนี้ประชาชน
คุณวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ผู้ที่โดดเด่น ในฐานะนักปฏิบัติ นักขับเคลื่อนนโยบายการเงิน และภาคธนาคาร สู่ฐานราก ที่วันนี้มาพร้อมกับแนวคิดเพิ่มบทบาทแบงก์ชาติจากที่ประสบความสำเร็จในการรักษาเสถียรภาพ และความแข็งแรงของระบบการเงิน มาดูแลการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะเขาเห็นว่าเมื่อเศรษฐกิจโต ประชาชนมีรายได้ หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีจะลดลง
หนึ่งในนั้นคือแนวคิด “การลดดอกเบี้ย” เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ผสมผสานกับผลิตภัณฑ์การเงินแบบคำนึงถึงสังคม มีกิจกรรมแก้หนี้เชิงโครงสร้าง และสร้างความร่วมมือระหว่างแบงก์ชาติ และธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้สอดคล้องกับดอกเบี้ยนโยบาย โดยเขานำร่องในธนาคารออมสิน ก่อนประสบความสำเร็จจากการดูแลประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง จนได้ชื่อว่าธนาคารเพื่อสังคม
“กล้าเปลี่ยนแปลง” และพร้อมทำทันที
การเดินหน้าลดดอกเบี้ย เร่งแก้หนี้ครัวเรือน และผลักดันให้แบงก์ชาติมีบทบาทกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง “วิทัย รัตนากร” หวังว่าจะเป็นการสร้างเสถียรภาพทางการเงินที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการเงิน และเศรษฐกิจสมัยใหม่
วิสัยทัศน์สู่การกำหนด ทิศทางเศรษฐกิจไทย
จากคู่ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ ธปท.ที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถทั้งคู่ในตอนนี้ จึงเหลือเพียงการเลือกแนวทางที่หนึ่ง ดร.รุ่ง กับธนาคารกลางที่เน้นความมั่นคงและรอบคอบ ปรับตัวอย่างยืดหยุ่นภายใต้กรอบเดิม กับคุณวิทัย ที่เสนอเพิ่มบทบาทแบงก์ชาติให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงรุกมากขึ้น โดยยังคงรักษาเสถียรภาพทางการเงินเช่นเดิม ผู้ที่มองปัญหาถึงฐานราก และลงมือทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยมีธนาคารพาณิชย์เป็นพันธมิตรสำคัญ
และไม่ว่าใครได้เป็นผู้ว่าฯ ย่อมจะผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศไทยในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้
คุณคิดว่าแนวทางใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน?
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ธปท#ผู้ว่าฯธปท#เศรษฐกิจไทย#สังคมไทย