11 มิ.ย. 2568 — ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ออกแถลงการณ์ตั้งคำถามต่อการใช้ บันทึกความเข้าใจ MOU 43 ในปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะบทบาทของรัฐในการยึดแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 มาเป็นกรอบของการปักปันเขตแดน แทนที่จะยึด เส้นสันปันน้ำ ตามอนุสัญญาสยามฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5
ม.ล.วัลย์วิภาระบุว่า
“MOU 43 ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย แม้แต่ในฐานะข้อตกลงระหว่างประเทศ… แต่นำมาใช้กระทบต่ออธิปไตยของชาติ”
⸻
ยก MOU 43 แทน “สันปันน้ำ” เท่ากับสละดินแดน?
• ประเทศไทยเคยถือเส้นสันปันน้ำเป็นหลักตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000
• แต่การยอมรับ MOU 43 กลายเป็นการให้ความชอบธรรมกับแผนที่ 1:200,000 ซึ่งบิดเบือนการใช้พื้นที่จริง
• สุดท้ายเกิดความสับสนเรื่องพื้นที่ “พิพาท”, “ทับซ้อน”, “No man’s land” ซึ่งไม่มีในข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์
ม.ล.วัลย์วิภาเตือนว่า
“การยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนแทนแผนที่ตามสันปันน้ำหรือสมัยต่อมาทำเป็นแผนที่ 1 ต่อ 5 หมื่น ถือเป็นการสลอะธิปไตยเหนือดินแดนหรือไม่”
⸻
ตั้งคำถามถึงกองทัพ–รัฐบาล
เธอเรียกร้องตรงไปยังรัฐบาล ทหารและกระทรวงการต่างประเทศว่า
“พวกคุณไม่รู้เลยหรือว่า MOU 43 กับแผนที่ 1:200,000 คือกับดัก… เป็นการปิดหูปิดตาประชาชนทั้งประเทศ”
พร้อมประกาศจับตา การประชุม JBC ที่พนมเปญในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ หากยังยึด MOU 43 และแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนหรือไม่? #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม#ไทยกัมพูชา#ชายแดนไทยกัมพูชา#รัฐบาลแพทองธาร#แพทองธาร#แพทองธารชินวัตร#ละเมิดอธิปไตย#กองทัพไทย#ช่องบก#กองทัพภาคที่2#กองกำลังสุรนารี#ปิดเปิดด่าน