เป็นข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการดำเนินคดีจากกรณีที่กัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์รุกรานอธิปไตยของไทย จนเกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กำลังพลและทางราชการเป็นจำนวนมาก
โดยมอบหมายให้ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหน่วยงานหลัก เชิญเลขาธิการกฤษฎีการ่วมหารือกับหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และอื่นๆเพื่อดำเนินคดีกับผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ทั้งใน และระดับโลก รวมทั้งกฎหมาย อื่นๆ โดยเร็วที่สุด เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมทั้งเรียกร้อง ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว รวมทั้งแจ้งให้ประชาชนผู้เสียหายทราบถึงสิทธิในการฟ้องร้องคดีอาญา และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้สั่งการด้วย
สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชาที่หยุดยิงแล้ว และมีการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ยังต้องเก็บกู้ วัตถุระเบิด ที่กองทัพกัมพูชายิงเข้ามา หลงเหลือในชุมชนและพื้นที่ของพลเรือน ขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ส่วนการพบ “โดรน”ที่บินเข้ามามากผิดปกติ และฝ่าฝืนข้อห้ามที่ทางการประกาศไว้ ให้เร่งดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดทันที พร้อมให้ฝ่ายปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประเมินสถานการณ์ร่วมกับ ศบ.ทก. ของรัฐบาล และกองทัพ เพื่อให้ประชาชนทยอยให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย
เรื่องนี้ทำให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่ทำหนังสือถึงรักษาการนายกฯ ได้ขอบคุณนายภูมิธรรมกับการดำเนินคดีกับ 2 พ่อ-ลูกตระกูลฮุนในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #StopHunManet #WarCrimes #HumanRights #Scambodia #ฮุนเซนอาชญากรสงคราม #hunsenwarcriminal #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #TruthFromThailand

