
บทนำ
“วากเนอร์ กรุ๊ป” (Wagner Group) เป็นชื่อที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในบริบทของความขัดแย้งทางทหารในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กลุ่มดังกล่าวถูกจัดประเภทว่าเป็น “กลุ่มทหารรับจ้างเอกชน” ที่มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย แม้จะไม่ได้รับการรับรองสถานะทางกฎหมายในรัสเซียอย่างเป็นทางการก็ตาม
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์บทบาทของวากเนอร์ กรุ๊ป ต้นกำเนิด โครงสร้าง ความสัมพันธ์กับรัฐรัสเซีย และผลกระทบในระดับภูมิภาคและระดับโลก
1. จุดเริ่มต้นและโครงสร้างของวากเนอร์ กรุ๊ป
วากเนอร์ กรุ๊ป ถูกก่อตั้งขึ้นราวปี พ.ศ. 2557 (ค.ศ. 2014) โดยมีการระบุว่า นายดมีตรี อุตกิน (Dmitry Utkin) อดีตนายทหารกองกำลังพิเศษของรัสเซียเป็นผู้ก่อตั้งหลัก โดยใช้ชื่อ “วากเนอร์” ซึ่งเป็นชื่อรหัสเรียกขานของตนเอง โดยอ้างอิงถึงริชาร์ด วากเนอร์ คีตกวีเยอรมันในยุคศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับความนิยมในหมู่กลุ่มชาตินิยมขวาจัด
ต่อมา เยฟเกนี พริโกชิน (Yevgeny Prigozhin) นักธุรกิจชาวรัสเซียซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของกลุ่ม และถูกมองว่าเป็นผู้บริหารตัวจริงของวากเนอร์ แม้ในช่วงแรกจะปฏิเสธความเชื่อมโยงอย่างเป็นทางการก็ตาม
โครงสร้างภายในของวากเนอร์ กรุ๊ป มีลักษณะกึ่งทหารกึ่งเอกชน ใช้ระบบการรับสมัครแบบปิด และดำเนินกิจกรรมภายใต้ความลับสูง โดยกลุ่มนี้ไม่ได้ขึ้นตรงต่อกระทรวงกลาโหมรัสเซียอย่างเป็นทางการ แต่มีพฤติกรรมการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางทหารและนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลรัสเซีย

2. บทบาทในความขัดแย้งระดับนานาชาติ
นับตั้งแต่ปี 2557 วากเนอร์ กรุ๊ป ได้เข้าไปมีบทบาทในความขัดแย้งหลายแห่งทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศที่มีผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์หรือทรัพยากรสำคัญต่อรัสเซีย อาทิ
- ยูเครน: เข้าร่วมในปฏิบัติการยึดครองไครเมีย และมีส่วนในการสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภูมิภาคดอนบาส
- ซีเรีย: สนับสนุนรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด ทั้งในภารกิจทางทหารและการรักษาความมั่นคงในพื้นที่แหล่งน้ำมัน
- ลิเบีย มาลี และสาธารณรัฐแอฟริกากลาง: เข้าไปมีบทบาทในการสนับสนุนรัฐบาลหรือกลุ่มติดอาวุธที่ใกล้ชิดกับมอสโก โดยแลกเปลี่ยนกับสิทธิการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เหมืองทองคำและเพชร
ลักษณะการปฏิบัติการของวากเนอร์มักใช้กลยุทธ์แบบ “ปฏิเสธได้อย่างน่าเชื่อถือ” (Plausible Deniability) ซึ่งเปิดโอกาสให้รัฐบาลรัสเซียสามารถปฏิเสธความเกี่ยวข้องได้ หากเกิดเหตุการณ์ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือสิทธิมนุษยชน
3. ความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย
แม้จะไม่มีสถานะทางกฎหมายในระบบของรัฐบาลรัสเซีย แต่หลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์โดยตรงหรือทางอ้อมกับรัฐ อาทิ
- การใช้อุปกรณ์ทางทหารที่ผลิตในรัสเซีย
- การฝึกอบรมในฐานทัพของกองทัพรัสเซีย
- ความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างพริโกชินกับผู้นำระดับสูงของรัฐบาล
- การดำเนินงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางการทูตและทหารของเครมลิน
วากเนอร์จึงถูกมองว่าเป็น “แขนที่ไม่เป็นทางการ” ของรัฐรัสเซีย (Unofficial Arm of the Russian State) โดยสามารถดำเนินการในลักษณะที่รัฐสามารถควบคุมทิศทาง แต่ไม่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย
4. วิกฤตภายในและจุดเปลี่ยนหลังปี 2023
ในเดือนมิถุนายน 2566 เยฟเกนี พริโกชิน นำกำลังของวากเนอร์เคลื่อนขบวนเข้าประชิดกรุงมอสโก โดยอ้างถึงความไม่พอใจต่อกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ถือเป็นการ “ก่อกบฏภายใน” ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคปูติน แม้สุดท้ายการเผชิญหน้าจะสิ้นสุดลงโดยไม่มีเหตุปะทะรุนแรง แต่ก็ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภาพลักษณ์ของทั้งวากเนอร์และรัฐบาลรัสเซีย
ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 พริโกชินเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองภายใน แม้ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
นับจากนั้น รัฐบาลรัสเซียเริ่มกระบวนการผนวกกลุ่มทหารรับจ้างเข้าสู่ระบบราชการมากขึ้น โดยมีรายงานว่ากองกำลังบางส่วนของวากเนอร์ถูกรวมเข้ากับกองทัพอย่างเป็นทางการ หรือเปลี่ยนชื่อใหม่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
5. ข้อกังวลและผลกระทบต่อความมั่นคงโลก
การดำเนินงานของวากเนอร์ กรุ๊ป ได้ก่อให้เกิดข้อกังวลในหลายประการ อาทิ
- การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
- การบ่อนทำลายรัฐอธิปไตยของประเทศเป้าหมาย
- การแทรกแซงการเมืองผ่านกำลังทหารและข่าวสาร
- การสร้างระบบเศรษฐกิจนอกระบบผ่านการควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ
นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดแนวโน้มที่รัฐมหาอำนาจอาจหันมาใช้ “บริษัททหารเอกชน” เป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายโดยไม่ต้องรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ อันอาจนำไปสู่ความไม่มั่นคงในระดับภูมิภาคและโลก
บทสรุป
วากเนอร์ กรุ๊ป คือกรณีศึกษาสำคัญของการผสมผสานระหว่างอำนาจรัฐกับภาคเอกชนในบริบทของสงครามยุคใหม่ โดยเฉพาะในบริบทของการเมืองระหว่างประเทศแบบมหาอำนาจ การดำเนินการของกลุ่มนี้แม้จะมีลักษณะ “นอกระบบ” แต่มีผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อทั้งความมั่นคง ความยุติธรรม และเสถียรภาพระหว่างประเทศ
อนาคตของวากเนอร์อาจอยู่ภายใต้โครงสร้างใหม่ หรือชื่อใหม่ แต่ “แบบจำลองวากเนอร์” อาจยังคงดำรงอยู่ในฐานะกลไกของสงครามยุคใหม่ที่ใช้กำลังทหารโดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติของรัฐสภาหรือกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ประชาคมโลกต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #วากเนอร์กรุ๊ป #กลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย
#วากเนอร์รัสเซีย #สงครามยูเครน #ทหารรับจ้าง #เยฟเกนีพริโกชิน #กลุ่มวากเนอร์คือใคร #ข่าวรัสเซีย
#ความมั่นคงโลก #สงครามในเงามืด #กองทัพเงารัสเซีย