- Hero
- Original
- Writer
- About us
- คุยกับสส
- The Persona
- Interview
- Thai Treasure
- Homeland
- On this day
- News
- Home
- Editor Picks
- Goods
- Good Business
- Good Product
- Good Society
- Business
- Politics
- Lifestyle
- Home
- Technology
- นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
- Culture
- Social
- Enviroment
- Sport
Subscribe to Updates
Get the latest creative news from FooBar about art, design and business.
Browsing: News
เมื่อวันที่ 26 กันยายน เวลา 18.30 น. ที่โรงแรมแชงกรีล่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณประชาชนจีนประจำประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 73 ปี วันสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยและภริยาให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติซึ่งทยอยเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก .ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างชื่นมื่น บริเวณหน้างานมีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติจีนจัดวาง อาทิ “สีจิ้นผิงยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ”.สำหรับบุคคลจากแวดวงต่างๆ ที่เข้าร่วมงาน อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์, นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยคนที่ 1, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์, นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายขจิต ชัชวาณิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังมีทูตจากประเทศต่างๆเดินทางเข้าร่วมงานด้วย.ในงานดังกล่าว มีการเปิดคลิปวิดีโอกล่าวถึงความสำคัญของวันชาติจีนและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งจีนและไทยร่วมฟันฝ่า รวมถึงความร่วมมือต่างๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ เช่น การส่งสินค้าเกษตร และทางวัฒนธรรม ด้านการแลกเปลี่ยนนักเรียนนักศึกษา และการเรียนภาษาจีนในประเทศไทยที่มีอาสาสมัครชาวจีนมาสอนในประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือด้านกองทัพ ทั้ง 2 ประเทศที่ได้ซ้อมรบร่วมกันทั้งกองทัพเรือและกองทัพอากาศ เป็นต้น.จากนั้น นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวถึงวันครบรอบ 73 ปี แห่งการสถาปนา สาธารณรัฐประชาชนจีน ตอนหนึ่งว่า เนื่องด้วยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 งานฉลองวันชาติใน 2 ปีที่ผ่านมาจึงจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ คำอวยพรและความปรารถนาดีที่มีต่อกัน ระหว่างเพื่อนๆได้ส่งผ่านระบบเครือข่ายสารสนเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตามในที่สุดวันนี้ เราก็ได้มารวมตัวกันที่นี่ โดยเต็มไปด้วยความปิติยินดี.“ณ เวลานี้เราต้องขอบคุณรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยที่ได้มาพบในวันนี้ ภายหลังการปกป้องโควิด 19ได้สำเร็จ วันนี้เราได้จัดงานฉลองที่นี่ก็เป็นสัญลักษณ์ว่าเรากำลังก้าวข้ามผลกระทบจากโควิด19 และสามารถติดต่อไปมาหาสู่ได้ปกติ.ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา…
ชวนนักสร้างเกมมาสร้างเกมในฝัน ในโครงการ The Game maker โดย Terosoft ภายในงาน Thailand Game show 2022
