นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีกรณีนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย ตามมติชี้มูลเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568
ป.ป.ช. ชี้มูลกรณี “ซื้อขายตำแหน่ง”
โดยนายศิริโชคอ้างถึงมติ ป.ป.ช. ที่ระบุว่านายณัฏฐ์ชนนกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 และฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีรับเงินจากบุคคลภายนอกกว่า 1.3 ล้านบาท เพื่อแลกกับการแต่งตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว เมื่อปี 2562 ซึ่งเข้าข่ายการ “ซื้อขายตำแหน่ง” อันเป็นภัยต่อระบบคุณธรรมและความไว้วางใจของประชาชน
ข้อสงสัยที่ขอให้ตรวจสอบ
นายศิริโชคได้ระบุข้อเท็จจริงและข้อสงสัยในหนังสือว่า
1. ภายหลังการชี้มูล ผู้ถูกร้องได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม พร้อมเอกสารที่อ้างว่าเป็น “สัญญาเงินกู้” ซึ่งจัดทำโดยครูใหญ่ของพรรคเดียวกัน
2. เอกสารดังกล่าวไม่ได้ยื่นต่อ ป.ป.ช. ตั้งแต่แรก และไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินประจำปี 2566 ทั้งที่อ้างว่าเป็นหนี้ตั้งแต่ปี 2562
3. มีข้อสงสัยว่าอาจเป็นการแก้ไขคำให้การเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิด
4. การกระทำทั้งหมดอาจเป็นความพยายามประวิงเวลาชะลอการส่งสำนวนคดีไปยังศาล เพื่อรักษาตำแหน่ง สส. ให้ครบวาระ
5. มีพยานบุคคลและคลิปเสียงในพื้นที่เขต 7 จ.สงขลา ระบุว่า “คดีนี้ไม่มีอะไร เดี๋ยวครูใหญ่จะจัดการให้เอง” ซึ่งอาจสะท้อนถึงการแทรกแซงกระบวนการขององค์กรอิสระ กระทบต่อความน่าเชื่อถือของ ป.ป.ช.
ข้อกฎหมายและข้อเรียกร้อง
นายศิริโชคระบุว่า หาก ป.ป.ช. ละเว้นหรือประวิงการปฏิบัติหน้าที่ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พร้อมเรียกร้องให้
1. เร่งรัดส่งสำนวนคดีไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยเร็วที่สุด เพื่อมิให้เกิดการประวิงโดยมิชอบ
2. ปฏิเสธเอกสารที่ไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย เช่น เอกสารที่จัดทำย้อนหลัง โดยไม่มีพยานหรือหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจนรองรับ
3. ตรวจสอบเจตนาการยื่นเอกสารเงินกู้ภายหลังการชี้มูล เพื่อพิจารณาว่ามีเจตนาแก้ไขคำให้การจากเดิมหรือไม่
ย้ำให้ ป.ป.ช. ดำเนินการโดยอิสระและกล้าหาญ
นายศิริโชคเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ดำเนินการโดยอิสระ กล้าหาญ และยึดมั่นในเจตนารมณ์ของกฎหมาย เพื่อปกป้องความยุติธรรม และรักษาศรัทธาของประชาชนต่อองค์กรอิสระ #ThePublisherTH#สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม