เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่เวทีการชุมนุม “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตโฆษกพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย เริ่มต้นด้วยการฉายภาพแผนที่ประเทศไทยในอดีตก่อนสูญเสียดินแดน โดยย้ำว่าไทยเคย “เสียแผ่นดินมากกว่าที่เหลืออยู่”
ปลุกสำนึกรักษาอธิปไตย – “ดินแดนที่บรรพบุรุษแลกด้วยเลือด”
“หลังจากเราสูญเสียดินแดนไปถึง 15 ครั้ง พวกเราทุกคนต้องไม่ลืมว่า บรรพบุรุษได้พลีชีพเพื่อรักษาแผ่นดินนี้ไว้ วันนี้ภารกิจนั้นตกอยู่ที่เรา”
เขาเสนอว่า หากกัมพูชายังคงยืนยันจะนำข้อพิพาทขึ้นศาลโลก ไทยก็ควรใช้สิทธิทวงคืนพื้นที่สำคัญที่เคยเป็นของไทยกลับมา
“ถ้ากัมพูชาอยากขึ้นศาลโลก ผมเสนอให้ไทยขึ้นศาลโลกเพื่อทวงคืนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณกลับคืนมาให้คนไทยอีกครั้ง”
ไม่ต้องปักปัน แค่ปักหลัก – ขอให้ทหารยืนหยัดบนสันปันน้ำ
ปานเทพย้ำถึงหลักการทางภูมิศาสตร์ที่ไทยควรยึดถือในการป้องกันดินแดน ว่าควรใช้ “สันปันน้ำ” เป็นเกณฑ์สำคัญในการยืนยันเขตแดน และไม่จำเป็นต้องหลงกลทางการทูตที่ทำให้ไทยเสียเปรียบ
“อย่าให้ใครมาหลอกว่าต้องเอ็มโอยู ต้องเจบีซี ต้องปักปันเขตแดน เราไม่ต้องปักอะไรทั้งนั้น แค่ยึดสันปันน้ำไว้ ถ้าใครรุกขึ้นหน้าผาเมื่อไหร่ ไล่ไปอย่างเดียว!”
จี้ถอนตัวจากรัฐบาล-ยกเลิกข้อตกลงที่ทำไทยเสียเปรียบ
ปานเทพยังกล่าวเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวทันที หากรัฐบาลยังมีความเกี่ยวข้องหรือผลประโยชน์กับกัมพูชา พร้อมเสนอให้ยกเลิกข้อตกลงที่เขาเห็นว่าเป็นการลดทอนอธิปไตยของไทย
“คนที่จะมาเป็นรัฐบาลต้องไม่มีผลประโยชน์กับกัมพูชา พรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัวทันที และต้องยกเลิก MOU 43, 44 รวมถึง JC ปี 2544”
นอกจากนี้ เขายังเสนอให้รัฐบาลไทย “ปิดด่าน” ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา
“ปิดด่านที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำเหมือนเมียนมาร์ ทำให้เด็ดขาด”
#ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#แพทองธาร#รัฐบาลแพทองธาร#ม็อบ28มิย68#ปานเทพพัวพงษ์พันธุ์