เปลี่ยนเกมในฝันให้เป็นเกมจริง กับโครงการ The Game maker การประกวดพัฒนาและออกแบบเกม ที่เปิดรับผู้มีใจรักในการสร้างเกมเข้าร่วมโชว์ผลงานกับทาง Terosoft ในมหกรรมเกมสุดยิ่งใหญ่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง Thailand Game show 2022 และไปให้สุดยิ่งกว่าคือได้รับสิทธิ์ในการร่วมงานกับ Terosoft ในการพัฒนาเกมขึ้นสู่ web3 พร้อมการซัพพอร์ตจาก Terosoft ในการทำ Marketing และขยายโอกาสทางธุรกิจไปสู่ตลาดโลก คุณสมบัติและวิธีการสมัคร The Game maker โครงการออกแบบและพัฒนาเกม 1.สามารถสมัครได้ทุกเพศทุกวัย ทุกอาชีพ 2.สมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ https://forms.gle/jXw87B5Y5nCYcgHP8 3.ต้องสามารถส่งเอกสารนำเสนอ (Proposal) หรือ Pitch Deck ได้ (หากมีความสามารถในการพัฒนาเกม หรือมี Prototype จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ) 4.ผลงานที่ส่งเข้าแข่งขันต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ติดสัญญาใดๆ กับโครงการอื่น 5.ห้ามมิให้มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม 18+ , NSFW หรือผิดกฎหมายในผลงานที่ส่งเข้าแข่งขัน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 25 กันยายน 2565 การแข่งขันของ The Game maker นั้นจะถูกแบ่งเป็นทั้งหมด 3 รอบ 1.คัดเลือกรอบที่ 1 : 26-29 กันยายน คณะกรรมการจะคัดเลือกไอเดีย (Concept Screening) และแผนพัฒนาเกม (Game Development) จากทีมที่ส่งผลงานทั้งหมด คัดเหลือ 15 ทีม 2.คัดเลือกรอบที่ 2 : 3-4 ตุลาคม 2565 การแข่งขันในรูปแบบการนำเสนอคอนเซปต์ และ แผนพัฒนาเกม ณ บริษัท เทโรซอฟต์ แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด อาคาร Tipco Tower II *โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกในรอบนี้จะได้รับสิทธิ์ในการไปโชว์ผลงานที่งาน Thailand Game Show 2022 ร่วมกับ Terosoft…
เมื่อวันที่ 20 กันยายน หรือวันเยาวชนแห่งชาติ เพจ SEED Thailand ได้โพสต์ข้อความว่า. SEED Thailand มีเป้าหมายสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนรักบ้านเกิด กว่า 10,000 คน!โดยเรามุ่งสร้างโอกาสและให้พื้นที่กับเยาวชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย และผลักดันให้เยาวชนสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ พัฒนาท้องถิ่น และทำได้จริง! ด้วยจุดเด่นที่มุ่งเน้นการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว จึงจะทำให้เราเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งจากภายใน และพร้อมที่จะขยายเครือข่ายให้เข็มแข็ง และยิ่งใหญ่ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป . ให้สมกับสโลแกนของ SEED ที่ว่า “แตกหน่อพันธุ์ดีไม่มีที่สิ้นสุด”. สำหรับเครือข่ายเยาวชน SEED Thailand นั้นก่อตั้งโดยกันระหว่างมูลนิธินักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าเพื่อสังคมและวุฒิสภา ปัจจุบันขับเคลื่อนองค์กรโดยเยาวชนโดยมีผู้รับผิดชอบในแต่ละภูมิภาค สำหรับโครงการ SEED Thailand นั้น มีความมุ่งหวังว่าจะสามารถสร้างเครือข่ายเด็กและเยาวชนให้มีความเข้าใจ ต่อสถาบันหลักของชาติ อย่างถูกต้อง ซึ่งทางโครงการจะช่วยสนับสนุนในการสร้างพื้นที่ทํากิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นการพัฒนาองค์ความรู้ในการทําธุรกิจให้กับเยาวชน ตลอดจนการจัดหาเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดโครงการธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งมีเป้าหมายส่งเสริมให้เยาวชนสํานึกรักบ้านเกิด สามารถทำงานสร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำงานในเมืองหลวง โดยใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิตอลในปัจจุบันสร้างโอกาสใหม่ ๆ แก่ตนเองและเครือข่ายเยาวชนในพื้นที่.ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ดำเนินกิจกรรมได้มีเครือข่ายเยาวชนทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ SEED Project 4 ภาค , โครงการ Digital Alert ,โครงการ SEED มัธยม ,โครงการ Digital inside และ Train The Trainer.เนื่องในโอกาสวันเยาวชนแห่งชาติ เพจ SEED Thailand ตั้งเป้าไว้ว่าต้องการสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนรักบ้านเกิดกว่า 10,000 คน สำหรับท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.seed-thailand.com #ThePublisher #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #seedthailand #วันเยาวชน – – – – – – – – – – – – – – – -…
“ข้าพเจ้าขอประกาศต่อหน้าท่านว่าตลอดชีวิตไม่ว่าจะยาวหรือสั้น ข้าพเจ้าจะอุทิศให้กับการรับใช้พวกท่านและรับใช้ราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นของเราทุกคน” . เจ้าหญิงเอลิซาเบธ (พระยศในขณะนั้น) เป็นพระราชธิดาองค์แรกในเจ้าชายอัลเบิร์ต ดยุกแห่งยอร์ก (ภายหลังขึ้นเถลิงราชสมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6) ผู้เป็นพ่อ กับเอลิซาเบธ ดัชเชสแห่งยอร์ก (ภายหลังเป็น สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี) ผู้เป็นแม่ พระราชบิดาของพระองค์เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองในสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 กับสมเด็จพระราชินีแมรี ผู้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นครองราชย์ ภาพครั้นเมื่อเยาว์วัย . เจ้าหญิงเอลิซาเบธ ประสูติเมื่อ 21 เมษายน ค.ศ. 1926 หรือเมื่อ 96 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่พระองค์ยังไม่รู้ว่าวันหนึ่งตนเองจะกลายเป็น ‘สมเด็จพระราชินีนาถ’ พระประมุขของ 15 ประเทศ จาก 53 รัฐ เพราะในเวลานั้นเธอเป็นราชวงศ์ที่เติบโตในช่วงแรกรุ่นโดยปราศจากแรงกดดันจากการเป็นทายาทราชบัลลังก์กษัตริย์ แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันเมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 5 ซึ่งเป็น ‘ปู่’ ของเธอสิ้นพระชนม์ลงในปี ค.ศ. 1945 ทำให้ลำดับรัชทายาทต่อมาอย่าง ‘พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8’ (ผู้เป็นอา) ต้องขึ้นสู่บัลลังก์แทน แต่หากเรื่องราวดั่งนิยายได้เริ่มขึ้น… เมื่อพระองค์หลงรัก ‘วอลลิส ซิมป์สัน’ หญิงชาวอเมริกัน การจำต้องเลือกระหว่าง ‘มงกุฎพระราชา’ กับ ‘หัวใจ’ จึงกลายเป็นทางเลือก เพราะหากตามกฎมณเฑียรบาลแล้ว พระราชาจะไม่สามารถมีคู่ครองที่ไม่ใช้เชื้อพระวงศ์ได้ และในที่สุดพระองค์เลือกทำตามหัวใจด้วยการเลือกซิมป์สันและ ‘สละราชบัลลังก์’ . กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของราชวงศ์อังกฤษ เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พระเจ้าจอร์จที่ 6 ผู้เป็นพ่อของเธอได้สวมมงกุฎเป็นกษัตริย์และเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ ‘พระเจ้าจอร์จที่ 6’ ในปี ค.ศ. 1937 เธอเป็นกลายทายาทของมกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาจะเสด็จสวรรคต ในคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1952 ในขณะที่เวลานั้นเธอยังมีอายุเพียง 25 ปีจากการเข้าบรรเทานอนในคืนนั้น เจ้าหญิงเอลิซาเบธ อเล็กซานดรา แมรี แห่งยอร์ก เธอไม่รู้เลยว่าเมื่อตื่นขึ้นหน้าที่ของเธอจะถูกเรียกร้องในฐานะ ‘สมเด็จพระราชินีนาถง’ การเสด็จขึ้นครองราชย์ ใช้เวลากว่า 16 เดือนกว่าจะถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนั้นจัดขึ้นที่มหาวิหารเวสมินสเตอร์ เมื่อวันที่…
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความสำคัญว่า “มีการผลักดัน “พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ….” ที่ยึดหลักสากลในการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ได้เป็นผลสำเร็จและจะมีผลบังคับใช้หลังจากที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 240 วัน ซึ่งกฎหมายการปรับเป็นพินัยนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบการกำหนดโทษใหม่ ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ซึ่งตนเองได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษากฎหมายของต่างประเทศ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย อีกทั้งได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและการสัมมนารับข้อสังเกต จากหน่วยงานของรัฐ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางอีกด้วย” ทั้งนี้ สิ่งที่เป็นหัวใจของกฎหมายนี้คือ การรักษาความเป็นธรรมและเคารพศักดิ์ความเป็นมนุษย์ของทุกคน เปลี่ยนการลงโทษจากการทำผิดทางอาญาที่ไม่รุนแรง ไม่มีโทษถึงจำคุก ให้เป็นโทษปรับทางพินัยซึ่งเป็นผลดีหลายประการ เช่น ไม่ถูกบันทึกประวัติอาชญากรรม ไม่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือให้เสียประวัติ เสียชื่อเสียง กระทบต่อหน้าที่การงาน รับโทษปรับอย่างเดียว โดยไม่มีการกักขังระหว่างพิจารณาคดี ไม่ต้องเป็นภาระในการประกันตัว ค่าปรับสามารถผ่อนชำระได้ หรือเลือกทำงานบริการสังคมแทนก็ได้ ศาลอาจพิจารณาลดค่าปรับ หรือเพียงตักเตือนโดยไม่ต้องปรับได้ หากเป็นการทำผิดเพราะความยากจน โดยศาลจะคำนึงถึงพฤติกรรมการกระทำผิดและสถานะทางเศรษฐกิจด้วยเสมอ นอกจากนี้ ในภาพรวมของกระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายของประเทศ แก้ปัญหาคดีล้นศาล ดังนั้นเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้นับเป็นก้าวสำคัญของการปฏิรูปด้านกฎหมายของประเทศ ที่สะท้อนความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของรัฐบาลและรัฐสภา ที่มุ่งแก้ไขปัญหาพื้นฐานของพี่น้องประชาชน ให้ได้รับความเป็นธรรมสูงสุดและสร้างความเสมอภาคให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในสังคมไทย.ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้ 1. ไม่ถูกบันทึกประวัติอาชญากรรม ไม่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือให้เสียประวัติ เสียชื่อเสียง กระทบต่อหน้าที่การงาน2. รับโทษปรับอย่างเดียว โดยไม่มีการกักขังระหว่างพิจารณาคดี ไม่ต้องเป็นภาระในการประกันตัว3. ค่าปรับสามารถผ่อนชำระได้ หรือเลือกทำงานบริการสังคมแทนก็ได้4. ศาลอาจพิจารณาลดค่าปรับ หรือเพียงตักเตือนโดยไม่ต้องปรับได้ หากเป็นการทำผิดเพราะความยากจน โดยศาลจะคำนึงถึงพฤติกรรมการกระทำผิดและสถานะทางเศรษฐกิจด้วยเสมอ กรณีตัวอย่างความผิดเล็กน้อย ที่จะเปลี่ยนเป็น “โทษปรับทางพินัย” 1. ไม่แสดงใบขับขี่ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท2. สูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท3. จอดรถขายผลไม้ริมถนนสาธารณะ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท4. เสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในสถานศึกษา หรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท5. โฆษณาชี้ชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในการเล่นแชร์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท6. ใช้ยานยนต์บนทางหลวง หรือสะพาน โดยเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เสียค่าธรรมเนียม…
(เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565) – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4/2565 โดยที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของ EEC ในช่วง 4 ปีแรก (2561 – 2565) ซึ่งเกิดการเติบโตที่ดีครบทุกมิติ และเกิดผลประโยชน์ตรงถึงประชาชนทุกกลุ่ม ได้แก่.1) เกิดการอนุมัติงบลงทุนสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมาย 1.7 ล้านล้านบาทใน 5 ปีที่เป็นแผนแรกของEEC.2) สามารถดึงเทคโนโลยีใหม่ผ่านการลงทุน โดย 4 ปีที่ผ่านมา การอนุมัติการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 S-curve มีสัดส่วน 70% ของการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด และ 5 New S-Curve มีสัดส่วนการลงทุน 36% และเพิ่มขึ้นเป็น 49% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 นี้.3) สร้างระบบการพัฒนาบุคลากรตามความต้องการของตลาด (Demand Driven) แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่ทำงานกับนวัตกรรมใหม่ อบรมไปได้แล้ว 16,114 คน สิ้นปี 66 จะดำเนินการได้ 100,000 คน และ.4) ผลประโยชน์ตกถึงประชาชน และมีระบบดูแลอย่างยั่งยืน ได้แก่(1) ผลประโยชน์ทางตรง โครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ระบบสาธารณสุขทันสมัย สาธารณูปโภค (น้ำ ไฟฟ้า ขยะ) ทันสมัยเพียงพอ มีโอกาสมีงานทำ รายได้ดี(2) การพัฒนาตรงถึงประชาชน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต บูรณาการการลงทุนในชุมชน ผ่านแผนเกษตร แผนพัฒนาเชิงพื้นที่ Neo Pattaya-บ้านฉาง-บ้านอำเภอ-มาบตาพุด-ระยอง(3) โครงการลงถึงระดับชุมชน เกิดการมีส่วนร่วมทั้งพลังสตรีดูแลสิ่งแวดล้อม EECสแควร์ บัณฑิตอาสา เยาวชนต้นแบบ โครงการต้นแบบสวนภาษาอังกฤษ และจีน หลักสูตรEECกับการบริหาร อปท.(4) โครงการสินเชื่อพ่อค้า-แม่ขาย และ SMEs หลังสถานการณ์โควิด กับ…
‘พญาอินทรี’ บินโฉม ‘แดนมังกร’ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากลายเป็นความระทึกทางการทูตที่ทำให้ทั่วโลกจับตาถึงการเยือนไต้หวันของ ‘แนนซี่ เพโลซี่’ เธอมาไต้หวันทำไม? ทำไมสหรัฐ-ไต้หวัน-จีน…ถึงกลายเป็นทางสามแพร่งบนความขัดแย้งของการเมืองระหว่างประเทศ ? ‘พญาอินทรี’ บินโฉม ‘แดนมังกร’ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมากลายเป็นความระทึกทางการทูตที่ทำให้ทั่วโลกจับตาถึงการเยือนไต้หวันของ ‘แนนซี่ เพโลซี่’ เธอมาไต้หวันทำไม? ทำไมสหรัฐ-ไต้หวัน-จีน…ถึงกลายเป็นทางสามแพร่งบนความขัดแย้งของการเมืองระหว่างประเทศ?.นักเรียน ‘IR’ หรือที่มักรู้จักกันว่า ‘นักเรียนสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ’ ที่มักพบอยู่ในคณะรัฐศาสตร์ในมหา’ลัยต่าง ๆ สาขาที่คนมักพูดถึงว่าเรียนเพื่อไปเป็น ‘ทูต’ คงจะติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของเครื่องบิน C-40C รหัส SPAR19 ที่เริ่มบินขึ้นจากมาเลเซียเมื่อค่ำวานนี้ก่อนจะมีการบินโฉมเขตทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างสิทธิ์อธิปไตย จนผู้คนคาดการณ์ว่าการบินครั้งนี้เหมือนเป็นส่ง ‘สัญญะ’ ทางการทูตกับจีนจากทางสหรัฐฯ เพื่อเป็นการแสดงสัญญะที่พยายามบอกจีนว่าสหรัฐฯ เองก็ไม่ได้มีท่าทีจะคุกคามอธิปไตยเหนือดินแดนที่เป็นปัญหา เพราะหากเราติดตามข่าว คงพอจะรู้ว่าหากเรื่องนี้เกิดขึ้นประเทศที่จะได้รับความเสียหายที่สุด คือ ไต้หวันเอง.ด้านท่าทีจากปักกิ่งก็ร่อนแถลงการณ์ อ้างถึง “เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1978 จีนกับสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยทางสหรัฐฯ ยอมรับว่ารัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงรัฐบาลเดียวของประเทศจีน และรับรองจุดยืนของจีนซึ่งก็คือ มีแค่ประเทศจีนเดียว และไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน”.ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ราชวงศ์ซ่ง (ราวศตวรรษที่ 10) ดินแดนบนเกาะทางตะวันออกเคยเป็นอธิปไตยของจีนมาก่อน โดยมีหลักฐานเป็นการตั้งหน่วยงานบริหาราชการในเกาะไต้หวัน เพื่อบริหารและปกครอง ครั้งเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเกิดความขัดแย้งทางการเมืองในจีน จนกระทั่งเดือนตุลาคม ค.ศ. 1949 มีการตั้ง ‘รัฐบาลกลางแห่งสาธารณรัฐจีน’ กลุ่มอำนาจของก๊กมินตั๋งได้อพยพไปยังเกาะไต้หวันพร้อมตั้งรัฐบาลคู่ขนานขึ้น ก่อนที่สมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติได้ผ่านมติที่ 2758 เมื่อ ค.ศ. 1971 ขับไล่ผู้แทนทางการไต้หวันออกไป โดยมีการตกลงระหว่าง จีน-สหรัฐ ผ่านแถลงการณ์ร่วมด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยทางสหรัฐยอมรับว่า ‘รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐจีน’ บนจีนแผ่นดินใหญ่มีแค่ประเทศเดียว และดำเนินนโยบาย The One China policy ตลอดมา.ด้าน ‘แว่นตา’ อย่าง ‘ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ’ ที่มักจะถูกหยิบยกมาอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เป็นการเมืองโลก อาจมองผ่าน ‘สัจนิยม(Realism)’ แนวคิดที่มีพื้นฐานว่าด้วยการมอง ‘รัฐ’ (ประเทศ) เป็นเสมือนมนุษย์ อิจฉา กระหายอำนาจ ทนงในศักดิ์ศรี มีนักคิดที่สำคัญอย่าง Hans Morgenthau ที่พยายามอธิบายถึง ‘อำนาจของชาติ’ ที่เกี่ยวข้องกับ…
นั่งล้อมวงบนเถียงนา สงครามอยู่ตั้งยูเครน-รัสเซีย ชาวนาไทยมองไปเห็นคันนา เกี่ยวอะไรกับ “ข๋อย” ? ก่อนจะเข้าเรื่องเราต้องนั่งเครื่องบินไปเมืองฝรั่งอย่างยุโรปที่เขาอาจไม่ได้โช้ยข้าวเหนียวแกล้มกับข้าวแบบบ้านเรา แต่เป็น ‘ขนมปัง’ ที่ทำมาจาก ‘แป้งสาลี’ จากต้นข้าวสาลีในท้องทุ่งต่างกันคงเป็นที่ทุ่งนาเขาไม่ร้อนแบบท้องทุ่งไทย แน่นอนว่าเมื่อ ‘ขนมปัง’ ที่เสมือนข้าวสวยของคนยุโรป (หรือเกือบ ๆ ทั้งโลกยกเว้นเอเซีย) ต้องผลิตมาจากต้นข้าวสาลี ที่ปลูกได้ไม่กี่แห่ง ดินและน้ำ อากาศที่เหมาะสมจึงมีไม่กี่ที่ หนึ่งในนั้นคือ ‘รัสเซีย’ ที่ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ซูเปอร์สโตร์สินค้าโภคภัณฑ์’ ที่หลายคนไม่คาดคิดว่านอกจากจะเป็น ‘จ้าวพลังงาน’ อย่างน้ำมัน ก๊าซแล้ว สินค้าการเกษตรอันเป็นโภคภัณฑ์จำเป็นที่มนุษย์ทั้งโลกต้องมีอย่าง ‘ของกิน’ รัสเซียก็ครองไป อาจด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ เพาะปลูกได้เยอะมาก ตามข้อมูลขององค์การอาหารและการเกษตรแห้งสหประชาชาติ (FAO) รัสเซียมีการผลิตส่งออกธัญพืชกว่า 86 ล้านตัน รองพี่เบิ่มจากจีนและอินเดีย.ขณะที่คู่ขัดแย้งอย่างยูเครน ก็สวมบทบาทเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ ด้วยปริมาณ 18.1 ล้านตันต่อปี คิดเป็น 25.4% เมื่อทั้งสองรวมตัวกันส่งออกข้าวยามสงบ ครอง 1 ใน 4 ผลผลิตข้าวสาลีทั่วโลก เรียกได้ว่าเป็น ‘อู๋ข้าวอู๋น้ำ’ ของยุโรป แต่เมื่อโกดังของยุโรปสองแห่งถูกปิดจากสงครามที่ยืดเยื้อ แม้ 23 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา จะมีการทำสัญญาข้อตกลงการส่งออกธัญพืช หวังจะช่วยคลี่คลายวิกฤตอาหาร ที่ถึงแม้ไร้สงครามโลกของเราก็พูดคุยกันถึงเรื่องปากท้องในอนาคตด้วยประชาชนที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับพื้นที่ทางการเกษตรที่นับวันกลายเป็นป่าปูน.การที่เส้นทางของทั้ง 2 ประเทศถูกปิดจากทั้งทางบกและทางทะเล รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรต่าง ๆ ด้านยูเครนเองที่กว่า 90% ขนส่งข้าวสาลีทางทะเล พอท่าเรือในทะเลดำถูกบุกและปิดลง การพยายามส่งข้าวสาลีทางบกอย่างบนรถไฟก็เป็นเรื่องที่ยาก เนื่องจากขนาดรางของยูเครนดันกว้างกว่ารางที่จะเข้าไปยังใจกลางยุโรป.แนวโน้มดังกล่าวเองจึงการเลือกวัตถุดิบต้นทางที่สามารถผลิตเป็นแป้งได้ ผลพลอยได้จึงมาตกที่ข้าว และประเทศที่ผลิตข้าวอันดับต้น ๆ ของโลกอย่างไทยที่ราคาข้าว น้ำตาล มันปรับตัวสูงขึ้นจากความขาดแคลนในตลาด ทำให้เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาไทยสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 600,000-650,000 ตัน. ข้อมูลของกรมศุลกากร การส่งออกข้าวในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2565) มีปริมาณ 2,291,916 ตัน มูลค่า 39,445.8 ล้านบาท (1,203.3 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยปริมาณเพิ่มขึ้น 52.7%…
ไอเดียเจ๋ง! คนรุ่นใหม่หัวหิน ร่วมมือ กองทุนสื่อฯ เปิดตัว HUA HIN Smart Community แพลตฟอร์มการศึกษา เพื่อการ Upskill & Reskill เตรียมทักษะดิจิทัลช่วย สร้างรายได้ให้กับเยาวชน
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. เวทีราชดำเนินเผยแพร่โลโก้ใหม่ทีมีการออกแบบเป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ โดยมีข้อความระบุว่า‘ยินดีต้อนรับสู่ยุคสมัยใหม่ของเวทีราชดำเนิน พร้อมที่จะขับเคลื่อนวงการมวยไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล’สำหรับเวทีราชดำเนินนั้น ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เวทีราชดำเนินหลายเป็นเวทีมวยแห่งแรกของประเทศไทยที่ถูกก่อตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์คือ ‘ส่งเสริมและสนับสนุนกีฬามวยไทย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ บริษัท เวทีราชดำเนิน จำกัด ตั้งแต่ พ.ศ. 2496 เป็นต้นมา จนล่าสุด ได้ร่วมมือกับ บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งมี แบงค์-เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ เป็นประธานกรรมการบริหาร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ‘การพัฒนาและยกระดับวงการมวยไทยให้ไปสู่ระดับโลก’สำหรับการออกแบบโลโก้ใหม่ มาจากความต้องการที่จะสื่อสารไปให้ถึงระดับสากล นำคำว่า ‘เวทีราชดำเนิน’ ที่ใช้ในอดีต นำมาปรับเปลี่ยนใหม่จนเป็นโลโก้ปัจจุบันสำหรับในส่วนของ ‘วงกลม’ ถือเป็นรูปทรงที่แสดงชัดทั้งสองภาษา ตรงกับเวทีราชดำเนินที่มีอัฒจันทร์คนดูเป็นวงกลมมาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น กลายเป็นสัญญะหนึ่งสำหรับการนำมาปรับใช้เพื่อสื่อความหมายของโลโก้ได้อย่างลงตัวแหล่งข่าว.https://www.facebook.com/thestandardth/photos/a.1725541161072102/3081879318771606/